โฆษก กต.เผยคืบหน้าสถานะกลุ่ม 254 คนพร้อมเดินทาง หลังสถานทูตออกเอกสารครบแล้ว
โฆษก กต.เผยคืบหน้าสถานะกลุ่ม 254 คนพร้อมเดินทาง หลังสถานทูตออกเอกสารครบแล้ว รอประสาน-จัดยานพาหนะ ระบุ เข้าใจความร้อนใจในพื้นที่ ทุกฝ่ายเจรจาอยู่ ไม่มีโอกาสล่าช้า
วันนี้ (17 พ.ย. 66) นางกาญจนา ภัทรโชค อธิบดีกรมสารนิเทศ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวประจำสัปดาห์ต่อสื่อมวลชน ณ กระทรวงการต่างประเทศ เกี่ยวกับความคืบหน้าการช่วยเหลือคนไทยในเมืองเล้าก์ก่าย รัฐฉาน สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงว่า กระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการเรื่องนี้มายาวนานและต่อเนื่อง แต่ข้อมูลมีความละเอียดอ่อนมาก และเป็นสถานการณ์ในพื้นที่มีการสู้รบระหว่างเมียนมากับชนกลุ่มน้อย
สำหรับสถานะคนไทยผู้ได้รับผลกระทบในเมืองเล้าก์ก่าย มีดังนี้
- กลุ่มที่เคยอยู่ในค่ายทหาร และปัจจุบันย้ายไปอยู่ในโรงพยาบาลใกล้เคียง จำนวน 165 คน
- กลุ่มที่นายจ้างปล่อยตัวออกมาแล้ว พำนักอยู่ในที่ปลอดภัย และอยู่ระหว่างรอทางการส่งตัวไปรวมกับคนไทยกลุ่มใหญ่ จำนวน 89 คน
- กลุ่มที่อาจยังอยู่ในที่ทำงาน และนายจ้างยังไม่ปล่อยตัว จำนวนประมาณ 40-50 คน ซึ่งเป็นกลุ่มที่น่ากังวล เนื่องจากเคยมีการติดต่อกับสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงย่างกุ้ง แต่ขาดการติดต่อไป จึงไม่ทราบว่าอยู่ที่ใด หรือหลบซ่อนอยู่จุดใด
“เมื่อคืนเห็นคลิปว่า พี่น้องคนไทยที่เล้าก์ก่ายออกมาแสดงความในใจว่า ขอให้ทางการไทยช่วยเร็ว ๆ ขอเรียนย้ำว่า ทำอยู่ตลอดเวลา แต่ไม่ใช่สถานการณ์ที่ง่าย ไม่สามารถจะออกจากพื้นที่ มาระหว่างทาง แล้วไปชายแดน แล้วออกจากชายแดนได้เลย บางชาติเดินทางมาถึงชายแดนแล้วออกไม่ได้ ขอให้วางใจว่ากำลังทำอยู่อย่างเต็มที่” นางกาญจนา กล่าว
สำหรับกรณีกลุ่มคนไทย 41 คนนั้น นางกาญจนา แถลงว่า หลังจากหลบหนีไปยังเขตว้าแดงแล้ว ต่อมาทางการเมียนมาขนส่งทั้ง 41 คนมาที่เมืองเชียงตุง แม้คาดหวังว่าจะเคลื่อนย้ายมาด่านท่าขี้เหล็กได้โดยเร็ว แต่ไม่สามารถทำได้ เพราะต้องรอกระบวนการคัดกรองของฝ่ายเมียนมา
“นึกถึงเราเป็นทางการประเทศเขา มีคนชาติต่าง ๆ เข้าไปทำงานอะไรมากมาย แล้วเกิดเหตุการณ์ปราบปรามกลุ่มนายทุน กลุ่มอาชญากรรม พวกที่เข้าไปทำคอลเซ็นเตอร์ เขาต้องมีกระบวนการคัดกรองทางกฎหมายของเขาอยู่พอสมควรเช่นกัน แต่ 41 คนนี้อยู่ในพื้นที่ปลอดภัยแล้ว ขอให้ใจเย็น ๆ รอเวลาที่ทุกฝ่าย กองทัพ ตำรวจ กระทรวงการต่างประเทศ พยายามให้พี่น้องคนไทยยังอยู่ในพื้นที่ต่าง ๆ กลับมาสู่เมืองไทยโดยเร็ว” นางกาญจนา กล่าว
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ยืนยันว่า การเจรจายังมีอยู่ ทั้งโดยกระทรวงการต่างประเทศ และช่องทางของกองทัพ เนื่องจากความสัมพันธ์ไทย-เมียนมามีอยู่หลายระดับ ทุกฝ่ายคุยกันอยู่ แต่ไม่อาจตอบได้ว่าจะออกมาภายในวันนี้เลยหรือไม่ ขึ้นอยู่กับทางการเมียนมา แต่ขอความอนุเคราะห์จากทุกฝ่ายอยู่แล้ว
สำหรับกรณีเมื่อวานนี้ (17 พ.ย. 66) นายรุจ ธรรมมงคล อธิบดีกรมการกงสุล ในฐานะผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศ ชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติ และการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร และต่อมาคณะกรรมาธิการฯ แถลงข่าวโดยเปิดเผยถึงข้อเสนอของคณะกรรมาธิการฯ ต่อรัฐบาล ให้ยกระดับการเจรจา เพื่อเปิดทางช่วยเหลือออกทางประเทศจีนนั้น นางกาญจนา ตอบว่า “จริง ๆ รัฐบาลเจรจาอยู่แล้ว และไม่ได้เพิ่งเจรจาด้วย”
THE REPORTERS ยังสอบถามการดำเนินการของกระทรวงการต่างประเทศ ต่อกรณีเหตุแผ่นดินไหวจากรอยเลื่อนเชียงตุง ประเทศเมียนมา ที่อาจทำให้สถานการณ์ของคนไทย 41 คนในเมืองเชียงตุงย่ำแย่ลง นางกาญจนา ตอบชี้แจงว่า พบเห็นข่าวแผ่นดินไหวจากสื่อมวลชนแล้ว ทราบว่าคนไทยทั้ง 41 คนยังปลอดภัยอยู่ ยืนยันว่า กระทรวงการต่างประเทศเร่งดำเนินการอยู่แล้ว ไม่มีโอกาสที่จะช้า เราพยายามเร่งอยู่แล้ว
ภายหลังจากเกิดเหตุแผ่นดินไหว ยังมีรายงานว่า พ.อ.ณฑี ทิมเสน ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจทัพเจ้าตาก ในฐานะประธานคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่นไทย-เมียนมา (Township Border Committee: TBC) เดินทางไปเร่งรัดการช่วยเหลือในประเทศเมียนมาด้วยนั้น นางกาญจนา ยืนยันว่า หากมีการส่งตัวคนไทย 41 คนกลับถึงประเทศไทยสำเร็จ กระทรวงการต่างประเทศมีแผนงานในพื้นที่รองรับไว้อยู่แล้ว
สำหรับกรณีคนไทยในเมืองเล้าก์ก่ายจำนวน 254 คน ที่รอการส่งกลับประเทศไทยนั้น นางกาญจนา เปิดเผยว่า เนื่องจากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงย่างกุ้ง ไม่สามารถเข้าถึงพื้นที่พักพิงของคนไทยทั้ง 254 คนได้ จึงตรวจสอบสัญชาติผ่านระบบออนไลน์ และออกเอกสารเดินทางฉุกเฉิน (Emergency Travel Document: ETD) ครบแล้วทั้ง 254 คน กลุ่ม 254 คนนี้จึงอยู่ในสถานะพร้อมเดินทาง อยู่ระหว่างกระบวนการประสานฝ่ายต่าง ๆ และจัดยานพาหนะ
นางกาญจนา ชี้แจงถึงการจัดสรรอาหารและน้ำให้กับคนไทยทั้ง 254 คนว่า กระทรวงการต่างประเทศ โดยสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงย่างกุ้ง ทำงานร่วมกับมูลนิธิอิมมานูเอล โดยการจัดสรรงบประมาณให้กับคนไทยในเมืองเล้าก์ก่าย ผ่านมูลนิธิอิมมานูเอล
“เข้าใจความร้อนใจของคนที่อยู่ในพื้นที่ เห็นข่าวก็เป็นห่วง ขอให้เข้าใจว่า นี่คือสถานการณ์สู้รบ สถานการณ์พิเศษจริง ๆ ยืนยันว่าทำทุกวิถีทาง รอเวลานิดหน่อยนะคะ … อยากให้ออกมาตั้งนานแล้ว แต่มันออกมาไม่ได้ ทุกอย่างพยายามเร่งรัดอย่างมากที่สุด มีการเตรียมแผนงานในหลายด้านไว้แล้ว ทั้งยานพาหนะ ผู้คนที่ช่วยงานก็เตรียมไว้แล้ว แต่การเดินทางออกมาต้องให้แน่ใจว่าปลอดภัย” นางกาญจนา กล่าวต่อกรณีคนไทยในเมืองเล้าก์ก่าย ไลฟ์แสดงความกังวลต่อการสู้รบที่อาจเกิดขึ้นในวันที่ 18 พ.ย. 66
นอกจากนี้ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ยังชี้แจงถึงขั้นตอนภายหลังส่งตัวคนไทยกลุ่มเหล่านี้ถึงประเทศไทยว่า จะต้องผ่านขั้นตอนกระบวนการคัดกรองผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ตามกลไกการส่งต่อระดับชาติ (National Referral Mechanism: NRM) ว่าเป็นเหยื่อค้ามนุษย์หรือไม่ ไปอย่างเต็มใจ หรือถูกบังคับเป็นเหยื่อ เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวไม่ใช่พื้นที่ท่องเที่ยวที่เข้าไปได้โดยง่าย แต่ไม่ว่าจะเข้าไปด้วยเหตุใดก็ขอให้ได้ช่วยเหลือออกมาก่อนเพื่อความปลอดภัยของกลุ่มต่าง ๆ แต่ยังต้องเคารพการดำเนินการทางกฎหมายภายในของเมียนมา ซึ่งคงมีกระบวนการทางกฎหมายและการร่วมมือรัฐต่อรัฐต่อไป












