‘พล.อ.สมศักดิ์’ เผย BRN พร้อมยุติความรุนแรง แปรสภาพองค์กร ร่วมพัฒนาชายแดนใต้

‘พล.อ.สมศักดิ์’ เผย BRN พร้อมยุติความรุนแรง แปรสภาพองค์กร ร่วมพัฒนาชายแดนใต้ ไปสู่เป้าหมายสุดท้ายร่วมกัน ชี้เป็นสัญญานดีที่สุดในรอบ 10 ปี นับจากการพูดคุยสันติภาพเริ่มขึ้น

วันนี้ (8 ธ.ค. 68) พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา หัวหน้าคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขชายแดนใต้ เปิดเผยว่า บรรยากาศการพูดคุยระหว่างไทยและ BRN ครั้งแรกที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซียวันนี้เป็นไปอย่างสร้างสรรค์ ทั้ง 2 ฝ่าย มีความหวังว่าการยุติความรุนแรงทั้งหมด สามารถเกิดขึ้นได้ นำไปสู่การพัฒนาประเทศ พัฒนาพื้นที่ชายแดนใต้ร่วมกัน และจะหารือต่อไปว่าจะยุติความรุนแรงโดยสิ้นเชิงจะทำเช่นไร รวมถึงข้อเรียกร้องของ BRN ที่จะพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การศึกษา รูปแบบการบริหารพื้นที่ เป็นไปเชิงบวก ซึ่งต้องพูดคุยอีกระยะหนึ่ง และฟังเสียงสะท้อนในพื้นที่ ทางฝ่ายเทคนิคจะตั้งคณะทำงานเพิ่มเติม

“ฝ่ายไทยได้เน้นย้ำถึง End State จุดหมายปลายทางของการพูดคุย ที่คุยมา 10 ปี ยังไม่มีภาพสุดท้าย เราหยิบยกมาเป็นหัวข้อสำคัญคือ 1.การยุติความรุนแรงโดยสิ้นเชิง2.จะพัฒนาร่วมกันภายใต้สังคมพหุวัฒนธรรมโดยให้ BRN แปรสภาพเป็นองค์กรไม่นิยมความรุนแรง มีเกียรติมีศักดิ์ศรีในสังคม และเพิ่มการพัฒนาพื้นที่ต่างๆ”

พล.อ.สมศักดิ์ กล่าวว่า การพูดคุยวันนี้จะนำไปสู่เป้าหมายสุดท้าย End-State ในที่สุดจะนำไปสู่การจัดตั้งคณะทำงานพิจารณาแต่ละเรื่อง เช่น การศึกษา สวัสดิการ การบริหารพื้นที่เป็นต้น

“ผมคิดว่าเป็นเชิงบวกทำให้เห็นความก้าวหน้าวันนี้ ผู้อำนวยความสะดวก BRN และพวกเราเห็นว่าการพูดคุยครั้งนี้ แม้เป็นครั้งแรกหลังผมได้รับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ เดือนที่ผ่านมาก็พบกันแต่เป็นการแนะนำตัว วันนี้คุยกันครั้งแรกหลังหยุดชะงักไปร่วมปี เป็นการยืนยันว่าการพูดคุยสันติสุข จำเป็นต้องมีต่อไปหากเราต้องการแสวงหาทางออกอย่างสันติวิธีอย่างยั่งยืนการพูดคุยวันนี้สะท้อนภาพนั้นอย่างชัดเจน”

พล.อ.สมศักดิ์ ยืนยันด้วยว่า BRN ตอบรับสิ่งที่พูดคุยกัน ซึ่งทาง BRN เสนอมา 3-4 เรื่อง ฝ่ายไทยเสนอ 3 เรื่อง ในการยุติความรุนแรงอย่างสิ้นเชิง หันหน้ามาคุยกัน อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญของไทย ทาง BRN ยืนยันว่าการแบ่งแยกดินแดนไม่ใช่เจตนารมณ์ของ BRN โดยสิ้นเชิง เป็นการสื่สารที่มีความสำคัญ

“BRN เขาย้ำว่า การแบ่งแยกดินแดนไม่ใช่ End State เป้าหมายสุดท้ายที่เขาต้องการ สอดคล้องกับไทยที่ต้องการ ยุติความรุนแรงเสียก่อน ต้องแปรสภาพองค์กรที่ไม่นิยมความรุนแรง นำไปสู่การพัฒนาพื้นที่ร่วมกันภายใต้สังคมพหุวัฒนธรรม โดยมีประชาชนเป็นศูนย์กลาง”

พล.อ.สมศักดิ์ กล่าวว่า BRN พูดอย่างชัดเจนว่าไม่ได้ต้องการแบ่งแยกดินแดน เป็นคำที่สร้างสรรค์ที่สุดตั้งแต่ได้ยินมา ตนเห็นว่าแค่ได้ยินคำว่าไม่แบ่งแยกดินแดน จะมีวิสัยทัศน์ร่วมกัน พัฒนาพื้นที่ร่วมกัน โดยมีประชาชนเป็นศูนย์กลาง น่าจะเป็นที่ชื่นชอบชื่นชมของสองฝ่าย

ส่วนกรอบการยุติความรุนแรงจะหารือกันให้เร็วที่สุด และหารือในรายละเอียด ตั้งคณะทำงาน องค์ประกอบทางฝ่ายเขาและไทย และตัวแทนองค์กรอื่นให้เกิดการมีส่วนร่วมมากที่สุด จะมีกลุ่มอื่นที่ต้องการแสดงเจตนารมณ์ ไม่ว่าจะมาในรูปแบบใด ต้องอยู่ภายใต้ End State ที่ไทยต้องการ

“เราไม่ได้ใช้คำว่า JCPP อีกต่อไป แต่ยึดมั่นข้อตกลงเดิมที่เคยมีมาในอดีต สาระสำคัญ JCPP ก็เอามาใส่ เราจะไม่ได้เรียก JCPP อีกต่อไป จะใช้คำอย่างไร ทางฝ่ายเทคนิคจะไปหาชื่อ ผมไม่สนใจว่าใช้ชื่ออะไร แต่เป็นไปตาม End State ที่ชัดเจนในรอบ 10 ปี”

พล.อ.สมศักดิ์ กล่าวถึงประชาชนในพื้นที่ตนคิดว่านี่เป็นสัญญานเชิงบวกว่าในที่สุดท่านจะใช้ชีวิตปกติสุขเหมือนภาคอื่นๆ โดย BRN จะแปรสภาพเป็นองค์กรที่ไม่นิยมความรุนแรง แต่จะร่วมสร้างสรรค์ความเจริญงอกงามให้ประชาชนในพื้นที่ และประชาชนจะมีสิทธิมีเสียงเสนอความเห็นพัฒนาพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นรูปแบบใด

“ขอให้ไว้วางใจการพูดคุยที่ทำมาเป็นสิบปี ได้ออกดอกออกผลในเชิงสร้างสรรค์ ไม่ต้องกังวลใจอีกว่าแผ่นดินไทยตอนล่างจะถูกแบ่งแยกไป สิ่งนั้นจะไม่มีวันเกิดขึ้น โดยการยุติความรุนแรงจะเป็นก้าวแรก และการพัฒนาพื้นที่จะเกิดขึ้นต่อไป” พล.อ.สมศักดิ์ กล่าวย้ำ