ASEAN Int’l Optics Fair เตรียมเปิดฉาก 9-11 ต.ค.นี้ ต่อยอดอุตสาหกรรมแว่นตาในอาเซียน
ASEAN Int’l Optics Fair งานแสดงสินค้าและสัมมนาระดับนานาชาติด้านแว่นตาและสายตา รวบรวมแบรนด์ ผู้ประกอบการด้านแว่นตา เลนส์ บรรจุภัณฑ์ และอุปกรณ์ชั้นนำทั่วโลกกว่า 200 ราย เข้าร่วมงานเพื่ออัปเดตเทรนด์และนวัตกรรมต่าง ๆ รวมถึงเวทีเจรจาธุรกิจระดับนานาชาติ สร้างโอกาสทางธุรกิจให้อุตสาหกรรมสายตาและแว่นตาในภูมิภาคอาเซียน โดยจัดขึ้นวันที่ 9–11 ตุลาคม 2568 ณ ฮอลล์ 5-6 อิมแพ็ค เมืองทองธานี
เว่ย พาน ประธานคณะกรรมการจัดงาน บริษัท ดอนเนอร์ เอ็กซิบิชั่น จำกัด กล่าวว่า บริษัทฯ เป็นผู้จัดงานแสดงระดับนานาชาติมีประสบการณ์กว่า 23 ปี ในอุตสาหกรรมแว่นตา ปีนี้เราร่วมมือกับบริษัท บรอด อินเตอร์เนชันแนล จำกัด เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้จัดงาน ASEAN Int’l Optics Fair ครั้งแรกในไทย นับเป็นก้าวสำคัญในการเข้าสู่ตลาดแว่นตาในภูมิภาคอาเซียน ตอบรับการเติบโตทางธุรกิจและประชากรที่เพิ่มขึ้นของภูมิภาค เสริมสร้างบทบาทของไทยให้เป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมแว่นตาของภูมิภาค ส่งเสริมการสร้างรายได้ผ่านการท่องเที่ยว โลจิสติกส์ และการจ้างงาน
เจี้ยนหมิน อู๋ ประธานสมาคมอุตสาหกรรมแว่นตาแห่งมณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน และผู้สนับสนุนหลักของงาน ASEAN Int’l Optics Fair กล่าวว่า ปี 2025 เป็นปีครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน จากข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์ จีนเป็นประเทศคู่ค้าอันดับหนึ่งของไทยติดต่อกัน 12 ปี โดยปี 2024 เพียงปีเดียว มูลค่าการค้าระหว่างสองประเทศอยู่ที่ 94,919.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 8.2% และด้วยศักยภาพของไทยในการเป็นศูนย์กลางของภูมิภาค จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้จัดงานขึ้นเป็นครั้งแรกในไทย
ดร.ดนัย ตันเกิดมงคล ประธานสภาทัศนมาตรศาสตร์แห่งเอเชีย ทำหน้าที่นายกสมาคมทัศนมาตรแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ASEAN Int’l Optics Fair เป็นการผนึกกำลังของหน่วยงานทางวิชาชีพ องค์กรชั้นนำในอุตสาหกรรมแว่น และธุรกิจที่เกี่ยวข้อง สร้างโอกาสทางการเติบโตทั้งในทางวิชาการและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ครั้งสำคัญให้กับอุตสาหกรรมดังกล่าวในไทย ขยายตลาดสู่อาเซียน ซึ่งเป็นหนึ่งในภูมิภาคที่เติบโตสูงสุดในโลก
สมบูรณ์ นำทิพย์จันทาเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ISOPTIK เปิดเผยว่า มูลค่าตลาดแว่นตาของอาเซียนในปี 2567 มีมากกว่า 200,000 ล้านบาท และอีก 10 ปีข้างหน้าจะเติบโตมากกว่า 400,000 ล้านบาท ขณะที่มูลค่าตลาดแว่นตาของไทยปี 2567 อยู่ประมาณ 63,000 ล้านบาท คาดการณ์ว่าจะเพิ่มเป็น 124,000 ล้านบาท ภายในปี 2573 ด้วยอัตราการเติบโต 11.6% ต่อปี
การเติบโตดังกล่าว มาจากจำนวนผู้มีปัญหาทางสายตาเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีสายตายาวตามวัย และวัยทำงานที่ใช้อุปกรณ์ดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง ดิจิทัลไลฟ์สไตล์ทำให้มีความต้องการแว่นตาโปรเกรสซีฟ และแว่นตากึ่งโปรเกรสซีฟคุณภาพสูง ที่สบายตาเพิ่มขึ้น รวมถึงการขยายตัวของชนชั้นกลางทำให้มีความต้องการแว่นตาแฟชั่นและแว่นสายตาคุณภาพสูงเพิ่มขึ้น
ดร.วุฒิพงษ์ พึงพิพัฒน์ อาจารย์พิเศษ สาขาวิชาทัศนมาตรศาสตร์ กล่าวว่า ปัจจุบันยังไม่สามารถผลิตบุคลากรสำคัญอย่างนักทัศนมาตรให้เพียงพอกับความต้องการของตลาด เช่น ในไทยมีนักทัศนมาตรเพียง 800 คน ถือเป็นอุปสรรคหนึ่งของการเติบโตในอุตสาหกรรมนี้ จึงควรเร่งผลิตนักทัศนมาตรให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดที่เพิ่มขึ้น
ดร.ลักษณรินทร์ คานิเยาว์ ผู้จัดการฝ่ายวิชาการ บริษัท จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน(ไทย) จำกัด กล่าวว่า การผลักดันให้อาเซียนเป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมแว่นตาโลกเป็นเรื่องที่ทำได้ แต่ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะภาครัฐในการออกกฎเกณฑ์สร้างมาตรฐานและควบคุมคุณภาพให้สามารถแข่งขันในระดับโลกได้ ขณะเดียวกันผู้ประกอบการเองจำเป็นต้องหันมาให้ความสำคัญกับสร้างแบรนด์ เพื่อสร้างความมั่นใจและการยอมรับในเวทีระดับโลก
ASEAN Int’l Optics Fair จัดแสดงสินค้าและนวัตกรรมของอุตสาหกรรมแว่นตา รวบรวมผู้ประกอบการชั้นนำ 200 ราย นอกจากนี้ยังมีการประชุม Asia-Pacific Eye Health Summit การอัปเดตข้อมูลเชิงลึกด้านอุตสาหกรรม เรียนรู้แนวโน้มตลาด ผ่านงานสัมมนาและเวิร์คชอปจากสมาคมทัศนมาตรแห่งประเทศไทย โซนพิเศษโชว์นวัตกรรมจากประเทศจีน ฮ่องกง เกาหลี ไต้หวัน ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม รวมถึงเวทีเจรจาธุรกิจระดับนานาชาติ