POLITICS

‘มาริษ’ แนะ ใช้บทบาทประเทศที่สาม ดึงจีนร่วมกดดัน ‘กัมพูชา’ ให้ทำตามข้อตกลงหยุดยิง

‘มาริษ’ แนะ ใช้บทบาทประเทศที่สาม ดึงจีนร่วมกดดัน ‘กัมพูชา’ ให้ทำตามข้อตกลงหยุดยิง-รักษาสมดุลมหาอำนาจ พร้อมสื่อสารสหรัฐฯ โดยตรงไม่ผ่านคนกลาง ยืนหยัดกลไกเจรจาสองฝ่ายแก้ปัญหา

วันนี้ (21 พ.ย. 68) นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ กล่าวถึงความขัดแย้งไทย-กัมพูชาว่า รัฐบาลภายใต้การนำของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ยืนยันชัดเจนว่า ต้องแก้ไขด้วยการเจรจาทวิภาคี ไทยไม่ต้องการให้ประเทศที่สามมีบทบาทเป็นคนกลางเข้ามาไกล่เกลี่ย เพราะไทยไม่เคยละเมิดข้อตกลงใด ๆ ที่ทำไว้กับกัมพูชา บทบาทของประเทศที่สามจึงเป็นเพียงผู้สังเกตการณ์ เพื่อไม่ให้กัมพูชาบิดพลิ้วข้อตกลงสันติภาพ ซึ่งการลงนามข้อตกลงสันติภาพ Joint Declaration ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ โดยมีผู้นำสหรัฐฯ และมาเลเซีย ร่วมลงนามด้วย ทำให้เกิดข้อสงสัยว่า ไทยยอมรับบทบาทของประเทศที่สามในฐานะผู้ไกล่เกลี่ยโดยปริยายหรือไม่

นายมาริษ ยังยืนยันว่า เมื่อรัฐบาลนางสาวแพทองธาร มีมิตรประเทศและมหาอำนาจ คือ สหรัฐฯ และจีน เป็นสักขีพยานของข้อตกลง จึงประสบความสำเร็จในการเจรจาให้ประเทศเหล่านั้น ช่วยกดดันกัมพูชา ให้เคารพข้อตกลงสันติภาพฯ แต่หากมิตรประเทศ และประเทศมหาอำนาจกลายเป็น ”ผู้ไกล่เกลี่ย“ ประเทศไทยก็หลีกหนีแรงกดดันไม่พ้น

ส่วนที่รัฐบาลเปิดเผยว่าประธานาธิบดีสหรัฐฯ ฝากยืนยันผ่านนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย จะไม่นำเรื่องการระงับปฏิญญาสันติภาพของไทย มาเกี่ยวข้องกับการเจรจาภาษีการค้าไทยกับสหรัฐฯ กรณีนี้เกิดความสับสนว่าเหตุใดต้องสื่อสารผ่านประเทศที่สาม แม้การหารือผ่านประเทศคู่มิตรจะเกิดขึ้นได้ในบางกรณี แต่ประเด็นที่กระทบต่อความมั่นคงระดับรัฐ การสื่อสารทางการทูตโดยตรงถือเป็นองค์ประกอบสำคัญของศักยภาพเชิงยุทธศาสตร์ และความน่าเชื่อถือของรัฐ

นายมาริษ มองว่า สถานการณ์ความขัดแย้งไทย–กัมพูชาครั้งนี้ ไม่เพียงเป็นบททดสอบการจัดการปัญหาพรมแดน แต่ยังเป็นบททดสอบความชัดเจน ความมั่นคง และศักยภาพของนโยบายการต่างประเทศของรัฐบาลในเวทีโลก การรักษาเอกภาพทางท่าที การสื่อสารโดยตรงกับประเทศคู่เจรจา และการประเมินผลกระทบเชิงยุทธศาสตร์อย่างรอบด้านจะเป็นกุญแจสำคัญในการเสริมสร้างความเชื่อมั่นของไทย ทั้งใน และต่างประเทศ

นายมาริษ เสนอให้รัฐบาลกลับมายืนหยัดช่องทางทวิภาคีกับกัมพูชาอย่างจริงจังในประเด็นที่เป็นเรื่องอ่อนไหวสำหรับอธิปไตยของไทย และใช้บทบาทประเทศที่สามกดดันกัมพูชาให้ปฏิบัติตามข้อตกลงกับไทย พร้อมประเมินผลกระทบก่อนกำหนดท่าที ลงนาม หรือดำเนินการใด ๆ ในเวทีระหว่างประเทศ รวมถึงต้องบาลานซ์ความสัมพันธ์ทางการทูต และสื่อสารโดยตรงกับมหาอำนาจ

ในกรณีของสหรัฐฯ ไทยควรประสานผ่านช่องทางการทูตระดับสูง และระดับเจ้าหน้าที่ เพื่อให้ไทยสื่อสารประเด็นสำคัญได้โดยตรง ไม่ผ่านชาติที่สาม พร้อมรณรงค์ผ่านกลไกทวิภาคีให้จีน ในฐานะสักขีพยานข้อตกลงหยุดยิงให้ทราบถึงข้อเท็จจริงที่กัมพูชาเป็นฝ่ายละเมิด เพื่อช่วยกดดันกัมพูชาให้ปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิง 4 ข้อ และสร้างความสมดุลระหว่างประเทศมหาอำนาจ

Related Posts

Send this to a friend