‘ชัยชนะ’ หนุนนโยบาย ‘เปิดผับถึงตี 4’ แต่เรียกร้องตรวจสอบสถานบันเทิงให้ถูกต้องก่อน
‘ชัยชนะ’ หนุนนโยบาย ‘เปิดผับถึงตี 4’ แต่เรียกร้อง ‘นายกฯ – มท.1’ ตรวจสอบสถานบันเทิงให้ถูกต้องก่อนดำเนินนโยบาย ช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อประเทศ
นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่มีข้อร้องเรียนถึงคณะกรรมาธิการฯ ว่าขณะนี้มีเรื่องร้องเรียนต่าง ๆ เข้ามากขึ้น โดยเฉพาะการร้องเรียนให้ตรวจสอบใบอนุญาตสถานบริการบันเทิงทั่วประเทศ ซึ่งตนเห็นว่าในหลายสถานบริการก็มีการละเลย ไม่ดำเนินการให้ถูกต้อง เพราะฉะนั้น ตนและคณะกรรมาธิการฯ จึงเรียกร้องไปยังนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ตรวจสอบเรื่องนี้อย่างจริงจัง
นายชัยชนะ กล่าวว่า ตนขอสนับสนุนแนวทางที่รัฐบาลกำลังผลักดันเรื่องการเปิดสถานบริการถึง 04.00 น. ในเขตโซนนิ่ง ที่กำหนดไว้ เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ก็ขอให้สถานบริการเข้มงวดกวดขันเรื่องอายุของนักท่องเที่ยวและเรื่องยาเสพติดต้องไม่มีในสถานบริการทุกที่ นอกจากนี้ ตนอยากขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลปัญหาอาชญากรรมในพื้นที่สถานบริการในโซนนิ่ง เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อการท่องเที่ยวของประเทศ
“ในช่วงวิกฤตโควิด–19 ที่ผ่านมา ผู้ประกอบอาชีพในสถานบริการเป็นคนกลุ่มแรกๆ ที่ได้รับผลกระทบ และเป็นกลุ่มคนท้าย ๆ ที่ได้รับการเยียวยา ซึ่งการขยายเวลาปิดสถานบริการเป็นตี 4 นั้น เชื่อว่าจะทำรายได้ชดเชยให้กับกลุ่มคนเหล่านี้มากขึ้น อีกทั้ง ผู้ประกอบการสถานบันเทิงมองว่าช่วงเวลาปิดตี 2 ไม่สอดคล้องกับบริบทและพฤติกรรมของนักท่องเที่ยว เพราะมีการสำรวจแล้วว่า นักท่องเที่ยวจะใช้จ่ายในช่วงเวลา 01.00–04.00 น. และลดปัญหาการจ่ายใต้โต๊ะให้กับตำรวจและผู้เกี่ยวข้องเพื่อหลบเลี่ยงการตรวจสอบ” ประธานกรรมาธิการการตำรวจ กล่าว
นายชัยชนะ กล่าวเพิ่มเติมว่า ตนมีความคิดที่จะเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับประกอบสถานบริการ มาร่วมหารือเพื่อวางมาตรการให้นโยบายเปิดสถานบริการถึงตี 4 เกิดประโยชน์สูงสุดทั้งการท่องเที่ยว ผู้ประกอบการ พนักงาน เป็นต้น โดยจะต้องให้เกิดความปลอดภัยต่อประชาชนโดยรวม
“ผมก็ขอฝากท่านนายกฯ และ รมว.มหาดไทย ช่วยกันตรวจสอบบรรดาสถานบริการตามที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติสถานบริการ พ.ศ.2509 ทั้ง 6 ประเภท ทั่วประเทศ ตามข้อร้องเรียนของประชาชนที่ผ่านมายังคณะกรรมาธิการการตำรวจ เพื่อเป็นการตรวจสอบในเบื้องต้นเพื่อเตรียมความพร้อมในการดำเนินนโยบายต่อไป” ประธานกรรมาธิการการตำรวจ กล่าว












