‘ทศพล’ ผู้ว่าฯ เชียงใหม่สั่งด่วนสอบ ‘ส่วยสัญชาติ’ ลั่นรับไม่ได้จัดการเด็ดขาด กำชับทุกอำเภอห้ามรับประโยชน์
วันนี้ (15 ก.ย. 68) นายทศพล เผื่อนอุดม ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ให้สัมภาษณ์ The Reporters ถึงกรณีประชาชนในหลายพื้นที่ของจังหวัดเชียงใหม่ ร้องเรียนว่ามีการเรียกรับเงินในการขอสัญชาติไทยตามมติคณะรัฐมนตรี 29 ตุลาคม 2567
ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า เรื่องนี้ตนเองได้รับเบาะแสมาบ้าง และเมื่อทราบข่าววันนี้ได้เรียกประชุมด่วน พร้อมออก 5 มาตรการ เน้นย้ำให้ทุกพื้นที่ทำตามมติคณะรัฐมนตรี คือ
1.ห้ามเรียกรับผลประโยชน์โดยมิชอบ และห้ามเก็บค่าธรรมเนียมใด ๆ
2.ให้สำนักงานจังหวัดเปิดช่องทางร้องเรียนผ่านศูนย์ดำรงธรรม และเพิ่มช่องทางให้ส่งมาที่ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่โดยตรง โดยทางออนไลน์ หรือโทร 1567
3.ตั้งคณะทำงานตรวจสอบเรื่องร้องเรียน ว่าเป็นกลุ่มตามมติ ครม. หรือไม่ และตรวจสอบข้อเท็จจริงให้รวดเร็วที่สุด
4.ในวันพุธ ที่ 17 ก.ย. ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ จะลงพื้นที่ในอำเภอทางเหนือ เพื่อตรวจสอบเรื่องนี้ด้วยตัวเอง และจะไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น กำชับให้เกิดความโปร่งใส เป็นธรรม พร้อมกำชับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน รับรองเอกสารอย่างถูกต้อง
“เรื่องนี้เป็นที่รับรู้ว่าเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาลนะครับ ถ้ามีข้อมูลกระทำผิดจริง ต้องลงโทษอย่างเด็ดขาด เอาจริง ผมไม่เกี่ยวข้อง เพิ่งย้ายมาใหม่ เรื่องนี้ยอมรับไม่ได้ ต้องให้เห็นเป็นประจักษ์ครับ”
นายทศพล เปิดเผยว่า รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เสนอให้ตั้งชุดปฏิบัติการพิเศษมาชุดหนึ่ง ไปสืบสวนหาข่าวทางลับ ถ้าหากมีข้อมูลจริงจะดำเนินการขั้นเด็ดขาด หากประชาชนไม่ได้รับความเป็นธรรม สามารถยื่นอุทธรณ์มาที่ตนเอง หรือยื่นศาลปกครองได้
ผู้ว่าราชการเชียงใหม่ เปิดเผยว่า จังหวัดเชียงใหม่ มีผู้เข้าหลักเกณฑ์เข้ารับคำขอมีสถานะคนต่างด้าวเข้าเมืองโดยชอบด้วยกฎหมายและมีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักร มาตรา 17 พ.ร.บ. ตรวจคนเข้าเมืองฯ และการขอสัญชาติ ตามมาตรา 7 ทวิ วรรค 2 ตามมติ ครม. วันที่ 29 ต.ค. 2567 จำนวน 88,524 คน แบ่งเป็นผู้มีสิทธิ ตาม ม.17 กฎหมาย ตม. จำนวน 75,749 คน
ข้อมูลตั้งแต่วันที่ 30 มิ.ย. 68 ถึง วันที่ 14 ก.ย. 68 มีผู้เข้ามายื่นคำขอให้ได้สิทธิอยู่โดยชอบด้วยกฎหมาย ยื่นมาแล้ว 24,682 ราย ประมาณ 32.60% อนุมัติไป 21,679 คน ร้อยละ 28.62% คนที่ขาดคุณสมบัติ 349 ราย ซึ่งสามารถไปยื่นอุทธรณ์ได้ และอยู่ระหว่างการพิจารณา 2,664 คน 3.52%
ส่วนผู้มีสิทธิตาม ม.7 ทวิ วรรค 2 ที่สามารถยื่นขอสัญชาติไทย มีจำนวน 12,775 คน ยื่นอยู่ 2,439 คน หรือ 19.09% ได้บัตรประชาชน อนุมัติแล้ว 1,907 คน ขาดคุณสมบัติ 141 คน หรือ 1.1 % ขาดคุณสมบัติ 141 ราย อยู่ระหว่างพิจารณา 391 ราย
ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ข้อกำหนดการยื่นคำขอรับสิทธิเริ่มนับตั้งแต่ 30 มิ.ย. 68 ที่เมื่อยื่นแล้วต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน และทำภายใน 1 ปี จึงยังมีเวลา แต่ได้กำชับให้มีการเร่งรัดตามขั้นตอน และเตรียมประสานทำความเข้าใจกับประชาชนให้ได้รับสิทธิตามกฎหมาย และคำนึงถึงหลักสิทธิมนุษยชน












