ปรับ 5,000 บาท นทท.เบิ้ลเครื่องยนต์ใส่ช้างป่าเขาใหญ่ อ้าง จอดถ่ายภาพไปอวดลูก
กรณีสื่อสังคมออนไลน์ แชร์คลิปนักท่องเที่ยวชาย ขับกระบะเข้าหาช้างป่าเขาใหญ่ เมื่อวันที่ 6 พ.ย. ที่ผ่านมา โดยจอดรถ เบิ้ลเครื่องยนต์ ก่อนจะเปิดประตูรถออกมาถ่ายภาพ ในลักษณะล่อให้ช้างวิ่งเข้ามาหา
วันนี้ (7 พ.ย. 65) นายชัยยา ห้วยหงษ์ทอง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบทะเบียนรถ ทำให้เจ้าหน้าที่สามารถติดตามตัวผู้กระทำความผิดมาสอบสวนได้แล้ว พบว่า เป็นชายอายุ 44 ปี อ้างว่าขับรถผ่าน เห็นช้างป่าอยู่ข้างหน้า และวิ่งเข้ามาหารถ ตนคิดว่าคงไม่มีอะไร จนช้างวิ่งมาหารถ ก็ไม่ทำอะไร จึงเชื่อว่าเกิดจากอิทธิฤทธิ์อภินิหาริย์เจ้าพ่อเขาใหญ่คอยคุ้มครอง ไม่ให้ช้างป่าเข้ามาทำร้าย จึงขับรถผ่านช้าง แล้วไปจอดเปิดประตูถ่ายภาพ เพื่อเอาไปอวดลูกที่บ้าน ไม่มีเจตนาอะไร ขอรับผิด พร้อมยินยอมให้เปรียบเทียบปรับ ตาม พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ มาตรา 20 พ.ศ. 2562 เป็นเงิน 5,000 บาท และสัญญาว่าจะไม่กระทำอีก
หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ กล่าวเพิ่มเติมว่า พฤติกรรมดังกล่าว ไม่ควรเอาเป็นเยี่ยงอย่าง เพราะนอกจากจะเกิดอันตรายต่อช้างและนักท่องเที่ยว รวมถึงทรัพย์สินของนักท่องเที่ยวแล้ว ยังผิดกฎหมาย ผิดระเบียบของอุทยานฯ อาจทำให้สัตว์ป่ามีพฤติกรรมดุร้าย เปลี่ยนไปจากเดิม
กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ยังแนะนำวิธีสังเกตอารมณ์ช้างอย่างง่ายๆ คือ เมื่อช้างอารมณ์ดี หูจะสะบัดไปมา หางจะแกว่ง และใช้งวงสะบัดไปมา หรือเกี่ยวดึงต้นไม้กิน ไม่ค่อยสนใจผู้คน แต่หากอารมณ์ไม่ดี หูจะตั้งกาง ไม่สะบัดหาง หางชี้ งวงจะนิ่งแข็ง แตะอยู่ที่พื้น หรือใช้งวงตีพื้น และอยู่นิ่ง จ้องมองมานักท่องเที่ยว
ปกติแล้ว ช้างจะวิ่งไล่ผู้รบกวนเป็นระยะทางสั้นๆ เพียง 2–3 ครั้ง หากวิ่งตามผู้รบกวนไม่ทัน ก็จะเลิกวิ่งไล่ไปเอง โดยช้างอารมณ์ดี จะไม่ทำร้าย แม้รถจะวิ่งเข้ามาใกล้ก็ตาม แต่หากช้างโกรธหรือไม่ไว้ใจสิ่งใด เช่น ช้างแม่ลูกอ่อน อาจตรงเข้าทำร้ายผู้รบกวนได้ในระยะไกล นักท่องเที่ยวจึงต้องสังเกตอารมณ์และอาการของช้าง ไว้ประกอบการตัดสินใจ
อย่างไรก็ตาม หากเกิดเหตุที่รถติดเป็นจำนวนมาก หรือช้างเกิดความเครียด จากการสังเกตตามข้อแนะนำข้างต้น ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ เพื่อเจ้าหน้าที่จะรีบเจ้ามาทำการอารักขา ช้างป่า เพื่อความปลอดภัยของทั้งคนและช้าง