PUBLIC HEALTH

สธ.พบผู้เข้าข่าย ‘โอมิครอน’ 11 ราย ยืนยันผล แล้ว 8 ราย ทั้งหมดมาจากต่างประเทศ

กระทรวงสาธารณสุข เผยผลตรวจเชื้อโควิดผู้เดินทางเข้าประเทศไทย พบเข้าข่ายสายพันธุ์ ‘โอมิครอน’ 11 ราย ถอดรหัสพันธุกรรมยืนยันแล้ว 8 ราย อีก 3 รายกำลังรอผล โดยอยู่ใน กทม. 9 ราย นนทบุรีและชลบุรีจังหวัดละ 1 ราย ยืนยันยังไม่พบการติดเชื้อภายในประเทศ และยังไม่พบสายพันธุ์ลูกผสมหรือไฮบริด รวมถึงไม่พบสายพันธุ์ย่อยโอมิครอน BA2

วันนี้ (13 ธ.ค. 64) ที่ศูนย์แถลงข่าวสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงสาธารณสุขจ.นนทบุรี นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ แถลงสถานการณ์โรคโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน ว่า ตั้งแต่เปิดประเทศ วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 มีการตรวจเฝ้าระวังสายพันธุ์จากตัวอย่างผู้ติดเชื้อภายในประเทศและผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ จำนวน 4,797 ตัวอย่าง 

ส่วนใหญ่ยังเป็นสายพันธุ์เดลตา 4,777 ตัวอย่าง คิดเป็น 99.58% สายพันธุ์อัลฟา 8 ตัวอย่าง คิดเป็น 0.17% สายพันธุ์เบตา 1 ตัวอย่าง คิดเป็น 0.02% และพบเข้าข่ายสายพันธุ์โอมิครอน 11 ตัวอย่าง จากผู้เดินทางเข้าประเทศทั้งหมดซึ่งเป็นการตรวจเบื้องต้นด้วยการหาตำแหน่งเฉพาะ (SNP) และมีการตรวจด้วยวิธีถอดรหัสพันธุกรรมทั้งตัวยืนยันแล้ว 8 ราย ส่วนอีก 3 รายอยู่ระหว่างรอผลตรวจ

สำหรับผู้เข้าข่ายสายพันธุ์โอมิครอนทั้ง 11 ราย อยู่ในพื้นที่ กทม. 9 ราย นนทบุรีและชลบุรี จังหวัดละ 1 ราย แบ่งเป็น รายที่ 1 ชายอเมริกันอายุ 35 ปี มาจากสเปน เข้าระบบ Test &Go กทม. ผลยืนยันแล้ว, รายที่ 2 และ3 หญิงไทย อายุ 46 ปี และ 36 ปี กลับจากไนจีเรีย เข้า ASQ กทม. ผลยืนยันแล้ว, รายที่ 4 ชายไทยอายุ 41 ปี กลับจากดิอาร์คองโก เข้าแซนด์บ็อกซ์ กทม. รอยืนยันผล, รายที่ 5 ชายไทยอายุ 39 ปีกลับจากไนจีเรีย เข้าแซนด์บ็อกซ์ กทม. ผลยืนยันแล้ว, รายที่ 6 ชายโคลัมเบียอายุ 62 ปี มาจากไนจีเรียเข้าแซนด์บ็อกซ์ กทม. รอยืนยันผล, รายที่ 7 ชายอังกฤษอายุ 51 ปี มาจากอังกฤษ ผลยืนยันแล้ว, รายที่ 8 ชายไทยอายุ 37 ปี มาจากแอฟริกาใต้ เข้า ASQ นนทบุรี ผลยืนยันแล้ว, รายที่ 9 ชายอเมริกันอายุ 40 ปีเดินทางจากสหรัฐอเมริกาเปลี่ยนเครื่องที่เกาหลีใต้ เข้า Test&Go กทม. ผลยืนยันแล้ว, รายที่ 10 ชายเบลารุสอายุ 51 ปี มาจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เข้า Test&Go กทม. ผลยืนยันแล้ว และรายที่ 11 ชายอังกฤษอายุ 31 ปี มาจากอังกฤษ เข้า Test &Go กทม. รอยืนยันผล

“หลังได้ผลตรวจเบื้องต้น อีกประมาณ 3 วันจึงจะได้ผลตรวจยืนยัน โดยบางรายที่รอผลตรวจยืนยันเนื่องจากตัวอย่างมีเชื้อไม่มากพอ จึงต้องตรวจซ้ำ ทำให้รายที่ตรวจภายหลังมีผลยืนยันออกมาก่อนอย่างไรก็ตาม แม้จะยังไม่ได้ผลตรวจยืนยันแต่ได้แจ้งให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดและกรมควบคุมโรคทราบทันที เพื่อสอบสวนผู้สัมผัสเสี่ยงและนำมาตรวจหาเชื้อต่อไป ทั้งนี้ การที่ผลตรวจเบื้องต้นและผลตรวจยืนยันตรงกันว่าเป็นโอมิครอน ต่อไปอาจไม่ต้องตรวจยืนยันทุกราย” นพ.ศุภกิจกล่าว

นพ.ศุภกิจกล่าวต่อว่า ส่วนโควิดสายพันธุ์ลูกผสมระหว่าง 2 สายพันธุ์ หรือไฮบริดยังไม่พบในประเทศไทยแต่มีการเฝ้าระวังจากการตรวจสายพันธุ์ต่อเนื่อง สำหรับสายพันธุ์ย่อยโอมิครอน BA2 ยังไม่พบในประเทศไทยเช่นกัน ประชาชนจึงไม่ต้องกังวล และขอย้ำว่า มาตรการภาครัฐและความร่วมมือของประชาชนในการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันตนเองขั้นสูงสุด สามารถรับมือสายพันธุ์โอมิครอนหรือสายพันธุ์อื่นๆ ในอนาคตได้ ขอให้มาฉีดวัคซีนและเคร่งครัดมาตรการต่างๆ

ด้าน นพ.วิชาญ ปาวัน ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กล่าวว่า สถานการณ์โควิด-19 ประเทศไทยวันนี้มีผู้ป่วยรักษาหาย 5,467 ราย มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 3,398 ราย เสียชีวิต 23 ราย แนวโน้มลดลงต่อเนื่อง การระบาดเป็นแบบคลัสเตอร์ขนาดเล็กถึงขนาดกลาง ในชุมชน สถานประกอบการ ตลาดแคมป์ คนงาน โรงเรียน เป็นต้น และจากข้อมูลการสุ่มตรวจ ATK ภาพรวมยังไม่พบคลัสเตอร์ขนาดใหญ่ยังสามารถตรวจจับการระบาดและดำเนินการตามมาตรการที่กำหนดไว้ได้ ซึ่งจากข้อมูลที่ได้รับรายงานร่วมกับข้อมูลที่สุ่มตรวจ ATK สอดคล้องกันว่าสถานการณ์โควิด-19 ของประเทศอยู่ในช่วงขาลง 

สำหรับการเฝ้าระวังทางเข้าออกระหว่างประเทศในท่าอากาศยาน ระว่างวันที่ 1-30 พฤศจิกายน 2564  มีผู้เดินทางเข้าประเทศ 133,061 ราย พบผู้ติดเชื้อ 171 ราย คิดเป็น 0.13% และในช่วง วันที่ 1-12 ธันวาคม2564 มีผู้เดินทางข้าประเทศ 87,383 ราย พบผู้ติดเชื้อ 152 ราย คิดเป็น 0.17% โดยพบสัดส่วนผู้ติดเชื้อที่เดินทางเข้าประเทศแบบ Test & Go มากขึ้น และเริ่มตรวจพบการติดเชื้อหลัง Day 0 ทำให้ต้องติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิดเสี่ยงสูงจำนวนมาก จึงเสนอให้โรงแรม SHA+ ทำการ Scan QR-Code จากแอปพลิเคชั่นหมอชนะในผู้เดินทางทุกราย 

รวมทั้งจัดทำระบบติดตามผู้เดินทางแบบ Test & Go และแจ้งข้อมูลกับทีมสอบสวนโรค เพื่อลดเวลาการติดตามค้นหาผู้สัมผัสเสี่ยงสูง เน้นกำกับติดตามมาตรการ VUCA เพื่อเตรียมพร้อมรับช่วงเทศกาลปีใหม่โดยเฉพาะร้านอาหารที่ให้ดื่มสุราภายในร้าน รวมถึงเคร่งครัดมาตรการ UP โดยเฉพาะการสวมหน้ากากโดยสื่อสารทำความเข้าใจกับคนไทย ชาวต่างชาติที่เข้าประเทศรูปในแบบ Test & Go, Sandbox และคนไทยที่เดินทางจากต่างประเทศ เพื่อลดการติดเชื้อ ซึ่งภาพรวมการเปิดประเทศที่ผ่านมายังไม่ส่งผลกระทบต่อการแพร่ระบาดของโควิด 19 ในประเทศ

นพ.วิชาญกล่าวต่อว่า ส่วนสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนทั่วโลกขณะนี้พบใน 69 ประเทศ สำหรับประเทศไทยพบผู้ติดเชื้อเดินทางมาจากต่างประเทศจำนวน 11 ราย จาก สหราชอาณาจักรสเปน สหรัฐอเมริกา สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ไนจีเรีย สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก และแอฟริกาใต้แยกเป็น ระบบ Test& Go 5 ราย  Sandbox 3 ราย และจาก ASQ 3 ราย ขณะนี้ยืนยันผลแล้ว 8 ราย ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขจะเฝ้าระวังอย่างเต็มที่ต่อไป

Related Posts

Send this to a friend