POLITICS

‘จุรินทร์’ มองนายกฯ ไม่เป็นผู้ใหญ่เทียบผลงาน 2 รัฐมนตรีพาณิชย์

‘จุรินทร์’ ปัดล้อเลียนถุงเท้าชมพู มองนายกฯ ไม่เป็นผู้ใหญ่เทียบผลงาน 2 รัฐมนตรีพาณิชย์ ชี้งบ 67 ล่าช้าเหมือนงบเป็ดง่อย ไม่กระตุ้นเศรษฐกิจตามเป้าหมาย

วันนี้ ( 5 ม.ค. 67) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ตอบโต้ถึงการอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณปี 2567 ว่าเป็นงบประมาณเป็ดง่อย ตนเองปฏิบัติตามข้อบังคับและกติการของรัฐสภาอย่างเคร่งครัดทุกประการ ในฐานะฝ่ายค้านที่มีหน้าที่ในการตรวจสอบรัฐบาล การพูดถึงงบเป็ดง่อยนั้น เพื่อต้องการสะท้อนให้เห็นว่าร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 2567 นั้นล่าช้า เหลือเวลาในการใช้งบประมาณเพียง 5 เดือนเท่านั้น ซึ่งคิดเป็น 40% ของระยะเวลาทั้งหมด ซึ่งการใช้เงินของรัฐบาลสำหรับงบลงทุนนั้นมีผลสำคัญต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจมีประสิทธิภาพในการเบิกจ่ายประมาณ 70% ทำให้งบประมาณปี 2567 เป็นงบเป็ดง่อย ไม่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจ ตามเป้าหมายของรัฐบาลได้

นายจุรินทร์ ยืนยันว่าตนเองไม่ได้ตำหนิ แต่เป็นการสะท้อนตามเนื้อผ้าให้ประชาชนได้รับทราบว่าสถานการณ์ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 2567 นั้นเป็นอย่างไร และไม่ได้มีการพาดพิงกระทรวงพาณิชย์ แม้แต่คำเดียว การพูดของนายกรัฐมนตรีนั้น ดูไม่ค่อยเป็นผู้ใหญ่ที่จะทำให้ตนเอง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์คนปัจจุบันไปทะเลาะกัน ส่วนเรื่องผลงานที่มีการเปรียบเทียบระหว่างตนเอง ตลอดระยะเวลา 4 ปีที่ ตนเองทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ไม่ได้น้อยหน้าไปกว่าใคร โดยเฉพาะเรื่องเขตเสรีการค้า (​​FTA) ซึ่งปรากฏเด่นชัด ตั้งแต่การเป็นประธานการประชุมการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเชียที่พยายามมาตลอดระยะเวลากว่า 10 ปี ประสบความสำเร็จ ตอนที่ตนเองเป็นรัฐมนตรีในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และในวันนี้ RCEP กลายเป็น FTA ที่ใหญ่ที่สุดในโลก นอกจากนี้ตนเองยังไปเจรจากับรัฐมนตรีพาณิชย์ และรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจของสหภาพยุโรปด้วยตนเอง และได้เริ่มนับหนึ่งในการเปิดการเจรจา การทำรายละเอียดเรื่อง FTA ซึ่งขณะนี้ก็มีความคืบหน้าอย่างมาก

นอกจากนั้น ตนเองยังได้ไปที่ไอซ์แลนด์ ไปลงนามกับรัฐมนตรี 4 คนกับอีก 4 ประเทศ อีกทั้งยังเดินทางไป สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือ UAE ซึ่งเป็นหน้าด่านสำคัญ ที่จะทำให้การค้ากระจายไปยังตะวันออกกลาง ซึ่งก็ได้ไปเจรจาด้วยตนเอง นอกจากนี้ยังมีศรีลังกา ที่ยังทำต่อเนื่องกัน กำลังจะมาจบในรัฐบาลนี้ ที่สำคัญ มินิ FTA ถือว่าเป็นนวัตกรรมทางการค้าใหม่ที่ ตนต้องการลงลึก ไปทำสัญญาพิเศษในระดับมณฑล หลายมณฑลของจีน เช่น ไห่หนาน เซินเจิ้น รวมทั้งประเทศเกาหลี ญี่ปุ่น ซึ่งตนเองได้เตรียมไว้หลายฉบับ เป็นสิ่งที่ปรากฏเด่นชัด

ผลงานที่ตนเองหยิบยกมานั้น ไม่ได้ต้องการที่จะเปรียบเทียบผลงานกับรัฐมนตรีพาณิชย์คนปัจจุบันเพราะเพิ่งเข้ามาบริหารได้เพียง 3-4เดือน ซึ่งต้องให้เวลา แต่การที่นายกรัฐมนตรีนำมาชนกันนั้น จะทำให้เสียผู้ใหญ่เปล่า ๆ

ส่วนฉายานักกู้ถุงเท้าสีชมพู จนนายเศรษฐา ใส่ถุงเท้าสีชมพูมาล้อเลียนนั้น นายจุรินทร์ กล่าวว่า ตามที่นายกรัฐมนตรีตอบก็ถูก ไม่ว่าจะใส่ถุงเท้าสีอะไรก็สามารถทำงานได้ แต่ประเด็นที่สำคัญคือการทำงานนั้นเป็นการทำงานอะไร หากทำงานส่วนตัวไม่เป็นไร แต่หากอยู่ระหว่างการปฎิบัติราชการแผ่นดิน โดยเฉพาะการเจรจากับผู้นำต่างประเทศนั้น นายกรัฐมนตรีต้องตระหนักให้ดีว่าขณะนี้กำลังแบกหน้าคนไทยทั้งประเทศติดตัวไปด้วย ดังนั้นคนไทยก็มีสิทธิที่จะแสดงความคิดเห็น ตนเองไม่เคยวิจารนายกรัฐมนตรีโดยตรง แต่เป็นเพียงการเปรียบเทียบ แต่เมื่อนายกรัฐมนตรีได้แสดงความคิดเห็นออกมา ก็ขอที่จะแสดงความคิดเห็นด้วยเช่นกัน เพื่อให้นายกรัฐมนตรีจะได้ตระหนัก และขออภัยหากท่านนายกรัฐมนตรีไม่ถูกใจ แต่ก็มีหลายคนที่รู้สึกกับเรื่องนี้

คำพูดเกี่ยวกับฉายาเงินกู้ถุงเท้าสีชมพู ตนเองให้เกียรตินายกรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีก็ต้องให้เกียรติตนเองด้วยเช่นกัน ตนเองทำหน้าที่ฝ่ายค้านเพื่อตรวจสอบรัฐบาล เราต้องต่างคนต่างให้เกียรติซึ่งกันและกัน เราต้องทำหน้าที่ และยืนยันว่าไม่มีอะไรส่วนตัวกับนายกรัฐมนตรี เราเป็นรัฐบาลเราก็สนับสนุนรัฐบาล หากเราเป็นฝ่ายค้าน เราก็ต้องตรวจสอบ หากไม่ตรวจสอบ แล้วประชาชนจะพึ่งใคร

Related Posts

Send this to a friend