ปภ. เผย น้ำท่วมไทยตอนบนระดับน้ำมีแนวโน้มลดลง ขณะภาคใต้ฝนตกหนัก

ปภ. เผย น้ำท่วมไทยตอนบนระดับน้ำมีแนวโน้มลดลง ขณะภาคใต้ฝนตกหนักหลายพื้นที่ เร่งให้ความช่วยเหลือต่อเนื่อง พร้อมจ่ายเงินเยียวยาตามมติ ครม. เพิ่มเติม

วันนี้ (20 พ.ย. 68) นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า สถานการณ์อุทกภัยยังคงมีอยู่ใน 12 จังหวัด ได้แก่ พิษณุโลก นครสวรรค์ อุทัยธานี สิงห์บุรี ชัยนาท อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี นนทบุรี นครปฐม และอุบลราชธานี รวม 52 อำเภอ 435 ตำบล 2,829 หมู่บ้าน ได้รับผลกระทบ 133,134 ครัวเรือน 459,527 คน มีผู้เสียชีวิต 25 ราย ส่วนใหญ่ระดับลดลง มีเพียงพื้นที่ อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก ที่มีระดับน้ำเพิ่มขึ้น

ส่วนภาคใต้ขณะนี้เกิดฝนตกหนักหลายพื้นที่ มีสถานการณ์ในพื้นที่ 5 จังหวัด ได้แก่ ประจวบคีรีขันธ์ ชุมชน สุราษฎร์ธานี สตูล และพัทลุง รวม 8 อำเภอ 34 ตำบล 184 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 5,927 ครัวเรือน 25,418 คน ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์ในพื้นที่ 3 จังหวัด ได้แก่ ชุมพร สุราษฎร์ธานี และพัทลุง ปภ. ได้สนับสนุนเครื่องจักรกลสาธารณภัย และเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ ช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่

นอกจากนี้ ช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติส่งแจ้งเตือนผ่านระบบ Cell Broadcast ให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยภาคใต้รับทราบสถานการณ์ ประกอบด้วย แจ้งเตือนฝนตกหนัก และแจ้งเตือนน้ำท่วม ให้ระวังน้ำท่วม ดินโคลนถล่ม ในพื้นที่ริมคลอง ลำน้ำ ที่ลุ่มต่ำและที่ลาดเชิงเขา ให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงยกของ เคลื่อนย้ายรถไปที่สูง เก็บทรัพย์สินมีค่าและเอกสารสำคัญ ระวังอันตรายจากไฟฟ้าดูด และดูแลกลุ่มเปราะบาง

ด้านการเยียวยาผู้ประสบภัย ปภ. ประสานจังหวัด อำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เร่งสำรวจความเสียหาย พร้อมตรวจสอบข้อมูลหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยเพิ่มเติมใน 2 กรณี ทั้งการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ที่อยู่อาศัยประจำถูกน้ำล้อมรอบ และประชาชนที่ที่อยู่อาศัยประจำในอาคารสูงที่น้ำท่วมไม่ถึงชั้นที่ผู้ประสบภัยพักอาศัย ส่งผลให้ไม่สามารถดำรงชีวิตได้ตามปกติ ติดต่อกันเกิน 7 วันขึ้นไป ซึ่งประชาชนจะได้รับความช่วยเหลือครัวเรือนละ 9,000 บาท

กรณีเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากกรณีน้ำท่วมขังบริเวณที่อยู่อาศัยประจำเป็นระยะเวลานานในช่วงฤดูฝน ปี 2568 นานกว่า 30 วันขึ้นไป เป็นการจ่ายเงินแบบขั้นบันได ครัวเรือนละ 5,000–20,000 บาท ตามระยะเวลาที่ที่อยู่อาศัยประจำการถูกน้ำท่วมขัง 4 กรณี ได้แก่

1) กรณีที่อยู่อาศัยประจำถูกน้ำท่วมขังติดต่อกันตั้งแต่ 31-60 วัน ได้รับความช่วยเหลือครัวเรือนละ 5,000 บาท

2) กรณีที่อยู่อาศัยประจำถูกน้ำท่วมขังติดต่อกันตั้งแต่ 61-90 วัน ได้รับความช่วยเหลือครัวเรือนละ 10,000 บาท

3) กรณีที่อยู่อาศัยประจำถูกน้ำท่วมขังติดต่อกันตั้งแต่ 91-120 วัน ได้รับความช่วยเหลือครัวเรือนละ 15,000 บาท

4) กรณีที่ที่อยู่อาศัยประจำถูกน้ำท่วมขังติดต่อกันตั้งแต่ 121 วันขึ้นไป ได้รับความช่วยเหลือครัวเรือนละ 20,000 บาท