กลุ่มเพื่อนบุ้ง ยื่นหนังสือถึงนายกฯ ชวนจับตาคดีไต่สวนการตาย ‘บุ้ง เนติพร’

กลุ่มเพื่อนบุ้ง ยื่นหนังสือถึงนายกฯ ชวนจับตาคดีไต่สวนการตาย ‘บุ้ง เนติพร’ หวังเป็นก้าวสำคัญในการแสวงหาความจริง-ยกระดับดูแลผู้ป่วยในเรือนจำ

วันนี้ (13 ม.ค. 68) กลุ่มเพื่อนบุ้ง นำโดย นางสาวทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือทานตะวัน จัดกิจกรรม “คาราวานเพื่อนบุ้ง…มุ่งสู่บัลลังก์ศาล” เพื่อยื่นหนังสือชวน 3 องค์กร ร่วมจับตาดูการไต่สวนคดีการเสียชีวิตของนางสาวเนติพร เสน่ห์สังคม หรือ บุ้ง ที่ศาลจังหวัดธัญบุรี ในเวลา 13.30 น.

โดยคาราวานเพื่อนบุ้ง ออกเดินทางจากศาลอาญากรุงเทพใต้ มาถึงที่สำนักงานใหญ่พรรคเพื่อไทย ในเวลา 10.15 น. พร้อมกับยื่นหนังสือถึงนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยมีนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เป็นตัวแทนรับหนังสือ

นางสาวทานตะวัน เปิดเผยว่าเนื่องจากวันนี้ เวลา 13.30 น.ที่ห้องพิจารณาคดีที่ 2 ณ ศาลจังหวัญบุรี นัดไต่สวนการเสียชีวิตของนางสาวเมติพร นักกิจกรรมทางการเมืองที่ถูกกล่าวหาในคดีอาญาตามมาตรา 112 และได้อดอาหารในเรือนจำเพื่อเรียกร้องสิทธิการประกันตัว และปฏิรูปกระบวนการฤติธรรม จนเสียชีวิตในวันที่ 14 พ.ค.67 ภายใต้การดูแลของทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์

พวกเราตัวแทนจากกลุ่มเพื่อนบุ้ง จึงมายื่นหนังสือฉบับนี้ เพื่อเชิญตัวแทนจากพรรคเพื่อไทยเข้าร่วมสังเกตการณ์การไต่สวนการเสียชีวิตของนางสาวเนติพร ในฐานะพรรครัฐบาล ซึ่งมีหน้าที่สำที่สำคัญในการบริหารจัดการ โดยจะเป็นเกียรติอย่างยิ่ง หากนายกฯ สามารถเดินทางมาได้ด้วยตนเอง เนื่องจากเราตระหนักดีว่านายกฯ เล็งเห็นถึงปัญหาของการบังคับใช้กฎหมายอาญามาตรา 112 โดยนายกฯ เคยระบุว่าปัญหาของกฎหมายมาตรานี้ว่า เป็นการเปิดช่องให้ใครฟ้องร้องก็ได้ ทำให้ถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง และส่งผลให้มีคดี 112 เพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วง 8 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะการกล่าวต่อหน้าสาธารณะในช่วงการหาเสืองเลือกตั้ง ซึ่งเปรียบเสมือนคำสัญญาต่อประชาชนว่า ทันทีที่พรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล จะขอความเมตตาจากศาลแก่ผู้ต้องขังทางการเมืองที่ติดทุกอยู่ รวมถึงต้องกำหนดตัวบทกฎหมายว่า ใครสามารถฟ้องได้ หรือโทษสูงสุดอยู่ที่ตรงไหน เพราะนายกฯ มีความเห็นว่า กฎหมายอาญามาตรา 112 ถูกดึงเอามาเป็นเกมการเมือง โดยกล่าวว่าเรื่องนี้คือ สิ่งที่พรรคเพื่อไทยไม่ได้มีความสุข

กลุ่มเพื่อนบุ้ง จึงขอเชิญนายกฯ หรือตัวแทนจากพรรคเพื่อไทย เข้าร่วมสังเกตการณ์การไต่สวนคดีการเสียชีวิตของนางสาวเนติพร โดยจะเป็นก้าวสำคัญในการแสวงหาความจริงและความยุติธรรรม ซึ่งสามารถนำไปสู่การร่วมกันผลักดันการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความสูญเสียที่ไม่ควรเกิดขึ้น อีกทั้งนำไปสู่การนำข้อมูลจากการพิจารณาคดีนี้ไปเป็นกรณีศึกษา ในการปรับปรุงแนวทางปฏิบัฏิบัติของแพทย์ในเรือนจำ เพื่อยกระดับมาตรฐานการดูแลรักษาผู้ต้องขัง ไม่ให้มีใครต้องมาเจอกับความเจ็บปวดที่ไม่อาจบรรเทาได้อีก

แม้พรรคร่วมรัฐบาล จะมีจุดยืนที่แตกต่างออกไป แต่การรักษาไว้ซึ่งเอกภาพของพรรคร่วมรัฐบาล ไม่สำคัญเท่ากับชีวิตของประชาชนที่สูญเสีย หรือได้รับผลกระทบจากความไม่เป็นธรรมของกระบวนการยุติธรรม เราหวังว่านายกฯ และพรรคเพื่อไทย จะให้ความสำคัญกับคำเชิญ เพื่อร่วมกันสร้างความยุติธรรมให้กับนางสาวเนติพร และประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากกระบวนการยุติธรรม รวมถึงสร้างความยุติธรรมให้แก่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้ได้รับผลกระทบจากกระบวนการยุติธรรมไทย เช่นเดียวกับผู้ต้องขังทางการเมืองทั้งหลาย

ด้านนายอนุสรณ์ เปิดเผยว่าพรรคเพื่อไทยจะดำเนินการทุกช่องทางเท่าที่จะทำได้ อย่างตนเองเป็น สส.จะมีกลไกสภาผู้แทนราษฎร และกรรมาธิการที่จะพูดคุยกันเรื่องนี้ รัฐบาลโดยนายกณ ไม่ได้นิ่งนอนใจ เราจะส่งต่อเรื่องนี้ไปยังผู้ที่เกี่ยวข้อง หลัก ๆ คือกระทรวงยุติธรรม ที่มี พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กำกับดูแล

อย่างไรก็ตาม เราไม่สามารถระบุได้ว่าจะส่งตัวแทนพรรคเพื่อไทยคนใดไปฟังการไต่สวนการเสียชีวิตของนางสาวเนติพร เพราะความเป็นสถาบันทางการเมือง การเป็นพรรคการเมือง ต้องมีรูปแบบและขั้นตอน แต่ยืนยันว่าไม่ได้นิ่งนอนใจ หากมีช่องทางหรือเครื่องมือใดในการค้นหาความจริง เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมและความยุติธรรมแก่ทุกฝ่าย ก็จะเร่งดำเนินการ

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า หลังจากยื่นหนังสือที่พรรคเพื่อไทย คาราวานเพื่อนบุ้งจะมุ่งหน้าไปที่แพทนสภา กระทรวงยุติธรรม และไปสิ้นสุดที่ศาลจังหวัดธัญบุรี เพื่อติดตามดูการไต่สวนการเสียชีวิตของนางสาวเนติพร