สอท.ตรวจค้นเครือข่าย ‘ก๊กอาน’ 19 จุดหลังพบเป็นเจ้าของตึก 25 ชั้น ในปอยเปต

ผบช.สอท. เผย เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นเครือข่าย ‘ก๊ก อาน’ 19 จุด หลังพบหลักฐาน เป็นเจ้าของตึก 25 ชั้น ในปอยเปต – มีส่วนร่วมในขบวนการอาชญากรรมข้ามชาติ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ส่วนภาพถ่ายร่วม นักการเมือง ไทย – กัมพูชา ยังไม่ได้รับรายงาน ปัดตั้งธงออกหมายจับ

วันนี้ (8 ก.ค. 68) เวลา 10.30 น. ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท แถลงข่าวถึงการเปิดปฏิบัติการเข้าตรวจค้น 19 จุด ในพื้นที่ กทม. จ.สมุทรปราการ และ จ.ชลบุรี ตามยุทธการ “ปิดตึกบัญชีม้า ล่านายทุนเขมร” เพื่อขยายผลคดีแก๊งคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติ ที่มีฐานปฏิบัติการในเมืองปอยเปต ประเทศกัมพูชา เมื่อช่วงเช้าวันนี้

พล.ต.ท.ไตรรงค์ เปิดเผยว่า วันนี้เป็นปฏิบัติการในการเข้าตรวจค้น สืบเนื่องจากทางตำรวจไซเบอร์ ได้ขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ต้องหา คือ นายก๊กอาน หรือ MR. Kok An ในความผิด มีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งเป็นการออกหมายจับ หลังจากที่มีการขยายผลเพิ่มเติม มาจากคดีต่างๆ ที่อยู่ในความรับผิดชอบของตำรวจไซเบอร์ ไม่ว่าจะเป็นคดีกาสิโน ซึ่งผู้เสียหายถูกหลอกให้ลงทุนสูญเสียเงินไป 300 กว่าล้านบาท รวมถึงคดีของ น.ส.ชาล็อต ออสติน นางงามดัง และคดีล่าสุดที่มีแพทย์ จ.เชียงราย ถูกหลอกลวงไป 30 กว่าล้านบาท

ทั้งนี้ ในทางการสืบสวน และที่จับกุมผู้ต้องหาได้ ซึ่งผู้ต้องหารับสารภาพแบบเดียวกันว่า ได้ไปสแกนใบหน้าที่ตึก 25 ชั้น, ตึก 18 ชั้น อาคาร HISO และอาคาร Crown Casino ที่ เมืองปอยเปต ประเทศกัมพูชา เราจึงรวบรวมพยานหลักฐาน ทั้งพยานบุคคล พยานเอกสาร และพยานต่าง ๆ ที่เราสามารถรวบรวม ไปขอศาลออกหมายจับนายก๊กอาน ซึ่งเป็นเจ้าของอาคารทั้งหมด

สำหรับปฏิบัติการในวันนี้ มีการตรวจค้นทั้งหมด 19 จุด ใน 3 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร จ.ชลบุรี และ จ. สมุทรปราการ โดยการตรวจค้นในวันนี้ พบว่าผู้ต้องหามีความเกี่ยวข้องกับบุคคลที่เป็นเจ้าของสถานที่ 19 จุดที่ตรวจค้น แต่ยังไม่สามารถระบุรายละเอียดได้ เนื่องจากสถานที่บางแห่งมีคนอยู่ มีคนดูแล บางครั้ง ไม่มีคนดูแล เป็นบ้านที่เพิ่งซื้อ

ขณะที่บ้านเลขที่ 77 ย่านสวนหลวง พบเพียงคนดูแลบ้าน ไม่พบตัวนางจูรี หรือ เชอร์รี่ ที่คาดว่าเป็นเจ้าของบ้าน ซึ่งเป็นลูกสาวของ นายก๊กอาน ผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับ ซึ่งยังไม่สามารถให้รายละเอียดได้ รวมทั้งจากการตรวจค้น ที่ว่าพบภาพถ่ายที่ถ่ายคู่กับ บุคคลสำคัญของไทย จีน และกัมพูชา เบื้องต้น ยังไม่พบ ซึ่งพบเพียงภาพถ่ายของคนในครอบครัวเท่านั้น นอกจากนี้ ยังมีกระแสข่าวว่า นายก๊ก อาน ที่มีเคยมาพักที่บ้านหลังดังกล่าวอีกด้วย

จากตรวจสอบพบว่า นางจูรีถือบัตรประชาชนไทยด้วย ซึ่งหลังจากนี้จะต้องมีการตรวจสอบว่าที่มาของการถือบัตรประชาชนนั้นถูกต้องหรือไม่

พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวต่อว่า ส่วนสถานที่อื่น ๆ อยู่ในระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน ยังไม่ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาใคร และขอเวลาในการตรวจสอบก่อน แต่ยืนยันว่า ทั้ง 19 จุด ที่มีการตรวจค้นในวันนี้มีความเชื่อมโยงกับผู้ต้องหา

อย่างไรก็ตาม พล.ต.ท.ไตรรงค์ ยืนยันว่า ในการปฏิบัติการในครั้งนี้ ไม่ได้มีเป้าหมายว่า หรือตั้งธงว่า จะต้องออกหมายจับบุคคลดังกล่าวซึ่งมีความใกล้ชิดกับผู้นำประเทศเพื่อนบ้าน แต่เป็นปฏิบัติการที่เราทำมาอย่างต่อเนื่องนานแล้ว และเราต้องการดำเนินคดีกับผู้ที่มีส่วนสนับสนุนส่งเสริม และอำนวยความสะดวกให้กับกลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งถือว่าเป็นปัญหาใหญ่ที่มาก่อเหตุอาชญากรรมในประเทศไทย และเป็นอาชญากรรมอันดับหนึ่ง ที่สร้างความเสียหายให้กับพี่น้องประชาชนคนไทย