‘ณัฐพงษ์’ ชี้ รัฐบาลถอนร่าง พ.ร.บ. เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ขาดความจริงใจ กลัวถูกโหวตคว่ำ
วันนี้ (9 ก.ค. 68) นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาชน และผู้นำฝ่ายค้าน แถลงต่อสื่อมวลชน ภายหลังที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีมติถอนร่างพระราชบัญญัติสถานบันเทิงครบวงจร หรือร่าง พ.ร.บ. เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ว่า พิสูจน์แล้วว่าพรรคฝ่ายค้าน และพรรคประชาชนพยายามตั้งคำถามต่อรัฐบาลที่จะขอการถอนร่าง พ.ร.บ. ฉบับดังกล่าว จากการพิจารณาของสภาว่ารัฐบาลมีความจริงใจในการที่จะถอนร่างออกไป เพราะต้องการที่จะนำไปศึกษาอย่างรอบคอบให้ประชาชนได้มีโอกาสได้วิพากษ์วิจารณ์มากยิ่งขึ้น ถือเป็นการถอนร่างออกไปเพราะกลัวว่ากฎหมายฉบับนี้จะถูกโหวตคว่ำในสภา หรือใช้เป็นเทคนิคเพื่อที่จะรอเสียบในอนาคต ซึ่งเชื่อว่าได้แสดงออกอย่างชัดเจนแล้ว ทั้งในกรณีที่ตัวแทนคณะรัฐมนตรี นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ให้เหตุผลที่ตนเองรู้สึกว่าฟังไม่ขึ้น เช่น คณะรัฐมนตรีถอนร่างนี้เพราะองค์ประกอบ ครม. มีการเปลี่ยนแปลงไปเยอะ คำถามนี้ต้องพิจารณาเทียบกับกฎหมายฉบับอื่น ๆ ที่คณะรัฐมนตรีได้เสนอมาและอยู่ในระเบียบวาระประชุมสภาเช่นเดียวกัน หากใช้มาตรฐานเดียวกันทำไมถึงยังไม่มีการถอนร่างกฎหมายฉบับอื่น ๆ
นายณัฐพงษ์ กล่าวต่อว่า เราพยายามถามถึงความจริงใจในที่ประชุมว่าหากถอนออกมาแล้ว จะไม่มีการเสนอกลับเข้าไปอีก จนกว่าสภาชุดนี้ อย่างน้อยในการเลือกตั้งครั้งหน้า รัฐบาลแต่ละพรรคจะมีนโยบายอย่างไร ก็สามารถนำเสนอได้ หากพรรคเพื่อไทยจะนำเสนอเป็นนโยบาย ก็สามารถหาเสียงได้ แต่ปรากฏว่า นายจุลพันธ์ ชี้แจงในที่ประชุมว่าไม่สามารถที่จะรับปากได้ เพราะไม่ใช่ตัวแทนของคณะรัฐมนตรีทั้งหมด
ขณะเดียวกัน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เดินทางมาที่อาคารรัฐสภา ตนเองเชื่อว่าหากรัฐบาลมีความจริงใจ นางสาวแพทองธาร สามารถใช้สิทธิ์รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เข้าร่วมประชุมได้ และประธานสภาน่าจะให้การอนุมัติ ที่จะให้นางสาวแพทองธาร เข้ามาตอบไว้เป็นบันทึกในที่ประชุมได้
ดังนั้น จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รัฐบาลแสดงออกขาดความจริงใจในส่วนนี้ ประกอบกับผลโหวตที่ออกมาว่ามีเพียงแค่ 250 กว่าเสียง หากลบพรรครัฐบาลที่ออกมาแสดงจุดยืนชัดเจนแล้วว่า ไม่สามารถเห็นด้วยกับ พ.ร.บ. ฉบับดังกล่าวได้ จะพบว่าหากร่าง พ.ร.บ. ฉบับดังกล่าว เข้าสู่วาระที่หนึ่งมีโอกาสสูงมากที่ร่าง พ.ร.บ. ฉบับดังกล่าวจะถูกโหวตคว่ำ ซึ่งสอดคล้องกับสมมุติฐานที่เราตั้งคำถามไว้ตั้งแต่แรกว่าเหตุผลที่รัฐบาลต้องการถอนร่างไม่ได้เป็นไปเพื่อแสดงความจริงใจต่อประชาชนแต่เป็นเรื่องเทคนิคของสภา
ส่วนเสียงรัฐบาลปริ่มน้ำ แต่เสียงที่ไม่เห็นด้วยมีเสียงฝ่ายค้านนั้น นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า เรื่องของการโหวตของพรรคฝ่ายค้าน ก็เป็นสิทธิ์ของแต่ละพรรค แต่พรรคประชาชน ต้องการยืนยันว่า เราเห็นด้วยกับการถอนร่างอย่างจริงใจ แต่เมื่อรัฐบาลไม่ได้ถอนอย่างดีเพียงพอ เราจึงไม่สามารถร่วมในการลงมติครั้งนี้ได้ ส่วนพรรคฝ่ายค้านพรรคอื่นจะแสดงออกอย่างไร ก็เป็นเหตุผลของแต่ละพรรค และพรรคประชาชนไม่ได้ร่วมในการลงมติด้วย
ส่วนหลังจากนี้จะดำเนินการอย่างไรต่อเพื่อไม่ให้นำร่าง พ.ร.บ. ฉบับดังกล่าว กลับมาพิจารณาอีก ถือเป็นสิ่งที่เราต้องทำหน้าที่ต่อไปในการติดตาม และตรวจสอบ วันนี้สิ่งที่รัฐบาลอาศัยเสียงข้างมากในการถอนร่างออกไป แต่ในอนาคตไม่มีอะไรรับประกันได้เลยว่ารัฐบาลจะรอเสียบออกมาอีกเมื่อไร เป็นหน้าที่ของตนเอง และพรรคประชาชนในการตรวจสอบเรื่องนี้
ส่วนที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ระบุว่าประธานาธิบดีจีน ออกมาเตือนถึงการทำเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ นายณัฐพงษ์ ระบุว่า ตนเองไม่ได้อยู่ในที่ประชุมตอนที่นายกรัฐมนตรีพบกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ดังนั้น เหตุผลที่ประชุมจริง ๆ ก็ให้สอบถามนายอนุทิน แต่ตนเองที่ได้เดินทางไปจีนเมื่อปลายปีที่แล้ว และพบกับผู้นำระดับสูงของจีนบางท่าน พบว่า เหตุผลส่วนสำคัญที่ทำให้นักท่องเที่ยวจีนลดลง เป็นเรื่องของการขาดความเชื่อมั่นเป็นหลัก ส่วนเหตุผลอื่น ๆ ตนเองไม่สามารถตอบได้จริง ๆ
ส่วนที่นางสาวแพทองธาร ชี้แจงว่า เหตุผลที่นักท่องเที่ยวลดส่วนหนึ่ง มาจากนายอนุทินที่เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยในขณะนั้น เช่นเดียวกัน นายณัฐพงษ์ ระบุว่า เป็นสิ่งที่นายอนุทิน ต้องตอบชี้แจงเอง ตนเองเชื่อว่าสิ่งที่เป็นผลบวก และเป็นทางออกของประเทศมากที่สุด คือเรื่องการสร้างความเชื่อมั่นต่อนักท่องเที่ยว ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ดึงนักท่องเที่ยวจีนกลับมา
ส่วนการตอบแบบนี้เป็นการโยนให้รัฐมนตรีเป็นคนตอบ แทนที่จะตอบเองในฐานะหัวหน้ารัฐบาล นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ทุกอย่างอยู่ที่ความรับผิดชอบของคนที่เป็นนายกรัฐมนตรีอยู่แล้ว ส่วนคนที่เป็นอดีตรัฐมนตรีที่ปัจจุบันมาอยู่เป็นพรรคฝ่ายค้าน จะชี้แจงอย่างไรว่าในอดีตเคยดำรงตำแหน่งได้แก้ไขปัญหาอย่างไร ตนเองไม่ขอให้ความเห็น












