WORLD

สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสเสด็จเยือนราชอาณาจักรไทยอย่างเป็นทางการระหว่างวันที่ 20- 23 พฤศจิกายน 62

สภาประมุขบาทหลวงโรมันคาทอลิกแห่งประเทศไทย แถลงข่าว การเสด็จเยือนราชอาณาจักรไทยอย่างเป็นทางการของ สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก และพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกัน ลำดับที่ 266 ตามคำเชิญของรัฐบาลไทยและสภาประมุขบาทหลวงโรมันคาทอลิกแห่งประเทศไทย โดยจะทรงประกอบศาสนกิจ อีกทั้งทรงเยี่ยมเยียนคริสตชนในประเทศไทยเป็นระยะเวลา 4 วัน ระหว่างวันที่ 20-23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 ก่อนที่จะเสด็จต่อไปเยือนประเทศญี่ปุ่น ในวันที่ 23 -26 พฤศจิกายน 2562 โดยจะเสด็จเยือนกรุงโตเกียว เมืองนางาซากิ และเมืองฮิโรชิมา ทั้งนี้ กำหนดการต่างๆ ของการเสด็จเยือนโดยละเอียดจะประกาศให้ทราบต่อไป

สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสทรงมีความโสมนัสยิ่งที่การเสด็จเยือนราชอาณาจักรไทยครั้งนี้ เป็นการจาริกเพื่อสันติภาพ และเพื่อการเสวนาระหว่างศาสนา พระองค์จะประกอบพิธีมิสซาแบบสาธารณะ 2 ครั้ง คือสำหรับบรรดาคริสตชนคาทอลิกทั่วประเทศ และอีกครั้งเป็นพิเศษสำหรับบรรดาเยาวชน

สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก และพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกัน มีพระนามเดิมว่า ฮอร์เก มาริโอ แบร์โกลิโอ ทรงสำเร็จการศึกษาปริญญาวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาเคมี จากมหาวิทยาลัยบัวโนสไอเรส และประกาศนียบัตรสาขาวิชาปรัชญา จาก Colegio Máximo San José ทรงเป็นอาจารย์วิชาวรรณกรรมและจิตวิทยาที่ Colegio de la Inmaculada และ Colegio del Salvador ทรงศึกษาวิชาเทววิทยา (theology) และถวายพระองค์เป็นนักบวชบาทหลวงในคณะแห่งพระเยซูเจ้า (เยสุอิต) จากนั้น ทรงดำรงตำแหน่งศาสตราจารย์ทางเทววิทยา โดยทรงสอนที่มหาวิทยาลัย Facultades de Filosofía y Teología de San Miguel

ตำแหน่งสมเด็จพระสันตะปาปานั้น มีประวัติความเป็นมาอันยาวนานประมาณสองพันปี โดยเริ่มต้นขึ้นเมื่อพระเยซูคริสตเจ้าได้ทรงแต่งตั้งให้นักบุญเปโตร อัครสาวก เป็นผู้นำของบรรดาอัครสาวก จึงถือว่านักบุญเปโตรเป็นพระสันตะปาปาพระองค์แรก และมีผู้สืบตำแหน่งจากนักบุญเปโตรเป็นลำดับมาจนถึงปัจจุบัน ทั้งนี้ พระสันตะปาปายังถือว่าเป็นผู้แทนของพระเยซูคริสตเจ้าในโลก ตามความเชื่อของศาสนาคริสต์ นิกายโรมันคาทอลิก อีกทั้งทรงดำรงตำแหน่งประมุขแห่งสันตะสำนักและนครรัฐวาติกัน อันเป็นศูนย์กลางการบริหารพันธกิจของพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกทั่วโลกอีกด้วย

การเยือนระหว่างประมุขแห่งรัฐระหว่างราชอาณาจักรไทยและสันตะสำนักแห่งนครรัฐวาติกันนั้น มีขึ้นครั้งแรกเมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเข้าเฝ้าสมเด็จพระสันตะปาปาเลโอที่ 13 ระหว่างการเสด็จพระราชดำเนินทวีปยุโรป เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2440 พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินีในรัชกาลที่ 7 เสด็จพระราชดำเนินมาเข้าเฝ้าสมเด็จพระสันตะปาปาปีโอที่ 11 เมื่อวันที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2477 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จพระราชดำเนินมาเข้าเฝ้านักบุญยอห์นที่ 23 พระสันตะปาปา เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2503

ด้านความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างราชอาณาจักรไทย และสันตะสำนักแห่งนครรัฐวาติกันนั้น การติดต่อทางพระราชไมตรีระหว่างพระมหากษัตริย์สยาม และสมเด็จพระสันตะปาปาแห่งวาติกันมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นต้นมาจนถึงปี ค.ศ. 1969 นักบุญเปาโลที่ 6 พระสันตะปาปาจึงทรงสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างราชอาณาจักรไทย และสันตะสำนักแห่งนครรัฐวาติกันในระดับเอกอัครราชทูต ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทย – วาติกันจึงได้กระชับแน่นแฟ้นขึ้นจนถึงปัจจุบัน

สำหรับการเสด็จเยือนประเทศไทยของสมเด็จพระสันตะปาปานั้น เกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. 2527 นักบุญยอห์น ปอล ที่ 2 พระสันตะปาปา เสด็จเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ในฐานะพระราชอาคันตุกะ ระหว่างวันที่ 10 – 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2527         

ปัจจุบัน ประเทศไทยมีประชากรคาทอลิกจำนวน 388,468 คน จากประชากร
ทั้งประเทศจำนวนทั้งสิ้น 69 ล้านคน และมี 11 เขตศาสนปกครอง (มิสซัง)

ขอบคุณภาพข่าว ศักดา จุลสุคนธ์

Related Posts

Send this to a friend