โฆษก ทร.เผยผลสอบ ร.ล.สุโขทัยคืบหน้า 90% ย้ำ ไม่ช่วยเหลือใคร

โฆษกกองทัพเรือ อัพเดทผลสอบเรือหลวงสุโขทัยอับปาง คืบหน้า 90% ขาดพยานวัตถุที่เกี่ยวกับตัวเรือ ที่ต้องรอการกู้ เร่งเลือกบริษัทเข้าดำเนินการ-ทำเรื่องของบก่อนยุบสภา ย้ำไม่ช่วยเหลือใครหากผลชี้ว่าผิดพลาดที่ตัวบุคคล เพราะไม่คุ้มค่า

วันนี้ (22 ก.พ. 66) พลเรือเอก ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ ชี้แจงความคืบหน้าการสอบสวนเรือหลวงสุโขทัยอับปางในรอบ 2 เดือนว่า ขณะนี้กองทัพเรือยังทำการสอบสวนอยู่ โดยคณะกรรมการที่รับผิดชอบได้สอบปากคำพยานต่างๆ ไปแล้ว 289 ปาก โดยนำข้อมูลที่ได้มาสรุปเป็นเหตุการณ์เพื่อชี้แจงประชาชนต่อไป ขอย้ำว่ากองทัพเรือไม่มีความพยายามดึงเรื่องให้ช้าโดยพยายามทำให้รวดเร็วอยากทำให้ทุกอย่างมีความรอบคอบครอบคลุมเรื่องราวทั้งหมด ขอให้อดใจรอ

ปัจจุบันได้ข้อมูลกว่า 90% แล้ว ประกอบด้วยพยานบุคคลและเอกสาร ในการรายงานต่างๆ ส่วนพยานวัตถุเรือหลวงสุโขทัย ที่ยังได้ไม่ครบ ต้องรอขั้นตอนในการกู้เรือ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ประดาน้ำไม่สามารถถ่ายภาพใต้ท้องเรือได้ เพราะเรืออยู่ในสภาพตั้งตรง ภาพประกอบจึงยังไม่สมบูรณ์ แต่มั่นใจว่าเรือยังจมไม่นาน ไม่น่าจะมีผลให้สภาพเรือเปลี่ยนแปลงไปมากนัก โดยต้องรอกรมอู่ทหารเรือตรวจสอบสภาพเรืออีกครั้ง

สำหรับการเตรียมการกู้เรือสุโขทัยอยู่ระหว่างดำเนินการ และจะได้บทสรุปภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้ ขณะนี้ติดปัญหาคลื่นลมในทะเล บริเวณปากอ่าวไทยยังมีคลื่นลมแรงอยู่ คาดว่าภายในเดือนเมษายนนี้เป็นอย่างช้าน่าจะดำเนินการกู้เรือได้

สำหรับงบประมาณในการกู้เรือจะใช้เงินจากส่วนใดนั้น โฆษกกองทัพเรือ กล่าวว่ากองทัพเรือกำลังพยายามลดค่าใช้จ่ายการกู้เรือให้น้อยที่สุด เนื่องจากปัจจุบันมี 12 บริษัทที่เสนอตัว และค่าใช้จ่ายในการกู้เรือมายังกองทัพเรือ ซึ่งกองทัพเรือจะพิจารณาเลือกบริษัทที่คิดค่าใช้จ่ายต่ำที่สุด โดยจะดำเนินการเรื่องเอกสารของงบประมาณไปยังรัฐบาลก่อนที่จะมีการยุบสภา

ส่วนการเยียวยาผู้เสียชีวิต 25 นาย ทางกองทัพเรือได้เยียวยาให้ครบแล้ว โดยมีเงินจากกองทุนน้ำใจไทย และเงินประกันชีวิตที่ทำให้กับข้าราชการกองทัพเรือ รวมแล้วได้เงินเยียวยารายละกว่า 1 ล้านบาท พร้อมกันนี้ทางกองทัพเรือให้โอกาสครอบครัวผู้เสียชีวิตเข้ามารับราชการในกองทัพเรือด้วย ซึ่งภาพรวมครอบครัวพึงพอใจ ขณะที่ผู้สูญหายอีก 5 นาย ทางกองทัพเรือได้เชิญญาติเข้ามาพูดคุย โดยขอให้เป็นผู้สูญหายก่อน เพื่อจะดำเนินการในเรื่องของเอกสารและเงินในการเยียวยาต่อไป

เมื่อถามว่าแนวโน้มผลการสอบสวนน่าจะเกิดจากภัยธรรมชาติ หรือผลการตัดสินใจของผู้บังคับบัญชา โฆษกกองทัพเรือ ย้ำว่า “รอผลการสอบสวนดีกว่า ยังตอบไม่ได้ เพราะยังไม่เห็นผลสอบสวน แต่ยืนยันว่าในฐานะที่เป็นคณะกรรมการสอบสวน จะไม่มีการช่วยเหลือเด็ดขาด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเรือหรือผู้บังคับบัญชา โดยเมื่อข้อเท็จจริงออกมาแล้วก็จะทำให้ทราบว่าเราไม่ได้ช่วยเหลืออะไร เพราะมันไม่สามารถโกหกได้ เนื่องจากมีพยานที่เป็นตัวบุคคลถึง 289 คน หากผลสอบไม่ตรงกับข้อเท็จจริงมันไม่คุ้มค่า กองทัพเรือไม่ทำอย่างนี้แน่นอน”