‘I-HERB’ ปรับโฉมแบรนด์ใหม่ ดึง ‘มาริโอ้’ เจาะคนรุ่นใหม่ ชูเม็ดอมสมุนไพรสุขภาพ
บริษัท มิลลิเมด จำกัด ผู้ผลิตและทำตลาดเม็ดอมสมุนไพร ไอ-เฮิร์บ (I-HERB) ประกาศปรับภาพลักษณ์แบรนด์ครั้งสำคัญ พร้อมเปิดตัว นายมาริโอ้ เมาเร่อ นักแสดงชื่อดัง เป็นพรีเซนเตอร์คนแรก เพื่อรุกตลาดเม็ดอมสมุนไพรเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ โดยตั้งเป้าหมายก้าวสู่แบรนด์ที่เป็น ‘ท็อป ออฟ มายด์’ ของผู้บริโภคภายใน 3 ปี
นายพันธิกันต์ สุวรรณคีรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท มิลลิเมด จำกัด เปิดเผยว่า ไอ-เฮิร์บ พัฒนาขึ้นภายใต้แนวคิดเม็ดอมสมุนไพรสูตรใหม่ปราศจากน้ำตาล โดยใช้สารให้ความหวานจากไอโซมอลต์ ซึ่งไม่ทำให้ฟันผุและไม่กระทบต่อระดับน้ำตาลในเลือด เน้นกลิ่นและรสชาติที่ทานง่าย ผู้บริโภคจึงสามารถบริโภคได้บ่อยครั้งแม้ไม่มีอาการไอหรือเจ็บคอ ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์วางตำแหน่งทางการตลาดในกลุ่มสมุนไพรจากธรรมชาติ มีจุดเด่นด้านรสชาติที่ดีควบคู่กับประโยชน์ทางสุขภาพ ซึ่งสอดรับกับพฤติกรรมของคนรุ่นใหม่ที่มองหาสินค้าเพื่อสุขภาพพร้อมประสบการณ์ที่ดี
การตัดสินใจเลือก นายมาริโอ้ เมาเร่อ เป็นพรีเซนเตอร์ นายพันธิกันต์ให้เหตุผลว่า บุคลิกที่เป็นธรรมชาติ เข้าถึงง่าย และการดูแลสุขภาพที่ดีของนายมาริโอ้ จะช่วยสะท้อนภาพลักษณ์ของไอ-เฮิร์บให้ทันสมัย เข้าถึงคนรุ่นใหม่ ขณะเดียวกันยังคงความน่าเชื่อถือของแบรนด์ โดยบริษัทได้เตรียมกลยุทธ์สื่อสารการตลาดครบวงจร ทั้งภาพยนตร์โฆษณา สื่อนอกบ้าน สื่อในร้านค้า การจัดกิจกรรมภาคสนามแจกสินค้าตัวอย่าง รวมถึงการใช้สื่อออนไลน์และกิจกรรมทางโซเชียลมีเดีย เพื่อสร้างการรับรู้และประสบการณ์ที่ไร้รอยต่อแก่ผู้บริโภคในทุกช่องทาง โดยเฉพาะการเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนซึ่งเป็นตลาดสำคัญ
นายพันธิกันต์ กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทมุ่งเน้นสร้างการปรากฏของแบรนด์ (Brand Presence) ที่แข็งแกร่ง และสร้างความคุ้นเคยกับกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลาย เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ การพัฒนาเม็ดอมไอ-เฮิร์บ ยึดหลักการสำคัญของแบรนด์ คือ I-Ingredients คัดสรรวัตถุดิบคุณภาพ H-High Quality ใส่ใจทุกกระบวนการผลิตจนได้รับรางวัล อย. ควอลิตี้ อวอร์ด ต่อเนื่อง 3 ปีซ้อน E-Extraordinary รสชาติอร่อยทานง่าย R-Result ให้ผลลัพธ์จริง และ B-Benefit มอบประโยชน์สูงสุดแก่ผู้บริโภค
ปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์หลักของไอ-เฮิร์บ ประกอบด้วย เม็ดอมสมุนไพร ยาอมและยาน้ำแก้ไอ และสเปรย์พ่นคอ วางจำหน่ายผ่านร้านขายยา ร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น จิฟฟี่ ทัวริสต์สโตร์ และช่องทางอีคอมเมิร์ซ เช่น ลาซาด้า และติ๊กต็อกช็อป ในราคาซองละ 32 บาทสำหรับเม็ดอมสมุนไพร
สำหรับทิศทางในอนาคต บริษัทวางแผนพัฒนาสินค้าใหม่อย่างต่อเนื่อง และขยายตลาดส่งออกไปยังกลุ่มประเทศเอเชีย โดยตั้งเป้าให้ไอ-เฮิร์บครองใจผู้บริโภคเป็นอันดับแรกภายใน 3 ปี ซึ่งปัจจุบันแบรนด์มีสัดส่วนรายได้ประมาณ 10% ของยอดขายรวมของบริษัท นายพันธิกันต์ ยังมองว่าตลาดยาอมสมุนไพรในไทยมีแนวโน้มเติบโตสูงหลังยุคโควิด-19 จากความใส่ใจสุขภาพที่เพิ่มขึ้นและการแข่งขันด้านนวัตกรรม ไอ-เฮิร์บจึงมุ่งตอบโจทย์ผู้บริโภควัยทำงานและนักท่องเที่ยวที่ต้องการยาอมสมุนไพรที่รสชาติดี
