BUSINESS

NGG JEWELLERY เปิดตัว Gem Rarity แบรนด์เครื่องประดับ จากแหล่งกำเนิดเหมืองทับทิม

NGG JEWELLERY เจ้าของธุรกิจเครื่องประดับ ทอง เพชร อัญมณี และนาฬิกา เปิดตัวแบรนด์น้องใหม่ “Gem Rarity” แบรนด์เครื่องประดับ ที่นำอัญมณีทับทิม มาออกแบบเป็นเครื่องประดับ ที่สามารถ Tracing and Tracking หรือติดตามข้อมูลของอัญมณีทับทิม ตั้งแต่เป็นพลอยดิบที่ยังไม่เจียระไน จากแหล่งกำเนิดที่แน่นอน รวมทั้งบอกคุณสมบัติ น้ำหนักก่อนและหลังเจียระไน จนกระทั่งกลายเป็นเครื่องประดับที่สมบูรณ์ เพื่อให้มั่นใจว่าอัญมณีที่เราครอบครองนั้น มาจากธรรมชาติ โดยไม่ผ่านกระบวนการปรับปรุงคุณภาพ

เนื่องจากปัจจุบันอัญมณีทับทิม สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท คือ 1.อัญมณีทับทิมที่ไม่ผ่านการเผาปรับปรุงคุณภาพ และ 2.คือ อัญมณีทับทิมที่ผ่านการเผา ปรับปรุงคุณภาพ (Heated) ด้วยความร้อน (Heat Treatment) หรือการใส่สารเคมีลงไป เพื่อเติมแต่งให้ทับทิม มีความสวยงามมากยิ่งขึ้น พร้อมกันนี้ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับที่มา ของอัญมณีทับทิม ที่ได้รับนิยมในกลุ่มคนเอเชีย เนื่องด้วยสีแดงถือเป็นสีมงคลอันหมายถึง ความมั่งคั่ง ร่ำรวย และความมงคล จึงทำให้คนเอเชียนิยมสะสมอัญมณีทับทิม โดยมักนำมาออกแบบเป็นเครื่องประดับ อย่างแหวน สร้อยข้อมือ ต่างหู และจี้ต่างๆ

ทั้งนี้ “อัญมณี” ของขวัญอันล้ำค่าจากธรรมชาติ โดยอาจเป็นแร่ หรือ หิน รวมถึงสารประกอบอินทรีย์และอนินทรีย์ชนิดต่างๆ ซึ่งสามารถแบ่งออกได้หลากหลายประเภท คุณสมบัติสำคัญที่ปรากฏเด่นชัด ได้แก่ ความสวยงาม (Beauty) ความหายากในตัวเอง (Rarity) และความคงทนต่อการถูกขีดข่วนเป็นรอย (Durability) จึงทำให้อัญมณีมีมูลค่าสูงแ ละควรค่าแก่การสะสม “อัญมณี” ได้รับความสนใจมาตั้งแต่ในช่วง 150,000 ปีก่อน สำหรับในประเทศไทยอัญมณีที่นิยม และเป็นที่รู้จัก มักเรียกว่า “นพรัตน์” หรือ แก้ว 9 ประการ ได้แก่ เพชร ทับทิม มรกต บุษราคัม โกเมน ไพลิน มุก เพทาย และ ไพฑูรย์ ที่มีความสวยงาม และมีความหมายที่แตกต่างกันออกไป

โดย “ทับทิม” หรือ “Ruby” ถือเป็นอัญมณีที่คนไทย คุ้นชินกันเป็นอย่างดี เป็นพลอยเนื้อแข็งในตระกูลคอรันดัม (Corundum) สีแดงของทับทิมเกิดจากไอออน ของโครเมียม (Cr3+) ร่วมกับการเจือปนด้วยไอออนของเหล็กเพียงเล็กน้อย ทำให้ทับทิมสามารถมีได้หลายเฉดสี ตั้งแต่ สีแดงอมชมพู สีแดงอมม่วง ไปจนถึงสีแดงสดคล้ายเลือดของนกพิราบ ที่เรียกกันว่า “Pigeon’s Blood” ซึ่งถูกนิยามว่าเป็นสีที่สวยที่สุดของทับทิม และได้รับการยอมรับจากนักสะสม โดยทับทิมนับเป็นอัญมณีที่มีคุณค่าและหายากชนิดหนึ่ง ถือได้ว่าเป็นอัญมณีสีแดงที่มีราคาสูงที่สุด และเป็นที่นิยมในเอเชียเป็นอย่างมาก เนื่องด้วยสีแดงถือเป็นสีมงคลอันหมายถึง ความมั่งคั่ง ร่ำรวย และความมงคล จึงทำให้คนเอเชียนิยมสะสมอัญมณีทับทิม โดยมักนำมาออกแบบเป็นเครื่องประดับอย่างแหวน สร้อยข้อมือ ต่างหู และจี้ต่างๆ

ทั้งนี้ทับทิมเป็นอัญมณี ที่มีความน่าสนใจในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านประวัติศาสตร์ ศาสนา วงการธุรกิจ และการสร้างสรรค์เป็นเครื่องประดับ โดยอัญมณีทับทิมสามารถ แบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท คือ 1.อัญมณีทับทิมที่ไม่ผ่านการเผาปรับปรุงคุณภาพ (Untreated หรือ Unheated) ซึ่งมักหาพบได้ยาก ด้วยความสวยงามแบบดั้งเดิม ที่ไม่ผ่านการปรับปรุงใดๆ คุณสมบัตินี้ทำให้อัญมณีทับทิม มีมูลค่าสูงอย่างมาก และ 2.คือ อัญมณีทับทิมที่ผ่านการเผา ปรับปรุงคุณภาพ (Heated) ด้วยความร้อน (Heat Treatment) หรือการใส่สารเคมีลงไป เพื่อเติมแต่งให้ทับทิม มีความสวยงามมากยิ่งขึ้น

โดยส่วนใหญ่การเผาปรับปรุงคุณภาพ มักจะทำให้อัญมณีมีความสวยงาม และคงทนถาวรมากยิ่งขึ้น แต่ก็ต้องแลกมาด้วยความหายากที่ลดลง เมื่อเทียบกับชนิดที่ไม่ผ่านการปรับปรุงคุณภาพ โดยอัญมณีทับทิมทั้งสองประเภท สามารถถูกตรวจสอบและจำแนก ออกจากกันได้ด้วยกระบวนการวิทยาศาสตร์ โดยมีสถาบันวิจัยและห้องปฏิบัติการ ด้านอัญมณีต่างๆ ทั้งทางภาครัฐและเอกชนให้บริการ เป็นผู้ออกใบรับรองผลการตรวจสอบ (Report หรือ Certificate) เพื่อให้เรามั่นใจว่าอัญมณีที่เราครอบครองนั้น มาจากธรรมชาติ โดยไม่ผ่านกระบวนการปรับปรุงคุณภาพ

สำหรับแบรนด์ Gem Rarity เป็นการร่วมมือระหว่าง NGG และบริษัท Gemfields ประเทศสหราชอาณาจักร ซึ่งทำเหมืองทับทิมในแหล่งชื่อดังของโลก อย่างประเทศโมซัมบิก (Mozambique) นับเป็นการทำงานครั้งสำคัญ เพราะในปัจจุบันนักสะสม หรือผู้ที่สนใจในอัญมณี ให้ความสำคัญกับที่มาของอัญมณี ตั้งแต่แหล่งกำเนิด ความโปร่งใสของบริษัท ในการทำเหมืองที่มีธรรมาภิบาล และการใช้แรงงานที่ถูกกฎหมาย การได้มาของอัญมณีหนึ่งเม็ด เพื่อส่งต่อทับทิมอันมีความหมายแก่ลูกค้าคนสำคัญ

Related Posts

Send this to a friend