ครม. เห็นชอบ มาตรการสนับสนุนวงการภาพยนตร์ไทย
ครม. เห็นชอบ มาตรการสนับสนุนวงการภาพยนตร์ไทย จ่ายช่วย 15 % ของค่าใช้จ่ายการผลิต หากได้ฉายในต่างประเทศ – แพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง ยื่นขอเพิ่ม 5%
วันนี้ (2 ธ.ค. 68) ที่ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติให้ความเห็นชอบหลักการมาตรการส่งเสริมการถ่ายทำภาพยนตร์ไทยในประเทศ โดยมอบหมายกระทรวงวัฒนธรรม กำหนดหลักเกณฑ์ สิทธิประโยชน์ วิธีการ และเงื่อนไขการดำเนินงานตามกรอบที่คณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบ โดยหารือร่วมกับสำนักงบประมาณ กระทรวงการคลัง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วยตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ
นายสิริพงศ์ กล่าวต่อว่า มาตรการส่งเสริมการถ่ายทำภาพยนตร์ไทยในประเทศ มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการผลิต ยกระดับมาตรฐาน คุณภาพ และความหลากหลายของภาพยนตร์ไทย ส่งเสริมศักยภาพและความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทย และเพื่อส่งเสริมการส่งออกทุนทางวัฒนธรรมผ่านสื่อบันเทิงอย่างภาพยนตร์ไทย ซึ่งมีสาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้
1.ให้สิทธิประโยชน์หลัก โดยให้ได้รับเงินสนับสนุน ร้อยละ 15 ของค่าใช้จ่ายในการผลิตต่อเรื่องที่มีวงเงินตั้งแต่ 15 ล้านบาทขึ้นไป
2.ให้สิทธิประโยชน์เพิ่มเติม เช่น กรณีภาพยนตร์มีการนำเสนอเรื่องราวหรือเนื้อหาที่สร้างสรรค์ในประเด็นตามที่คณะอนุกรรมการพิจารณามาตรการฯ กำหนด สามารถยื่นขอรับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมร้อยละ 5 และกรณีภาพยนตร์มีค่าใช้จ่ายในการผลิตต่อเรื่องตั้งแต่ 40 ล้านบาทขึ้นไป แต่ไม่ถึง 50 ล้านบาท สามารถยื่นขอรับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมร้อยละ 2.5 หรือมีค่าใช้จ่ายในการผลิตต่อเรื่องตั้งแต่ 50 ล้านบาทขึ้นไป สามารถยื่นขอรับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมร้อยละ 5
ส่วนกรณีภาพยนตร์ได้ฉายในโรงภาพยนตร์ต่างประเทศหรือฉายในช่องโทรทัศน์ต่างประเทศไม่น้อยกว่า 4 ประเทศ หรือฉายในแพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง 1 แพลตฟอร์ม โดยแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งต้องมีการฉายในต่างประเทศ ไม่น้อยกว่า 4 ประเทศ โดยอย่างน้อยหนึ่งประเทศ ต้องอยู่นอกภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สามารถยื่นขอรับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติม ร้อยละ 5
3.เงื่อนไขของมาตรการ เช่น ค่าใช้จ่ายที่สามารถนำมาคำนวณเงินสนับสนุนได้ ได้แก่ ค่าใช้จ่ายก่อนการผลิต ค่าใช้จ่ายในการผลิต และค่าใช้จ่ายหลังการผลิต โดยไม่นับรวมถึงค่าใช้จ่ายในการประชาสัมพันธ์ และการทำการตลาด และภาพยนตร์ที่จะขอรับสิทธิประโยชน์ได้ ประกอบด้วย ภาพยนตร์ไทย ละคร และซีรีส์ไทย และมิวสิกวิดีโอไทย
สำหรับมาตรการส่งเสริมการถ่ายทำภาพยนตร์ไทยในประเทศ เป็นการดำเนินการเพื่อรักษาระดับการลงทุนและกระตุ้นให้เกิดการผลิตในอุตสาหกรรมภาพยนตร์และสาระบันเทิงรูปแบบอื่น (Content) ตลอดจนเป็นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ผ่านการจ้างงาน ซึ่งการให้เงินสนับสนุนตามมาตรการดังกล่าวจะส่งผลให้การผลิตภาพยนตร์ไทยมีคุณภาพสูงขึ้น สามารถแข่งขันกับต่างประเทศได้ดียิ่งขึ้น ประกอบกับคณะกรรมการภาพยนตร์และวีดิทัศน์แห่งชาติ เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2568 มีมติเห็นชอบในหลักการมาตรการดังกล่าวแล้ว จึงเห็นสมควรที่คณะรัฐมนตรีจะพิจารณาให้ความเห็นชอบในหลักการมาตรการส่งเสริมการถ่ายทำภาพยนตร์ไทยในประเทศ ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ












