POLITICS

‘กัณวีร์’ ย้ำ เลือก ‘พิธา’ เป็นนายกรัฐมนตรี ปลดล็อคประตูประชาธิปไตย

‘กัณวีร์’ ย้ำ เลือก ‘พิธา’ เป็นนายกรัฐมนตรี ปลดล็อคประตูประชาธิปไตยที่ถูกปิดตายของการเมืองไทย ยืนยันมีคุณสมบัติ นำพาประเทศไทยก้าวข้ามปัญหาทางการเมืองที่มีมายาวนาน และยืนอยู่ในสังคมโลกได้อย่างสง่าผ่าเผย ระบุ ความล่าช้า ความลังเลต่อการยืนยันกติกานี้ คือ ความไม่เป็นธรรม

นายกัณวีร์ สืบแสง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม อภิปรายสนับสนุนการเสนอชื่อ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรี โดยระบุว่าการภิปรายครั้งนี้ไม่ใช่ในฐานะ 8 พรรคร่วมรัฐบาล แต่เป็นการอภิปรายในนามของประชาชนที่ให้ความไว้วางใจส่งตนเองเข้ามาเป็นผู้แทนของพวกเขาในรัฐสภาอันทรงเกียรติ

“การอภิปรายครั้งนี้จึงเป็นการอภิปรายเพื่อสนับสนุน คุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป วันนี้เรายืนอยู่บนรอยต่อทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญยิ่ง ต่อการจะร่วมกันแสวงหาทางออกจากปัญหาทางการเมืองที่ยืดเยื้อมายาวนาน ซึ่งได้ทำลายโอกาสต่างๆ ของประเทศ ทั้งเศรษฐกิจ และการทำลายโอกาสในการจะมีชีวิตที่ดีของผู้คนมานับสิบๆ ปี”

นายกัณวีร์ กล่าวว่าสาเหตุของปัญหาทางการเมืองนี้ ไม่ได้อยู่ที่ใครคนใดคนหนึ่ง และในขณะเดียวกัน การจะแก้ปัญหาก็ไม่ได้อยู่ที่ใครคนใดคนหนึ่งเช่นกัน จึงจำเป็นต้องมองที่ใจกลางของปัญหาและทางออกของปัญหาการเมืองไทย ซึ่งคือเรื่องความชอบธรรมทางอำนาจ ที่ยึดโยงอยู่กับประชาชนทั้งชาติ และการจะกุมหัวใจนี้ได้ มันจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องหวนกลับมาสู่จุดอ้างอิงแรกในอำนาจทางการเมือง ซึ่งก็คือประชาชน

“ดังนั้น ขอย้ำครับว่า มติมหาชนต้องเป็นที่มาที่เดียว ของการเข้าสู่อำนาจรัฐ หลักการข้อนี้เป็นเรื่องที่มีความสำคัญลำดับแรกสุด ที่จะต้องสถาปนาขึ้นมาให้ได้ก่อนหลักการ อื่นๆ มิเช่นนั้น เราจะไม่อาจปลดล็อกประตูที่ปิดตายของการเมืองไทยไปได้เลย”

นายกัณวีร์ กล่าวย้ำว่า วันนี้ประเทศไทยต้องเดินหน้าได้แล้ว ประชาชนต้องการการเปลี่ยนแปลงเพื่อเดินไปข้างหน้า และการเดินหน้าครั้งนี้ จำเป็นต้องให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วของโลก พรรคเป็นธรรมทำงานกับหลายพื้นที่ในช่วงที่ผ่านมา วาระประเด็นจำนวนมากรอไม่ได้แล้วครับท่านประธาน ทั้งการสร้างสันติภาพที่กินได้และยั่งยืนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ การรับประกันสิทธิสถานะของกลุ่มชาติพันธุ์ รวมทั้งการพัฒนาจังหวัดชายแดนและจังหวัดชายฝั่งทะเลและเกาะแก่งต่างๆ ซึ่งล้วนมีต้นทุนตามพื้นที่ของตนเอง

” ประเทศไทยในประชาคมโลกยังไม่ถูกมองว่าสามารถตอบสนองต่อปัญหาที่ประชาคมโลกให้ความสำคัญได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตัวอย่างเช่น ปัญหาการบริหารจัดการเรื่องการโยกย้ายถิ่นฐานแบบไม่ปกติ อาทิ เรื่องผู้ลี้ภัย แรงงานข้ามชาติอีกต่างๆ นานา ไม่ได้ถูกจัดการอย่างมีมนุษยธรรม”

นายกัณวีร์ ระบุว่า ทั้งหมดนี้จึงจำเป็นต้องเริ่มจากการปลดล็อกที่ศูนย์กลางของอำนาจ นั่นคือ รัฐสภาอันทรงเกียรติแห่งนี้เสียก่อน ด้วยการร่วมกันยืนยันในหลักการที่เคารพเสียงของประชาชน ตามกติกาและครรลองของประชาธิปไตยตามมาตรฐานสากล สำหรับพรรคเป็นธรรม สิ่งนี้คือองค์ประกอบพื้นฐานสำคัญของความเป็นธรรม ดังนั้น ความล่าช้า ความลังเลต่อการยืนยันกติกานี้ คือ ความไม่เป็นธรรม

“ด้วยเหตุผลเหล่านี้ ผมจึงขอสนับสนุน คุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรีและเป็นผู้มีคุณสมบัติ ในการนำพาประเทศไทยก้าวข้ามปัญหาทางการเมืองที่มีปัญหาอย่างยาวนาน และพาประเทศชาติไปสู่สังคมโลกได้อย่างสง่าผ่าเผยครับ” นาย กัณวีร์ กล่าวย้ำ

Related Posts

Send this to a friend