WORLD

ครั้งหนึ่งในชีวิต รับเสด็จโป๊ปฟรังซิส ความประทับใจไม่รู้ลืมของคริสตศาสนิกชนในประเทศไทย

สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก และพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกัน ลำดับที่ 266 เสด็จเยือนราชอาณาจักรไทยอย่างเป็นทางการ ตามคำเชิญของรัฐบาลไทยและสภาประมุขบาทหลวงโรมันคาทอลิกแห่งประเทศไทย ระหว่างวันที่ 20-23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 ยังความปลื้มปิติให้กับคริสตศาสนิกชนชาวไทยที่ได้ใกล้ชิดกับ “โป๊ป” ของพวกเขา เสียงกู่ร้อง “Viva il Papa” ดังตลอดเส้นทางเสด็จพระราชดำเนินที่มีผู้มาเฝ้ารอรับเสด็จอย่างเนืองแน่น หลายคนเดินทางมาจากต่างประเทศ หลายคนเดินทางหลายร้อยกิโลเพื่อเพียงได้อยู่ในประวัติศาสตร์การเสด็จเยือนไทยของพระประมุขพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกในครั้งนี้

“อาร์ตี้” เด็กน้อย ในอ้อมกอดสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส

อาร์ตี้อาติยะ กิจบำรุง เด็กชายในชุดพระคาร์ดินัล ที่เข้าไปสวมกอดสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส ระหว่างการเสด็จเยือนวัดนักบุญเปโตร และเป็นที่สนใจของสื่อมวลชนทั่วโลก เปิดเผยด้วยใบหน้าแดงก่ำเปื้อนรอยยิ้มว่า

“ตื่นเต้น และตื้นตันมากครับ … ผ่านมาสักพักแล้วก็ยังตื่นเต้นอยู ไม่ทราบเหมือนกันว่าทำไมถึงเข้าไปสัมผัสพระหัตถ์ และสวมกอดพระองค์ท่าน เหมือนตอนนั้นทำออกไปเองโดยอัตโนมัติ ไม่ได้ตั้งใจหรือวางแผนไว้ก่อน”

ครั้งหนึ่งในชีวิตของอาร์ตี้ (Photo Credit: Vatican News)

อาร์ตี้ ในวัย 10 ปี กำลังศึกษาอยู่ที่โรงเรียนยอแซฟอุปถัมภ์ มารอรับพระสันตะปาปาฟรังซิสพร้อมกับครอบครัวที่วัดนักบุญเปโตร หลังจากไปร่วมพิธีบูชาขอบพระคุณที่สนามศุภชลาศัยในวันที่ 21 พฤศจิกายน พร้อมศาสนิกชนร่วม 50,000 คน โดยนั่งอยู่บนอัฒจันท์ และไม่ได้เห็นสมเด็จพระสันตะปาปาในระยะใกล้เพียงเอื้อมถึงเท่ากับวันนี้

อาร์ตี้ และครอบครัวในวันรับเสด็จสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสที่วัดนักบุญเปโตร

ธัญญาลักษณ์ กิจบำรุง ผู้ปกครองของ อาร์ตี้ เปิดเผยว่า อาร์ตี้ ได้มีโอกาสยืนในแถวต้อนรับพระสันตะปาปาอย่างใกล้ชิด พร้อมกับเยาวชนคนอื่นๆ ที่สวมใส่ชุดนักบวช และซิสเตอร์ โดยอาร์ตี้ เคยใส่ชุดพระคาร์ดินัลมาก่อนหน้านี้แล้ว 2 ครั้ง โดยครั้งล่าสุด คือในงานฉลอง 350 ปีมิสซังสยาม ที่พระคาร์ดินัล แฟร์นันโด ฟิโลนี สมณมนตรีแห่งสมณกระทรวงประกาศพระวรสารสู่ปวงชน นครรัฐวาติกัน เยือนประเทศไทย เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งหลังจากนั้นไม่นานอาร์ตี้ก็ตัวใหญ่ขึ้นจนเกือบจะไม่สามารถสวมชุดได้อีก แต่เมื่อรู้ว่าโป๊ปจะเสด็จมาที่ประเทศไทย อาร์ตี้ก็ออกกำลังกาย และฟิตร่างกายเพื่อจะสามารถสวมชุดนี้ได้อีกครั้ง ครอบครัวรู้สึกดีใจที่น้องได้มีโอกาสใกล้ชิดพระองค์ท่านขนาดนี้ พ่อแม่ป้า ทุกคนน้ำตาไหลกันหมดเมื่อเห็นภาพที่น้องสวมกอดสมเด็จพระสันตะปาปา

อาร์ตี้ - อาติยะ กิจบำรุง

รู้สึกว่าตัวเองโชคดีมาก และจะไม่ลืมวันนี้ไปตลอดชีวิตครับ โดยจะนำคำสอนของพระองค์ไปปฏิบัติตาม และจะขยัน ตั้งใจเรียน รวมถึงเป็นคนดีในสังคมในอนาคตครับ

ไม่ว่ากี่ครั้งก็ยังคงตื้นตัน และอยากเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์นี้

โรซา วไลพร ศิริศักดิพร นักธุรกิจคาทอลิกที่เดินทางมารอเฝ้ารับเสด็จสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสพร้อมกับครอบครัว ท่ามกลางอากาศร้อน และร่างกายที่ไม่แข็งแรงนักของคนในวัย 74 ปี เปิดเผยว่า เมื่อ 35 ปีก่อน เคยได้รับเสด็จสมเด็จพระสันตะปาปายอห์น ปอล ที่ 2 ที่เสด็จมาเยือนประเทศไทย เมื่อวันที่ 10-11 พฤษภาคม 2527 ซึ่งเป็นการรับเสด็จที่สนามศุภชลาศัย และเป็นความทรงจำที่ดี ที่ประทับใจไม่รู้ลืม แค่ได้เห็นพระองค์ท่าน ได้ร่วมพิธีบูชาขอบพระคุณ และได้ฟังคำสอนของท่านก็ปลาบปลื้มใจมาก และจากวันนั้นก็ปาวารณาตัวจะเป็นคริสตศาสนิกชนที่ดีเสมอมา รัก และเมตตาต่อผู้อื่นเหมือนดังคำสอนของพระผู้เป็นเจ้า นอกจากนั้นเมื่อมีโอกาสก็จะเดินทางไปยังที่ต่างๆ เพื่อศึกษาประวัติศาสตร์และคำสอนให้ได้มากที่สุด

โรซา วไลพร ศิริศักดิพร และครอบครัว

“ต่อให้เหนื่อยแค่ไหน ร้อนแค่ไหน และสุขภาพไม่แข็งแรงนักก็จะต้องเดินทางมาเฝ้ารับเสด็จสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสให้ได้ และเชื่อว่าคริสตศาสนิกชนทุกคนก็คงจะคิดเหมือนกัน มีหัวใจดวงเดียวกัน จึงช่วยเหลือกันทุกอย่าง และสนับสนุนกัน ให้การรับเสด็จทุกที่เป็นไปด้วยความราบรื่น ไปที่ไหนก็ไม่ลำบาก มีน้ำดื่ม อาหาร และความช่วยเหลือให้เห็นทุกที่ น่าประทับใจอย่างมาก” วไลพร กล่าว

ตลอดเส้นทาง ระหว่างการเสด็จเยือนราชอาณาจักรไทยอย่างเป็นทางการของ สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก และพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกัน ทั้ง 4 วัน เป็นไปด้วยความเรียบร้อย งดงาม ยังความประทับใจให้กับคริสตศาสนิกชนชาวไทย และชาวต่างประเทศที่เดินทางมาร่วมงานอย่างมาก รวมถึงได้เผยแพร่วัฒนธรรมอันดีงาม และความงดงามของประเทศไทยสู่สายตาชาวโลกผ่านทางสื่อต่างๆ ของวาติกัน และสื่อมวลชนทั่วโลกอีกด้วย … และคงเป็นครั้งหนึ่งในชีวิตที่จะตราตรึงในความรู้สึกและความทรงจำของใครหลายๆ คนตลอดไป

Related Posts

Send this to a friend