ชาวพะโต๊ะร้องสภาฯ จี้ประเมิน SEA แลนด์บริดจ์ ชุมพร-ระนอง

ชาวพะโต๊ะร้องสภาฯ จี้ประเมิน SEA แลนด์บริดจ์ ชุมพร-ระนอง หวังตอบสนองประชาชนทุกกลุ่ม ‘ปดิพัทธ์’ รับแทน ‘วันนอร์’ ชี้โครงการใหญ่เช่นนี้ต้องรับฟังเสียงประชาชน

วันนี้ (27 ก.ย. 66) ชาวบ้านอำเภอพะโต๊ะ จังหวัดชุมพร ในฐานะเครือข่ายผู้ที่ได้รับผลกระทบจากแลนด์บริดจ์ชุมพร-ระนอง ยื่นเรื่องร้องเรียนต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร ผ่านนายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง และต่อสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) พรรคก้าวไกล เรียกร้องให้มีการประเมินสิ่งแวดล้อมระดับยุทธศาสตร์ (SEA) โครงการแลนด์บริดจ์ จังหวัดชุมพร-ระนอง

โดยในเอกสารร้องเรียนระบุว่า เครือข่ายผู้ที่ได้รับผลกระทบจากแลนด์บริดจ์ ชุมพร-ระนอง ซึ่งประกอบด้วยประมงพื้นบ้านเกษตรกร ผู้ประกอบการบริการ และธุรกิจท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ ได้มีการคัดค้านให้ยุติการรับฟังความคิดเห็นโครงการต่าง ๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่ง เพื่อพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้เพื่อเชื่อมโยงการขนส่งระหว่างอ่าวไทยและอันดามัน (แลนด์บริดจ์) ด้วยความห่วงกังวลผลกระทบในด้านการจัดการทรัพยากร สิ่งแวดล้อม ระบบนิเวศทางทะเล สุขภาพ เศรษฐกิจ และวิถีชีวิตประชาชนอย่างกว้างขวาง ที่อาจเกิดขึ้นจากโครงการพัฒนาขนาดใหญ่ที่จะเปลี่ยนแปลงภูมินิเวศและวิถีผู้คนไปตลอดกาล

เครือข่ายฯ ยังประณามการบิดเบือนข้อเท็จจริงต่อสาธารณชน ทั้งการให้ข้อมูลผ่านเวทีรับฟังความคิดเห็นของกลุ่มที่ปรึกษา การให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนของสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) และการสื่อสารของอินฟลูเอนเซอร์ในสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ จนทำให้ประชาชนเกิดความสับสน ทั้งยังปกปิดข้อมูลที่แท้จริงต่อประชาชน

เครือข่ายฯ จึงเรียกร้องให้รัฐบาลกำหนดให้มีการประเมินสิ่งแวดล้อมระดับยุทธศาสตร์ (SEA) จังหวัดชุมพร-ระนอง เพื่อประเมินและออกแบบการพัฒนาที่สอดคล้องกับศักยภาพระดับพื้นที่ โดยต้องกำหนดให้มีสถาบันวิชาการที่น่าเชื่อถือ และภาคส่วนต่าง ๆ เข้ามามีส่วนร่วมกับประชาชนในทุกขั้นตอน

นายปดิพัทธ์ กล่าวภายหลังรับหนังสือว่า มาในนามของประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอรับเรื่องดังกล่าวแล้วทำการศึกษาในเบื้องต้น พร้อมทั้งจะใช้กระบวนการของรัฐสภาเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้กับประชาชน โดยโครงการที่ใหญ่ขนาดนี้ต้องมีการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่เพื่อไม่ให้กระทบกับชีวิตประจำวันของประชาชน และจะนำกราบเรียนประธานสภาผู้แทนราษฎรต่อไป