‘ชลน่าน’ ยิ้มร่า หลังศาลเรียกเอกสารเพิ่ม คาดกังขาบันทึก กรธ. หวังรับหลักฐานใหม่ฝ่ายค้าน
เข้าทางฝ่ายค้าน! ‘ชลน่าน’ ยิ้มร่า หลังศาลเรียกเอกสารเพิ่ม คาดกังขาบันทึก กรธ. หวังรับหลักฐานใหม่ฝ่ายค้าน หักล้างเอกสารหลุด ‘มีชัย’ ซัดไร้น้ำหนัก ขาดความน่าเชื่อถือ
วันนี้ (8 ก.ย. 65) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ส่งบันทึกการประชุมคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ครั้งที่ 501 ไปให้ภายในวันที่ 13 ก.ย. 65
นพ.ชลน่าน กล่าวว่า กรณีดังกล่าวแสดงว่าศาลรัฐธรรมนูญยังมีข้อสงสัย ในบันทึกการประชุมของ กรธ. ครั้งที่ 500 ที่ระบุว่า ไม่มีการรับรองบันทึกการประชุมที่มีความเห็นของ กรธ. แต่ละคน รวมถึงของนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน กรธ.ในเรื่องการดำรงตำแหน่ง 8 ปีของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
ปรากฏว่าในบันทึกการประชุม กรธ. ครั้งที่ 501 ที่ฝ่ายค้าน ได้ยื่นเอกสารเพิ่มเติมต่อศาลรัฐธรรมนูญผ่านประธานสภาผู้แทนราษฎรนั้น ได้รับแจ้งว่าจะส่งไปยังศาลรัฐธรรมนูญในวันนี้ (8 ก.ย.) โดยมีหลักฐานชัดว่าเป็นการรับรองการประชุมครั้งที่ 500 ที่อนุกรรมการได้พิจารณาตรวจสอบแล้วโดยไม่มีการแก้ไข เท่ากับว่าได้รับความเห็นชอบ จึงถือเป็นหลักฐานที่ชัดเจน
นพ.ชลน่าน มองว่า ผลการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญที่ให้ทางสภาฯ ส่งหลักฐานในส่วนนี้ไป ก็จะยิ่งทำให้ฝ่ายค้านมีความหวังว่าศาลจะรับเอาพยานเอกสารหลักฐานของฝ่ายค้านที่ยื่นไปเข้าสู่การพิจารณาด้วย เพราะจะเป็นการหักล้างเอกสารหลุดคำชี้แจงของ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ที่อ้างว่านับวาระ 8 ปี จาก 6 เม.ย. 60 หลังรัฐธรรมนูญบังคับใช้ และอ้างว่าความเห็นในบันทึกการประชุมที่เคยบอกให้นับปี 57 ไม่ใช่เอกสารที่สมบูรณ์
นพ.ชลน่าน กล่าวว่า สิ่งที่ฝ่ายค้านไม่ได้แย้งไปคือนายมีชัยให้ความเห็นในเรื่องนี้ในฐานะพยานบุคคล ซึ่งศาลได้สั่งให้นายมีชัยให้ข้อมูลในฐานะเป็นประธาน กรธ. ดังนั้น ต้องเอาความเห็นของตัวเองในขณะที่เป็นประธานในขณะนั้น ซึ่งมีบันทึกไว้เรียบร้อยแล้วให้กับศาลรัฐธรรมนูญไป โดยต้องตอบตามนั้น
“จึงเห็นว่าบันทึกของนายมีชัยที่หลุดออกมาในสังคมออนไลน์เป็นเรื่องที่เข้าทางฝ่ายค้าน และเป็นประโยชน์กับการพิจารณาในมุมของฝ่ายค้านเพราะไม่สามารถใช้เป็นพยานหลักฐานได้ คือมีน้ำหนักไม่พอเพียงหรือขาดความน่าเชื่อถือ และยังเป็นการให้การต่อศาลเป็นเท็จด้วย” นพ.ชลน่าน กล่าว
