เศรษฐกิจชาวบ้านริมน้ำกกดิ่งเหว-ไร้ภาครัฐการเยียวยา นักท่องเที่ยวหวั่นน้ำปนเปื้อนสารพิษ

เศรษฐกิจชาวบ้านริมน้ำกกดิ่งเหว-ไร้ภาครัฐการเยียวยา นักท่องเที่ยวหวั่นน้ำปนเปื้อนสารพิษ ทำ รีสอร์ท-ทัวร์ช้าง-เรือนำเที่ยว-ร้านอาหารริมน้ำทรุดฮวบปางตาย ‘ธีรรัตน์’ เผย มอบให้จังหวัดดำเนินการแล้ว เตรียมลงพื้นที่
เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2568 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่นั่งเรือสำรวจแม่น้ำกกตั้งแต่บริเวณท่าเรือสะพานแม่ฟ้าหลวงไปยังปางช้างกะเหรี่ยงรวมมิตร ต.แม่ยาว อ.เมือง จ.เชียงราย เพื่อติดตามสถานการณ์ของแม่น้ำกกในช่วงต้นฤดูฝนภายหลังจากมีการตรวจพบสารโลหะหนักปนเปื้อนในแม่น้ำเมื่อกว่า 2 เดือนก่อน โดยพบว่าตลอด 2 ฝั่งแม่น้ำเป็นไปด้วยความเงียบเหงา เนื่องจากกิจกรรมต่างๆที่เคยคึกคักในช่วงต้นฤดูฝนได้หายไปหมด เช่น การจับปลา ซึ่งทุกๆปีช่วงนี้ชาวบ้านจะออกมาหาปลากันอย่างคึกคักเพราะมีปลามาก แต่ตอนนี้แทบไม่มีคนหาปลาเลย
ขณะเดียวกันกิจกรรมอื่น ๆ เช่น เรื่องการท่องเที่ยวในแม่น้ำกก โดยปกติในทุก ๆ ปีในช่วงนี้จะมีนักท่องเที่ยวแนวผจญภัยจะล่องเรือไปยังหมู่บ้านรวมมิตรเพื่อเดินป่าหรือนั่งช้าง แต่ปีนี้เงียบเหงามาก เช่นเดียวกับกิจกรรมอื่นๆ เช่น ห้องพักและรีสอร์ทริมแม่น้ำกก ต่างปิดตัวลงเพราะไม่มีแขก ขณะที่ร้านกาแฟตามจุดชมวิวต่างๆก็เป็นไปด้วยความเงียบเหงา เช่นเดียวกับบ่อน้ำแร่ผาเสริฐที่เหลือนักท่องเที่ยวน้อยมาก

นายจำรัส กำแพงคำ คนขับเรือกล่าวว่า นักท่องเที่ยวน้อยที่สุดตั้งแต่ตนทำอาชีพขับเรือมา 20-30 ปี แม้แต่ช่วงการแพร่ระบาดของโควิดก็ยังไม่น้อยเท่านี้ นับตั้งแต่มีข่าวออกไปว่าพบสารพิษในแม่น้ำกกเมื่อต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา ทำให้นักท่องเที่ยวต่างหวาดกลัวการสัมผัสน้ำ ทั้ง ๆ ที่ในความเป็นจริงแล้ว การมาล่องเรือแม่น้ำกกแทบไม่ต้องสัมผัสน้ำเลย และธรรมชาติยังคงงดงามทั้งป่าดอยและหมู่บ้านต่าง ๆ ที่เป็นชาวบ้านกลุ่มชาติพันธุ์
“เมื่อก่อนเราเคยวิ่งเรือกันได้วันละ 3-4 เที่ยว ตอนนี้ได้เดือนละ 2 เที่ยว ๆ ละราว 8,000- 1,000 บาท เราจึงอยู่ไม่ได้แน่ถ้าไม่มีอาชีพอื่นรองรับ อยากให้รัฐบาลเข้ามาช่วยเหลือเยียวยา โดยเฉพาะส่งเสริมการท่องเที่ยวในแม่น้ำกก โดยอธิบายให้ประชาชนเข้าใจว่า ไม่ได้มีความเสี่ยงใดๆจากสารปนเปื้อนเพราะไม่ได้สัมผัสน้ำกก”นายจำรัส กล่าว และว่าตอนนี้ยังไม่มีหน่วยงานราชการเข้ามาสอบถามความเดือดร้อนหรือให้การช่วยเหลือเยียวยาใด ๆ
นายสีทน คำแปง ผู้จัดการปางช้างกะเหรี่ยงรวมมิตร ต.แม่ยาว อ.เมือง จ.เชียงราย กล่าวว่า ตอนนี้นักท่องเที่ยวมานั่งทัวร์ช้างลดลงไปเรื่อย ๆ จากเมื่อเดือนก่อนลดลงเหลือ 20% ตอนนี้เหลือไม่เกิน 10% ทำให้ปางช้างแทบจะอยู่ไม่ได้ แต่โชคดีที่ยังพอมีพืชผักในป่าให้ช้างกินแทนกล้วยอ้อยที่ต้องลดปริมาณลงจากวันละ 300 กก.ต่อตัวเป็น 200 กก.
“ที่นี่มีช้างอยู่ 9 เชือก เมื่อก่อนพวกเขาเคยได้เล่นน้ำในแม่น้ำกกทั้งเช้า กลางวัน เย็น แต่พอแม่น้ำกกมีสารพิษปนเปื้อนทำให้ลงเล่นน้ำไม่ได้ เพราะบางตัวคนลงไปแล้วเป็นผื่นและแผล ตอนนี้เลยต้องใช้วิธีตักน้ำใส่ขัดราด โดยใช้ประปาภูเขาซึ่งแทบไม่พอเพราะตอนนี้ทุกๆบ้านต่างก็ต้องใช้ประปาภูเขา แต่ยังดีที่เป็นหน้าฝน เราจึงรองน้ำไว้ใช้ได้ จริงๆเราอยากจะขุดบ่อบาดาล แต่ก็ไม่มั่นใจว่าน้ำจะปนเปื้อนหรือไม่ เพราะไม่มีใครมาตรวจ อยากให้มีตัวกรองด้วย แต่ทั้งหมดต้องใช้ทุนพอสมควร” นายสีทน กล่าว และว่า ยังไม่มีหน่วยงานราชการเข้ามาให้การช่วยเหลือใด ๆ
นายสีทนกล่าวว่า ตนไม่ต้องการเงินบริจาคเพราะความสงสารช้าง แต่อยากให้มีนักท่องเที่ยวมาใช้บริการช้างมากกว่า โดยเฉพาะทัวร์เดินป่าดูแลช้าง เพื่อที่นักท่องเที่ยวจะได้มาเรียนรู้วิถีชีวิตของป่าและชุมชนด้วย ที่สำคัญคือช่วยกระจายรายได้ให้ชาวบ้าน
ขณะที่นายสี วัย 73 ปี เจ้าของร้านอาหารตามสั่ง หาดเชียงราย อ.เมือง กล่าวว่า ตนขายของที่หาดเชียงรายมา 30-40 ปีก่อน ไม่เคยคิดว่าหาดเชียงรายจะเงียบเหงาขนาดนี้ จากเดิมที่เคยขายของได้วันละมากกว่า 1,000 บาท แต่ตอนนี้ขายได้ไม่ถึง 100 บาท แถมยังต้องจ่ายค่าเช่าให้กับส่วนท้องถิ่นด้วย โดยช่วงที่โควิดระบาดก็ยังพอมีนักท่องเที่ยวมากินอาหาร แต่พอเกิดกรณีสารพิษปนเปื้อนในแม่น้ำกกเรียกได้ว่าตายสนิท เพราะวันๆแทบไม่มีนักท่องเที่ยวเลย
“ช่วงแรกๆ ก็มีหน่วยงานราชการมาสอบถาม แต่ตอนหลังก็หายไปหมด ผมเข้าใจตว่างานเขาคงยุ่ง เห็นใครต่อใครมาสอบถามผมบ่อยๆ บางส่วนก็มาเก็บตัวอย่างดินบ้าง น้ำบ้างไปตรวจ แต่ก็ไม่เห็นจะช่วยเหลืออะไรให้ดีขึ้นได้ ผมอยากให้นักท่องเที่ยวกับมาเที่ยวเหมือนเดิม ที่นี่เรามีภูเขา แม่น้ำและอากาศดีๆ ให้ชม เราไม่ได้ไปลงเล่นน้ำก็ไม่เห็นมีอะไรน่ากลับ มาเที่ยวหาดเชียงรายกันเถอะครับ” นายสี กล่าว
ด้าน น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยกล่าวว่า ได้มอบให้ทางจังหวัดลงไปสำรวจผู้ที่ได้รับผลกระทบจากกรณีที่แม่น้ำเปื้อนเปื้อนสารโลหะหนักแล้วเพื่อให้ให้ความช่วยเหลือเป็นกรณีไปโดยอนุมัติให้เป็นความช่วยเหลือของทางจังหวัดในเบื้องต้นก่อน โดยตนตั้งใจว่าจะลงพื้นที่เพื่อดูผลกระทบที่ชาวบ้านได้รับและความกังวลต่างๆ เพราะบางครั้งนักท่องเที่ยวอาจจะหวาดกลัวเกินไปเพราะการท่องเที่ยวอาจไม่ต้องสัมผัสน้ำ แต่ได้สัมผัสธรรมชาติต่างๆที่สวยงามของแม่น้ำกก