AROUND THAILAND

ผู้ว่าฯ สงขลา สั่งตรวจห้องเย็นกักตุนหมูกว่า 2 แสน กก.

ด้านปลัดกระทรวงพาณิชย์ ย้ำ มีโทษทั้งจำทั้งปรับ ฐานผิดพ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ

นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา มอบหมายให้ นายอำพล พงศ์สุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดฯ เป็นประธานวางแผนปฏิบัติการตรวจสอบห้องเย็นที่อาจมีการกักตุนเนื้อสุกร ร่วมกับ พล.ต.ต. อาชาน จันทร์ศิริ ผบก.ภ.จว.สงขลา , พ.ต.ต.อนันต์ บัวแก้ว สว.กก1.บก.ปคบ. , พาณิชย์จังหวัด , ปศุสัตว์จังหวัด และหัวหน้าด่านกักกันสัตว์สงขลา

ก่อนหน้านี้ กรมปศุสัตว์ได้เข้าตรวจสอบห้องเย็นรายใหญ่ในพื้นที่ พบว่าในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา มีการนำเนื้อสุกรจาก บริษัท เบทาโกรเกษตรอุตสาหกรรม พัทลุง เข้าไปเก็บรักษาไว้ จำนวน 211,361 กิโลกรัม โดยวันที่ 19 มกราคม 2565 เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ พบว่ามีเนื้อสุกรคงคลัง 201,650 กิโลกรัม กรมปศุสัตว์จึงทำการอายัดไว้เพื่อรอการตรวจสอบ

ด้านนายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) กำหนดให้ผู้เลี้ยงหมูรายใหญ่ ตั้งแต่ 500 ตัวขึ้นไป และผู้ครอบครองหรือห้องเย็นที่มีสต็อกหมู ตั้งแต่ 5,000 กิโลกรัมขึ้นไป แจ้งปริมาณ และราคาทุก 7 วัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 10 ม.ค.นี้เป็นต้นไป เพื่อดูแลปริมาณหมูและสต็อกหมูที่มีอยู่ทั้งประเทศ ทางกระทรวงได้สั่งการให้พาณิชย์จังหวัดทุกจังหวัด บูรณาการกับฝ่ายปกครอง ออกตรวจสอบ หากพบว่าไม่แจ้งปริมาณ จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท และปรับอีกวันละ 2,000 บาท ตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืนหรือจนกว่าจะแจ้ง หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากพบเห็นว่ามีการกักตุนจะมีโทษตามมาตรา 29 แห่งพ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ โทษจำคุก 7 ปีปรับ 140,000 บาท หรือทั้งจำและปรับ

Related Posts

Send this to a friend