กฟน.พร้อมรับผิดชอบความเสียหายหากพิสูจน์ทราบว่าต้นเพลิงมาจากหม้อแปลงจริง
ผู้ว่าฯ กฟน.ยันพร้อมรับผิดชอบความเสียหายหากพิสูจน์ทราบว่าต้นเหตุเพลิงมาจากหม้อแปลงจริง เตรียมปรับแผนบำรุงรักษาหม้อแปลงไฟฟ้าทั่ว กทม. รับหม้อแปลงที่เกิดเหตุมีอายุ 20 ปี ยังอยู่ในวงรอบการใช้งาน
วันนี้ (27 มิ.ย. 65) นายวิลาศ เฉลยสัตย์ ผู้ว่าการไฟฟ้านครหลวง ลงพื้นที่อาคารพาณิชย์ที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ ย่านตลาดสำเพ็ง ถนนราชวงศ์ เมื่อวานนี้ หลังจากมีพยานในที่เกิดเหตุหลายรายให้ข้อมูลตรงกันว่าเหตุเพลิงไหม้เมื่อวานนี้เกิดจากหม้อแปลงไฟฟ้าที่อยู่ติดกับอาคารระเบิด มีของเหลวไหลออกและลุกลามเป็นเพลิงไหม้อาคาร สร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน
นายวิลาศ ระบุว่า ได้รับทราบข้อสังเกตทั้งหมดหลังจากนี้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ในการพิสูจน์ทราบสาเหตุที่แท้จริงของเพลิงไหม้ในครั้งนี้ หากพบว่าต้นเหตุมาจากหม้อแปลงไฟฟ้าจริงก็พร้อมรับผิดชอบผู้เสียหายทุกราย หม้อแปลงไฟฟ้าลูกดังกล่าว เป็นหม้อแปลงขนาดมาตรฐาน มีอายุประมาณ 20 ปี ยังอยู่ในวงรอบอายุการใช้งานของหม้อแปลงที่ 20-25 ปี มีมูลค่าประมาณ 3-4 ล้านบาท พร้อมบอกว่าในทางวิศวกรรมหม้อแปลงลูกนี้ยังไม่ได้ระเบิด แต่อาจจะเกิดชำรุดจนทำให้มีของเหลวร้อนไหลออกมา หากไหลลงมาแล้วไม่มีวัตถุติดลามไฟก็จะไม่มีเพลิงไหม้ ซึ่งของเหลวดังกล่าวคือ Mineral Oil เป็นน้ำมันไม่ลามไฟแต่มีความร้อน เมื่อไปเจอกับเชื้อเพลิงก็ทำให้เกิดเพลิงไหม้ได้ สาเหตุที่น้ำมันไหลอาจเกิดจากความชำรุดภายในหม้อแปลงต้องรอผลการตรวจสอบอีกครั้ง
“…มันเป็นเรื่องที่พวกเราก็เสียใจนะครับ ที่ทำให้เกิดผลกระทบแบบนี้ จริงๆเรามีการดูแลทั้งเรื่องการทำแผน การบำรุงรักษา การพัฒนาคน เรื่องอุปกรณ์ หลังจากนี้คงต้องไปดูแลเรื่องอุปกรณ์ให้มีความปลอดภัยสูงขึ้นไปอีก…” นายวิลาศ กล่าว
นายวิลาศ กล่าวว่าหลังจากนี้จะเข้าไปรับผิดชอบผู้เสียหาย และขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิต และผู้ได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้ กฟน.ยินดีเข้าไปดูแล หลังจากนี้จะทำแผนบำรุงรักษาหม้อแปลงอีกราว 400 ลูกทั่ว กทม. ปรับแผนตรวจสอบดูแลแต่ละหม้อแปลง อาจติดอุปกรณ์ป้องกันเพิ่มเติมและระบบติดตามดูเพื่อให้รับทราบข้อขัดข้องได้รวดเร็วขึ้น
ส่วนเรื่องที่ผู้เสียหายจะฟ้องร้องต้องไปดูในรายละเอียดอีกครั้ง แต่ในเหตุการณ์ฉุกเฉินปัจจุบัน ยินดีจะรับผิดชอบหากข้อเท็จจริงระบุว่าต้นเพลิงมาจากหม้อแปลงไฟฟ้าจริง
ในเหตุการณ์เมื่อวานนี้ทราบว่ามีเจ้าหน้าที่เข้ามาสับวงจรตามปกติช่วงเช้า ขึ้นไปกดสับสวิตช์เพราะมีสายเคเบิล อาจต้องตัดวงจรหากมีเหตุชำรุด ไม่ได้มีการรื้อซ่อมหม้อแปลง
