PUBLIC HEALTH

‘โมเดอร์นา’ เรียกคืนวัคซีนโควิด-19 ในญี่ปุ่น พบปนเปื้อน ‘สแตนเลส’

โตเกียว – วันพฤหัสบดี ที่ 2 กันยายน 2564 สื่อท้องถิ่นของญี่ปุ่นรายงานว่าโมเดอร์นา อิงก์ (Moderna, Inc.) และบริษัท ทาเคดะ ฟาร์มาซูติคอล จำกัด (Takeda Pharmaceutical) กำลังทำงานร่วมกับรัฐบาลญี่ปุ่น เพื่อเรียกคืนวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) จำนวน 3 ชุด หลังตรวจพบเหล็กกล้าไร้สนิมหรือสแตนเลสปนเปื้อนในวัคซีนบางส่วน

ก่อนหน้านี้เมื่อวันพุธ (1 ก.ย. 64) กระทรวงสาธารณสุขญี่ปุ่นระบุว่าสารแปลกปลอมที่พบในวัคซีนบางส่วนของโมเดอร์นา อิงก์ ในญี่ปุ่น ได้รับการยืนยันว่าเป็นเหล็กกล้าไร้สนิมหรือสแตนเลส ซึ่งอาจปนเปื้อนระหว่างกระบวนการผลิต

แถลงการณ์ร่วมจากโมเดอร์นากับทาเคดะ ผู้รับผิดชอบการจัดสรรวัคซีนดังกล่าวในญี่ปุ่น บ่งชี้สาเหตุการปนเปื้อนที่เป็นไปได้มากที่สุดอาจมีต้นตอจากการเสียดสีของโลหะสองชิ้นในเครื่องจักรปิดฝาบรรจุภัณฑ์วัคซีน โดยโมเดอร์นาดำเนินการตรวจสอบร่วมกับทาเคดะ และโรวี (Rovi) บริษัทเวชภัณฑ์ของสเปน ซึ่งดูแลโรงงานที่เกิดการปนเปื้อน

ด้านกระทรวงฯ มองว่าอนุภาคสแตนเลสไม่น่าก่อความเสี่ยงทางสุขภาพ หากพิจารณาตามข้อมูลที่ได้จากการตรวจสอบของบริษัททั้งสาม

“สแตนเลสเป็นวัตถุดิบที่มักถูกนำมาใช้ผลิตลิ้นหัวใจเทียม วัสดุทดแทนข้อต่อ รวมถึงวัสดุเย็บแผล การฉีดวัคซีนที่มีการปนเปื้อนสารชนิดนี้จึงไม่น่ามีแนวโน้มเพิ่มความเสี่ยงทางการแพทย์” แถลงการณ์ร่วมจากทาเคดะและโมเดอร์นาระบุ

ญี่ปุ่นระงับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของโมเดอร์นา จำนวน 1.63 ล้านโดส เมื่อสัปดาห์ก่อน หลังพบสารแปลกปลอมในขวดบรรจุ 39 ขวด ซึ่งทั้งหมดมาจากล็อตเดียวกัน พร้อมระงับการฉีดวัคซีนอีกสองล็อตจากสายการผลิตของโรวีเพื่อเป็นการป้องกันล่วงหน้าด้วย

ขณะเดียวกันทางการท้องถิ่นในสามพื้นที่ของญี่ปุ่นระงับการฉีดวัคซีนชุดอื่นชั่วคราวในสัปดาห์นี้ โดยบางกรณีเป็นผลจากการตรวจพบสารแปลกปลอมในขวดวัคซีนที่ยังไม่ได้เปิดใช้ ขณะที่กรณีอื่นเกิดจากการที่จุกยางของขวดแตกออกหลังใส่เข็มฉีดยาอย่างไม่ถูกต้อง

ปัญหาวัคซีนปนเปื้อนได้รับความสนใจมากขึ้นหลังจากกระทรวงฯ รายงานกรณีชาย 2 ราย อายุ 38 ปี และ 30 ปี เสียชีวิตไม่กี่วันหลังฉีดวัคซีนโดสที่ 2 ของโมเดอร์นาเมื่อเดือนสิงหาคม โดยทั้งสองรายฉีดวัคซีนจากหนึ่งในล็อตที่ถูกระงับการใช้งานแล้ว

ทั้งนี้ สาเหตุการเสียชีวิตของชายสองรายดังกล่าวยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ โดยทาเคดะระบุว่าไม่มีหลักฐานบ่งชี้ว่าการเสียชีวิตมีต้นตอจากวัคซีน และปัจจุบันความเชื่อมโยงดังกล่าวถือว่าเป็นเรื่องบังเอิญ

ที่มา: สำนักข่าวซินหัว

Related Posts

Send this to a friend