POLITICS

‘โรม’ ติง ‘อนุทิน’ แช่แข็งข้อตกลงสันติภาพ ทำแผนปราบสแกมเมอร์ชะงัก

‘โรม’ ติง ‘อนุทิน’ แช่แข็งข้อตกลงสันติภาพ ทำแผนปราบสแกมเมอร์ชะงัก เชื่อ มีคนแสยะยิ้มเพราะได้ผลประโยชน์ ขอรัฐบาลไทยอย่าเหยียบกับดักลูกที่สอง

วันนี้ (13 พ.ย. 68) นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงท่าทีของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่มีต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ภายหลังประเทศกัมพูชาลอบวางทุ่นระเบิดที่ละเมิดข้อตกลงสันติภาพว่า ตนเองรู้สึกเสียใจกับผู้สูญเสียทุกคนและไม่อยากให้เกิดขึ้น รู้สึกผิดหวังที่รัฐบาลไม่ได้ลงทุน กับการรับมือสถานการณ์ชายแดนอย่างเพียงพอ ซึ่งรัฐบาลควรอนุมัติงบกลางที่มากกว่านี้ ขอตั้งข้อสังเกตให้สังคมคิดตามว่ากัมพูชาต้องการอะไรจากที่โลกพุ่งเป้าล้อมกัมพูชาแก้ไขปัญหาสแกมเมอร์ แต่เมื่อเกิดเหตุดังกล่าวขึ้นประเด็นเปลี่ยน หากรัฐบาลงับประเด็นที่กัมพูชากำลังทำอยู่ในขณะนี้ ถามว่าใครได้ประโยชน์

ช่วงที่ไทยและกัมพูชาไปทำข้อตกลงสันติภาพที่ประเทศมาเลเซีย มี 2 ประเด็น คือ แรร์เอิร์ธและสถานการณ์ชายแดน ซึ่งมีเรื่องสแกมเมอร์อยู่ในข้อตกลงสันติภาพชายแดน วันนี้รัฐบาลแช่แข็งข้อตกลงสันติภาพ ทำให้การแก้ไขปัญหาสแกมเมอร์หยุดลงทันทีเช่นกัน ตนเองเชื่อว่าการแก้ปัญหาสแกมเมอร์ กัมพูชาเสียเปรียบไทย เขาจึงต้องการยกเลิกอยู่แล้ว หากเราแช่แข็งทันทีโดยที่ไม่นึกถึงแผนต่อไป ถามว่ากัมพูชาได้เปรียบใช่หรือไม่

เดิมประเทศไทยมีเพื่อนเพื่อจัดการปัญหาสแกมเมอร์ในกัมพูชา กลายเป็นขณะนี้โลกจะหันมาล้อมไทยแทน หากคิดไม่รอบคอบกลายเป็นว่าไทยไม่ได้ปฏิบัติอยู่บนพื้นฐานผลประโยชน์ของประเทศอย่างแท้จริง ซึ่งเรื่องสแกมเมอร์ กัมพูชาไม่อยากปราบ ฝ่ายไทยปราบแล้วก็เจอตอ มีนักการเมืองเข้าไปเกี่ยวข้อง รัฐบาลนายอนุทินไม่อยากแก้ปัญหาเรื่องนี้อย่างแท้จริง อยากให้สังคมคิดว่ามีการเบี่ยงประเด็น เพราะมีคนสมประโยชน์ทั้ง 2 ฝ่ายใช่หรือไม่ ถามว่ารัฐบาลนี้ทำเพื่อผลประโยชน์ของชาติหรือเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง เพื่อปูทางไปถึงการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น โดยไม่สนใจว่าประเทศไทยจะมีใครเป็นศัตรูเพิ่ม ขณะนี้เรากำลังเจอกับสงครามลูกผสม ที่มีการใช้ข่าวสาร กำลังทางอาวุธ อุปกรณ์ไซเบอร์ กัมพูชามีนักรบไซเบอร์ ที่ก่อกรรมทำเข็ญกับคนทั่วโลก เพื่อเล่นงานประเทศไทย หากยังไม่แก้ไขจะได้เห็นเงินสีเทาไหลเข้าพรรคการเมือง แล้วใช้ซื้อเสียงอย่างมหาศาล ปัญหาที่เกิดขึ้นมีคนแสยะแยะยิ้มอยู่เพราะได้ผลประโยชน์

เมื่อถามว่าแนวทางต่อไปที่รัฐบาลควรต้องทำหลังประกาศท่าทีแล้วคืออะไร นายรังสิมันต์ กล่าวว่า 1.ควรเปิดปฏิบัติการเชิงรุกให้มากขึ้น ออกหมายจับบุคคลที่เกี่ยวข้อง ถ้าตรวจสอบอาจเจอเส้นเงินของสมเด็จฮุนเซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา และหากยื่นไปที่อินเตอร์โพล จะทำให้กัมพูชาเกิดแผ่นดินไหว 10 ริกเตอร์ 2.ต้องตัดแขนขาทุนสีเทา เขาคือไส้ศึกและทรยศต่อชาติ เรื่องของสถานการณ์ชายแดนเห็นด้วยที่รัฐบาลจะต้องเตรียมความพร้อมขั้นสูงสุด และทั้งหมดเสริมด้วยเทคโนโลยีได้ เพราะกล้องจะเป็นตัวมอนิเตอร์ เราจะมีหลักฐานเพื่อส่งต่อไปยังประเทศอื่น ๆ ทั้งนี้ รัฐบาลควรดึงประเทศอื่นมากดดันกัมพูชา ให้โลกล้อมกัมพูชา ภาระการพิสูจน์การวางกับดักระเบิด ทุ่นระเบิด ไม่ใช่อยู่ที่ไทย แต่อยู่ที่ประเทศกัมพูชาที่ต้องเป็นผู้พิสูจน์

นายรังสิมันต์ กล่าวทิ้งท้ายว่าสังเกตหรือไม่ว่าเขาพร้อมมาก เขามาทุกชั่วโมง เพราะเขารู้ว่าเขาต้องการอะไร แต่อย่าให้กับดักลูกที่สอง รัฐบาลเราเป็นคนเหยียบ ไม่เช่นนั้นจะเสียหายจริง ๆ

Related Posts

Send this to a friend