แรงงานไทยในอิสราเอล เผย ยังผวาเหตุระเบิด จึงตัดสินใจกลับไทย แม้เสียดายรายได้ที่ดี
The Reporters ติดตามการอพยพแรงงานไทยในอิสราเอง ซึ่งรัฐบาลไทย โดยสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ได้เปิดศูนย์พักพิง 6 แห่งให้แรงงานไทยมารอพักก่อนขึ้นเครื่องบินกลับประเทศไทย ซึ่งมีผู้ประสงค์ขอกลับแล้วกว่า 8,000 คน แต่ละศูนย์พักพิงเป็นโรงแรมที่แรงงานไทย ได้ขอบคุณรัฐบาลไทย ที่ได้พักในที่ปลอดภัย โดยนอกจากห้องพักให้นอนห้องละ 3 คน ยังมีอาหารให้อย่างดี
น.ส.บุญบัญชี ภู่แก้วเผือก ทีมอพยพแรงงานไทยกระทรวงแรงงาน ที่รับผิดชอบศูนย์พักพิงแห่งนี้ เปิดเผยว่า กระทรวงแรงงานส่งทีม 9 คนมาดูแลแรงงาน ก่อนขึ้นเครื่องบิน ตามที่รัฐบาลวางแผนจะอพยพให้ได้วันละ 600 คน เจ้าหน้าที่ของกระทรวงแรงงานที่มาสนับสนุนเจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทพอาวีฟ ได้เร่งทำงานอย่างเต็มที่ หวังว่าจะมีเที่ยวบิน รองรับแรงงานไทยได้อย่างรวดเร็ว
ส่วนแรงงานที่มารอขึ้นเครื่องกลับมาจากทั้งภาคใต้ ใกล้ฉนวนกาซา และทางเหนือติดเลบานอน ใช้เวลาอพยพเกือบ 1 สัปดาห์ กว่าจะมาถึง ทุกคนรู้สึกสบายใจขึ้น
แรงงานคนหนึ่งอยู่ห่างจากฉนวนกาซา 10 กม.ที่ฟาร์มมีทั้งระเบิดและกราดยิง มีเพื่อนแรงงาน 23 คน แต่ปลอดภัยทุกคน แรงงานรายนี้เปิดเผยว่าตอนเกิดเหตุก็หนีตาย 2-3 วัน ติดอยู่ที่เมืองมิบตาฮิม หลังหนีออกจากฟาร์มก็อพยพไปกับทหารที่ศูนย์อพยพทางเหนือ อยู่ศูนย์อพยพ 5-6 วัน
“ผมมาทำงาน 4 ปีและใกล้หมดสัญญาแล้ว ก็เสียดายที่ไม่ได้เก็บเงินต่อ แต่ใช้หนี้หมดแล้ว จึงตัดสินใจเดินทางกลับ ถ้าอยู่ครบก็พอมีเงินเหลือ ตั้งใจจะสะสมเงินจนเกษียณอายุงาน แต่กลับไปครั้งนี้คงไม่กลับมาแล้ว เพราะเจอเหตุการณ์แล้วยังหวาดกลัว ซึ่งพูดยาก คนไม่อยู่ในเหตุการณ์ไม่รู้”
แรงงานไทยรายนี้เปิดเผยว่ากลุ่มก่อการร้ายไม่ได้เจาะจงว่าเป็นชาติใด ถ้าใครอยู่บนถนนเขายิงหมดเลย และไม่ได้ถามว่าเป็นคนไทยหรือไม่ ในขณะนั้นตนเองก็รู้สึกไม่ปลอดภัยจึงอยากจะเดินทางกลับ
ส่วนแรงงานอีกรายมาจากทางเหนือของอิสราเอล ติดกับประเทศจอร์แดน เปิดเผยว่า ดีใจที่ได้กลับบ้านแล้ว ตนเองเจอเหตุการณ์สู้รบ มีเหตุระเบิดและการบุกยิง อย่างตนเองเจอในแคมป์มีทหารอิสราเอลเข้ามา แต่ได้บอกว่าเป็นคนไทย ทหารอิสราเอล จึงปล่อยตัวไป เพราะทหารมากวาดล้างกลุ่มก่อการร้าย เมื่อเห็นคนไทยจึงปล่อยตัว
“ตอนนี้ยังมีสถานการณ์ จึงตัดสินใจเดินทางกลับ ใช้เวลาเดินทางเกือบ 1 สัปดาห์ กว่าจะมาถึงที่กรุงเทลอาวีฟ เพราะนายจ้างไม่ได้จ่ายเงิน จึงรวมกันหารค่าแท็กซี่กับเพื่อน พอมาถึงที่พัก เจอเจ้าหน้าที่ไทยให้ทั้งที่พักและอาหารฟรี ก็สบายใจขึ้น ขอบคุณรัฐบาลที่ดูแลดีมากๆ”
แรงงานรายนี้ เปิดเผยว่า ตนมาทำงาน 4 ปี ใกล้ครบสัญญา ก็เข้าใจที่ไม่ได้ทำต่อ ที่ฟาร์มถูกสั่งอพยพทั้งหมดแล้ว ก็เข้าใจเรื่องค่าแรงที่ยังค้างจ่าย และเข้าใจนายจ้างว่าลำบาก ก็รอให้มีการประสาน แต่ถ้าเขาไม่มีก็เข้าใจกันได้เพราะสถานการณ์ลำบาก แต่ได้ภายหลังก็ดี ส่วนตัวไม่กลับมาอีกแล้ว ก่อนมาทำงานที่นี่ก็ยอมรับความเสี่ยง เพราะเป็นประเทศสงคราม ก็สมัครใจทำงาน แต่ครั้งนี้หนักมาก เพราะมีการกราดยิง
แรงงานไทยยอมรับว่าการมาทำงานที่นี่ ดีกว่าทำอยู่ที่ไทย แต่จะให้กลับมาคงไม่กลับมา ซึ่งส่วนตัวก็พอเก็บเงินได้มากจากการทำงานในอิสราเอล และยอมรับว่าทำให้ชีวิตดีกว่าเดิม
ในขณะที่สัมภาษณ์แรงงานกลุ่มนี้มีเสียงเตือนภัยดังขึ้นในกรุงเทลอาวีฟ ทำให้ทุกคนต้องพากันวิ่งลงที่หลบภัย ซึ่งเป้นห้องใต้ดิน ที่ต้องลงทางบันไดหนีไฟ ทุกโรงแรมจะมีห้องหลบภัยที่แข็งแรง ด้านในมีเก้าอี้พัก มีน้ำ อ่างล้างมือ และอากาศที่ถ่ายเท โดยชาวอิสราเอล ต่างพาลูกลงมาที่ห้องหลบภัย รวมถึงมีทหารอิสราเอลมาคอยดูแล เป็นทหารหญิง 2 นาย หลังเสียงเตือนภัย 10 นาที ถ้าไม่มีเพิ่มทุกคนก็ขึ้นไปใช้ชีวิตปกติ ซึ่งพบว่ามีการยิงจรวดมาในพิกัดในกรุงเทลอาวีฟ แต่จรวดตกลงทะเล ด้านหน้าโรงแรมที่พักของแรงงานไทยด้วย โดยทุกคนปลอดภัยจากเหตุการณ์นี้