‘เสรีพิศุทธิ์’ เผย จะพยายามส่ง ส.ส.ให้ครบทั้ง 400 เขต รับ ร่วมงาน ‘ประวิตร’ ได้ หวังล้ม ‘ประยุทธ์’
วันนี้ (18 ก.พ. 66) พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ให้สัมภาษณ์ก่อนการเปิดประชุมใหญ่สามัญพรรค โดยระบุว่า การประชุมใหญ่ในวันนี้จะมีการแถลงนโยบายพรรคให้ผู้สมัครได้เข้าใจ จากนั้นจะเข้าสู่วาระการรายงานการประชุม ซึ่งจะมีการรายงานเรื่องการจัดตั้งตัวแทนจังหวัด ตัวแทนสาขา เพื่อเตรียมพร้อมก่อนการเลือกตั้ง ในส่วนของพรรคเสรีรวมไทยนั้นจะเสร็จสิ้นภายในสิ้นเดือนนี้
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ กล่าวอีกว่า ห่วงแต่รวมไทยสร้างหนี้ ที่จะมีผู้สมัครไม่ครบ และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี โดยวันนี้พรรคเสรีรวมไทย จะมีการคัดเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ รวมถึงผู้อำนวยการของพรรค และจะขึ้นชี้แจงระเบียบการหาเสียงต่างๆ ให้กับว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าจะส่งผู้สมัครครบทั้ง 400 เขตหรือไม่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า ตอนแรกก็ครบ แต่รัฐธรรมนูญฉบับนี้ใช้ไม่ได้ สอนให้คนไม่จงรักภักดี อย่างผู้สมัครที่ยืนยันตัวตนมาแล้วก็ถูกพรรคการเมืองใหญ่ดึงตัวไป พร้อมกล่าวยืนยันว่า พรรคมีการวางตัวผู้สมัครสำรองไว้แล้ว และจะพยายามส่งให้ครบทั้ง 400 เขต
ส่วนแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคนั้น พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า ทางพรรคเสนอชื่อตนเองอยู่แล้ว ซึ่งถ้าหากว่าได้ ส.ส. 25 ที่นั่ง ก็จะมีสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติของรัฐธรรมนูญ ในการเสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีในสภา พร้อมย้ำว่า แม้การเลือกตั้งครั้งนี้จะใช้บัตร 2 ใบ แต่ตลอด 4 ปีที่ผ่านมาพรรคเสรีรวมไทยสร้างผลงานไว้มาก โดยเฉพาะเรื่องการปราบปรามทุจริต และคอรัปชั่น ซึ่งมีหลายพรรคการเมืองได้ลอกนโยบายของตนไป เพียงแต่มีการติดป้ายที่ใหญ่กว่า เสียงดังกว่า มีเงินมากกว่า ทำโฆษณาได้มากกว่า
ผู้สื่อข่าวสอบถามว่า ในฐานะที่เป็นอีกหนึ่งพรรคที่ชูนโยบายเรื่องการปราบโกงเป็นหลักจะมีการทาบทาม นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตหัวหน้าพรรครักประเทศไทยมาร่วมงานหรือไม่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า ยังไม่ได้มีการทาบทาม แต่อาจจะดำเนินการต่อเมื่อเลือกตั้งเสร็จแล้ว พร้อมระบุว่า ส่วนตัวมองว่านายชูวิทย์ ทำงานในเรื่องของการปรามทุจริตอยู่แล้ว จึงคิดว่าสามารถมาร่วมงานด้วยกันได้
เมื่อถึงกรณีที่หากพรรคเพื่อไทยจับมือกับพรรคพลังประชารัฐเพื่อจัดตั้งรัฐบาล พรรคเสรีรวมไทยสามารถร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐได้หรือไม่ นายเสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า ตนต่อต้านรัฐประหารมาตลอด และการรัฐประหารที่ผ่านมาพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นตัวหลัก และเป็นตัวเผด็จการที่แท้จริง หากพล.อ.ประยุทธ์ไม่ทำ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ก็ทำไม่ได้ ซึ่งตนจะต่อต้านตัวหลัก เอากันให้ตายไปข้างหนึ่ง
ส่วนพลเอกประวิตรไม่ใช่ตัวหลัก หากจะร่วมงานก็สามารถร่วมได้ พร้อมยืนยันว่า การเลือกตั้งครั้งนี้หาก พล.อ.ประยุทธ์ เป็นรัฐบาลตนก็พร้อมจะเป็นฝ่ายค้าน รวมถึงพรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกลตนก็สามารถร่วมงานได้
เมื่อถามว่า จะมีการกำชับลูกพรรคเพื่อไม่ให้เกิดงูเห่าอย่างไร พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า ของแบบนี้มันอยู่ในใจ กำชับอย่างไรก็ห้ามไม่ได้ ขนาดการเลือกตั้งซ่อมที่ลำปาง ก็ไปลงพื้นที่หาเสียงด้วยตนเองจนเป็นเล็บขบ ซึ่งตอนนี้ก็ยังไม่หาย ก็ยังทรยศหักหลังกันได้ เพราะ มันซื้อตัวหมด เพื่อต้องการให้มี ส.ส.มาก และจะได้เป็นนายกรัฐมนตรี วิธีเหล่านั้นจะทำให้ประเทศชาติเสียหาย
