ENVIRONMENT

‘ธารา’ เชื่อสารปนเปื้อนแม่น้ำกก เกิดจากเหมืองแรร์เอิร์ธ จี้ตรวจสอบ

วันนี้ (24 พ.ค.68) นายธารา บัวคำศรี ที่ปรึกษายุทธศาสตร์ กรีนพีซ ประเทศไทย เปิดเผยกับ The Reporters ถึงกรณีที่พบสารปนเปื้อนในแม่น้ำกกและแม่น้ำสาย จากข้อมูลมลพิษในแม่น้ำกกและแม่น้ำสาย ที่เกิดจากการทำเหมืองในเมียนมา จึงตั้งข้อสังเกตว่าอาจจะไม่ใช่เหมืองทอง แต่เป็นเหมืองแรร์เอิร์ธล้วน จากการแปรผลภาพถ่ายดาวเทียมเหมืองทองตรงริมน้ำกกน่าจะเป็นโรงแต่งแร่แรร์เอิร์ธ ทั้งนี้ ในลุ่มน้ำกกและลุ่มน้ำสายมีจุดทำเหมือง ประมาณ 14-15 จุด ซึ่งเป็นการใช้สารเคมีทำการชะละลาย ดึงแร่ออกจากพื้นที่ ต่างจากการเปิดหน้าดินขุดเป็นเหมืองทอง

สาเหตุที่ตั้งข้อสังเกตเช่นนี้ เนื่องจากมีกรณีศึกษาที่รัฐคะฉิ่น ประเทศเมียนมา มีบ่อกลม 2,700 บ่อ กระจายไปตามพื้นที่ที่คาดว่าจะเป็นเหมืองแรร์เอิร์ธ ราว 300 บ่อ สันนิษฐานได้ว่าการทำเหมืองในแม่น้ำกกและแม่น้ำสายเลียนแบบมาจากรัฐคะฉิ่น

แร่แรร์เอิร์ธในเมียนมาเป็นแหล่งส่งออกใหญ่ที่สุดในโลกไปจีน เดิมจีนทำแร่แรร์เอิร์ธเช่นเดียวกับที่รัฐคะฉิ่นแต่ก็มีปัญหาสารพิษและการชะล้างหน้าดิน รัฐบาลจีนเข้มงวดมาก ทำให้บริษัทจีนต้องย้ายมาอยู่ที่รัฐคะฉิ่น ภายใต้กองกำลังคะฉิ่นที่เป็นไม้เบื่อไม้เบากับรัฐบาลเมียนมา ซึ่งกองกำลังว้าน่าจะต้องการหารายได้มาให้กับกองกำลังของตนเอง เนื่องจากแรร์เอิร์ธมีราคาสูงมาก

เหมืองแรร์เอิร์ธที่รัฐคะฉิ่น เมื่อถูกตัดเส้นทางการเงินเพื่อไม่ให้ดำเนินการต่อได้ ก็ได้ย้ายมาที่บริเวณรัฐฉานในแม่น้ำกกและแม่น้ำสาย คาดว่าแร่แรร์เอิร์ธ ส่วนใหญ่จะส่งออกไที่จีน เราจึงต้องเจรจากับจีน ไม่ให้ห่วงโซ่อุปทานนี้ไปกระทบกับคนอีกล้านคน สำหรับวิกฤติในแม่น้ำกกและแม่น้ำสาย เราอาจจะตรวจหาแค่สารตะกั่วและสารหนูอย่างเดียวไม่พอ เนื่องจากเป็น Heavy Rare Earth ที่จะนำไปใช้ในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์

รัฐบาลต้องตามให้ทัน ไม่เช่นนั้นลำบากแน่ ไทยมีสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA, Remote Sensing และดาวเทียม เราแค่หาดาวเทียมดวงหนึ่งบินผ่าน และใช้ภาพถ่ายความละเอียดสูงก็จะได้เห็นว่าเหมืองดังกล่าวนั้นคืออะไร ซึ่งเชื่อว่าน่าจะเป็นแร่หายากหรือแร่แรร์เอิร์ธ 99.99%

นายธารา กล่าวว่าสารเคมีที่ใช้ในเหมืองที่คาดว่าเป็นเหมืองแรร์เอิรธ์ มีแอมโมเนีย กรดออกซาลิกที่ทำหน้สที่กัดกร่อนเพื่อชะแร่ และแอมโมเนียมซัลเฟต วิธีสกัดแรร์เอิร์ธด้วยการชะละลายแหล่งแร่ (In Situ Leaching) เมื่อพื้นที่หนึ่งแร่หมดแล้วก็จะกระจายไปพื้นที่ข้าง ๆ ระบาดไปทั่ว สิ่งที่ตามมาคือการชะล้างพังทลายของดินลงแม่น้ำ จึงไม่แปลกใจที่เห็นแม่น้ำกกและแม่น้ำสายมีแต่ตะกอนและโคลน

ดังนั้นรัฐบาลจะต้องตรวจหาสารกัมมันตรังสีด้วย หรือการหาดัชนีชี้วัดว่า สารปนเปื้อนดังกล่าวเกิดจากเหมืองแรร์เอิร์ธ สำหรับแอมโมเนียมซัลเฟตนั้น ผลิตขึ้นที่จีนส่งมาที่เมียนมาเพื่อทำเหมืองแร่เอิร์ธในรัฐคะฉิ่นล้านกว่าตันต่อปี เช่นเดียวกับกับกรดออกซาลิกอีกเกือบ 2 แสนตัน โดยกรดสองตัวนี้ถือเป็นสารตั้งต้นที่นำมาสกัดหาแร่หายาก แต่ผลข้างเคียงน่าจะมีสารหนักอย่างอื่นด้วยที่อาจไม่ได้อยู่ในรายการค่ามาตรฐานคุณภาพ และตะกอนดินในไทยและเมียนมา หรือเป็นสารเคมีอีกตระกูลหนึ่ง

”แนวโน้มการทำแร่แรร์เอิร์ธน่าจะมีการขยายตัว รัฐบาลจึงต้องคุยกับจีน หากต้องการแรร์เอิร์ธไปปฏิวัติพลังงานต้องทำให้ดี ๆ ระบบนิเวศที่เชื่อมกับเหมืองแรร์เอิร์ธพัง พื้นที่ป่ากว่าจะฟื้นตัวต้องใช้เวลานาน การปนเปื้อน ดังนั้นรัฐบาลจะต้องศึกษาหาผลกระทบ“

นายธารา วิเคราะห์ว่าการทำเหมืองแรร์เอิร์ธ จะแบ่งเป็นแร่เอิร์ธแบบหนัก ประกอบด้วยเทอร์เบียม และดิสโพรเซียม ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน และในช่วงที่ฝนตกสารพวกนี้ก็จะไหลลงมาตามลำน้ำสาขาพร้อมกับตะกอนดิน เปรียบเสมือนค็อกเทลของสารเคมี ที่มีสารหลายตัวรวมกันแล้วไหลมาตามน้ำ

จึงขอเสนอแนะต่อรัฐบาลให้ใช้เทคโนโลยีดาวเทียมเพื่อหาว่าเหมืองดังกล่าวเป็นเหมืองอะไรกันแน่ เพื่อหารือกับจีนและเมียนมา หากเป็นเหมืองแรร์เอิร์ธจริง เราต้องตัดห่วงโซ่อุปทานให้กลุ่มว้าขาดท่อน้ำเลี้ยงนำมาสู่การเจรจา

“แรร์เอิร์ธเป็นเรื่องระดับโลก เราต้องมีรถยนต์ EV กังหันลม โทรศัพท์มือถือ ทุกอย่างในโลกสมัยใหม่มาจากแรร์เอิร์ธ ดังนั้นเราจึงต้องทำให้การทำแร่แรร์เอิร์ธปลอดทั้งหมดมลพิษ การกดขี่แรงงาน และความขัดแย้ง ส่วนเขื่อนดักตะกอนควรจะไว้ทีหลัง ไม่ค่อยมีประโยชน์ เอางบประมาณไปทำอย่างอื่นที่ช่วยคนดีกว่า ” นายธารา ทิ้งท้าย

Related Posts

Send this to a friend

Thailand Web Stat