PUBLIC HEALTH

ประชุม คกก.จัดการโควิดเป็นโรคประจำถิ่น ครั้งแรก

‘อนุทิน’ ประชุม คกก.จัดการโควิดเป็นโรคประจำถิ่น ครั้งแรก คาด ปลายเดือนนี้ลดระดับเตือนภัยอีกรอบ

รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ประชุมคณะกรรมการชุดจัดการโควิด-19 สู่โรคประจำถิ่น ครั้งแรก เพื่อรับฟังความเห็นและเตรียมการผ่อนคลายมาตรการ ให้มีความสมดุลทั้งทางการแพทย์ สาธารณสุข เศรษฐกิจ และสังคม คาดปลายเดือนนี้จะเข้าสู่ระยะโรคลดลง อาจพิจารณาลดระดับการแจ้งเตือนภัย เป็นระดับ 2

วันนี้ (12 พ.ค. 65) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบูรณาการความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนในการจัดการสถานการณ์โรคโควิด-19 สู่โรคประจำถิ่น (Endemic) ครั้งที่ 1/2565 โดยมีผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม

นายอนุทิน กล่าวว่า จากความร่วมมือของทุกภาคส่วน ทำให้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศไทยขณะนี้ มีแนวโน้มลดลงและอยู่ในการควบคุม ประชาชนมีภูมิคุ้มกันที่มากเพียงพอให้สามารถเข้าสู่การเป็นโรคประจำถิ่น หรือโรคติดต่อทั่วไปได้ จึงต้องเตรียมการเพื่อปรับรูปแบบการบริหารจัดการ และการผ่อนคลายมาตรการต่างๆ ให้ประชาชนได้กลับมาดำเนินชีวิตในวิถีปกติใหม่ และฟื้นฟูเศรษฐกิจ

ทั้งนี้ ต้องดำเนินการอย่างรอบคอบรัดกุม และบูรณาการทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง จึงได้แต่งตั้งคณะกรรมการบูรณาการความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนขึ้น เพื่อร่วมกันกำหนดแผน มาตรการ และแนวทางข้อเสนอต่างๆ ให้สามารถควบคุมสถานการณ์และเข้าสู่โรคประจำถิ่นได้อย่างเหมาะสม

นายอนุทิน ยังกล่าวอีกว่า จากแผนและมาตรการบริหารจัดการสถานการณ์โควิด-19 สู่โรคประจำถิ่น ที่มี 4 ระยะ คือ ระยะต่อสู้กับโรค (Combatting) ระยะโรคทรงตัว (Plateau) ระยะโรคลดลง (Declining) และระยะหลังการระบาด (Post pandemic) ขณะนี้ประเทศไทยอยู่ในระยะทรงตัว จึงประกาศลดระดับการเตือนภัยโควิดจากระดับ 4 มาเป็นระดับ 3 พร้อมดำเนินงานในแต่ละด้าน คือ

1.ด้านสาธารณสุข เดินหน้าฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นให้ได้มากกว่าร้อยละ 60 เน้นเฝ้าระวังการระบาดที่เป็นกลุ่มก้อน และผู้ป่วยปอดอักเสบ และผ่อนคลายมาตรการสำหรับผู้เดินทางจากต่างประเทศเพิ่มขึ้น

2.ด้านการแพทย์ ปรับแนวทางการดูแลรักษาแบบผู้ป่วยนอก เน้นดูแลผู้ป่วยที่เสี่ยงอาการรุนแรง มีอาการรุนแรง และภาวะลองโควิด

3.ด้านกฎหมายและสังคม เตรียมการด้านกฎหมายของทุกหน่วยงานให้สอดคล้องกับการปรับตัวสู่การเป็นโรคประจำถิ่น ลดการจำกัดการเดินทางและการรวมตัวของคนหมู่มาก ส่งเสริมมาตรการ Universal Prevention และมาตรการ COVID Free Setting

4.ด้านการสื่อสารประชาสัมพันธ์ เน้นการสร้างความรู้ความเข้าใจในการใช้ชีวิตร่วมกับโรคโควิด 19 อย่างปลอดภัย

ทั้งนี้ คาดว่าช่วงปลายเดือนพฤษภาคม – มิถุนายนนี้ สถานการณ์จะเข้าสู่ระยะโรคลดลง (Declining) และจะมีการผ่อนคลายมากขึ้น รวมถึงจะประกาศลดระดับการเตือนภัยเป็นระดับ 2

Related Posts

Send this to a friend