ศบ.ทก. ยืนยัน ไม่สนุนสนุนการใช้ความรุนแรง หลังนักท่องเที่ยวทำร้ายทหารกัมพูชา
ศบ.ทก. ยืนยัน ไม่สนุนสนุนการใช้ความรุนแรง หลังนักท่องเที่ยวทำร้ายทหารกัมพูชา เผย กต.ทำหนังสือประท้วง ปมวัดภูม่านฟ้า มอง แอบแฝงการเมือง ลั่น มรดกทางวัฒนธรรม ควรเสริมสร้างความสัมพันธ์ ไม่ใช่ทำให้แบ่งแยกกัน
พลเรือตรีสุรสันต์ คงสิริ รองโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย และ นางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองอธิบดีกรมสารนิเทศ และรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงผลการประชุมศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) ประจำวันที่ 14 กรกฎาคม 2568
พลเรือตรีสุรสันต์ กล่าวถึงกรณีที่นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายทหารกัมพูชาชุดประสานงาน บริเวณปราสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ ว่าฝ่ายไทยได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายแล้วในเบื้องต้นเพื่อไม่ให้กระทบความสัมพันธ์กับเจ้าหน้าที่ทั้ง 2 ฝ่าย รวมทั้งได้นำผู้ก่อเหตุส่งให้ตำรวจดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายของไทย ยืนยันว่าไม่สนับสนุนให้ใช้ความรุนแรง
ด้านนางมาระตี ยืนยันว่า สถานการณ์ในพื้นที่โดยรวมยังคงสงบเรียบร้อย ไทยยังคงความเข้มงวดในการผ่านแดนเพื่อความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ ตลอดช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีการดำเนินการอย่างเข้มงวดและงดเว้นด้านมนุษยธรรม ด้านการต่างประเทศมีการดำเนินการส่งเสริมภารกิจด้านการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ รัฐบาลจัดตั้งกลไกหลักในเรื่องนี้ คือ ศอ.ปชด.
นอกจากนี้ รายงานข่าวฝ่ายกัมพูชา หยิบยกเรื่องในที่ประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญครั้งที่ 47 โดยระบุว่า ‘วัดภูม่านฟ้า’ จ.บุรีรัมย์ เลียนแบบนครวัด ผู้แทนไทยโต้ตอบว่า ฝ่ายไทยรู้สึกผิดหวังต่อถ้อยแถลงของกัมพูชาโดยเห็นว่าการกระทำดังกล่าวมีวัตถุประสงค์ทางการเมืองแอบแฝงและเป็นเรื่องที่ควรมีการหารือในระดับทวิภาคีมากกว่าหยิบยกในเวทีคณะกรรมการมรดกโลก
ทั้งนี้ ทางการไทยส่งหนังสือประท้วงอย่างเป็นทางการไปที่อยู่เนสโกแล้ว ไทยเชื่อมั่นว่ามรดกทางวัฒนธรรมควรเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างผู้คน มิใช่นำมาซึ่งความแบ่งแยก ไทยพร้อมที่จะปรึกษาหารือกับกัมพูชาในประเด็นดังกล่าว รวมถึงประเด็นอื่นบนพื้นฐานการเป็นเพื่อนบ้านที่ดีต่อกัน นอกจากนี้ฝ่ายไทยยังคงยืนยันจุดยืนเดิมที่จะเจรจาทวิภาคีเพื่อแก้ไขสถานการณ์ความตึงเครียดผ่านกลไกที่มีอยู่อย่าง JBC ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นในเดือนกันยายน












