WORLD

ทูตรัสเซีย ชี้ ไม่มีเจตนาคร่าชีวิตพลเรือน หวังสงครามยุติโดยเร็ว แนะผู้ประท้วงศึกษาประวัติศาสตร์เบื้องหลัง

วันนี้ (15 มี.ค. 65) ณ สถานทูตสหพันธรัฐรัสเซียประจำประเทศไทย นายเยฟกินี โทมิคิน เอกอัครราชทูตรัสเซีย ประจำประเทศไทย แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนถึงสถานการณ์รัสเซีย-ยูเครน และประเด็นที่เกี่ยวข้อง โดยระบุว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้ดำเนินมาเพียง 3 สัปดาห์นี้ แต่มันมีประวัติศาสตร์เบื้องหลังอยู่ก่อนหน้านั้นนานมากแล้ว

“โดยเฉพาะตั้งแต่สหภาพโซเวียต (Soviet Union) ล่มสลายลงเมื่อปี 1991 หลายคนก็คาดหวังให้รัสเซียมีสัมพันธไมตรีที่ดีและยืดหยุ่นกับตะวันตกมากขึ้น แต่เราพบกับอิทธิพลของนาโต้ (NATO) ที่ขยายมาทางยุโรป แม้รัสเซียหวังให้มีการนั่งโต๊ะเจรจากัน แต่ก็ไม่เคยสำเร็จ” เอกอัครราชทูตรัสเซีย ประจำประเทศไทย กล่าว

นายเยฟกินี ชี้แจงว่า ความขัดแย้งกับยูเครนเกิดขึ้นจากยูเครนโจมตีพื้นที่ดอนบัส (Donbas) ตลอด 8 ปีที่ผ่านมา ถ้าโดนโจมตีเช่นนี้เรื่อย ๆ เราจะทนได้อีกนานแค่ไหน ? ปฏิบัติการพิเศษทางทหาร (Special Military Operation) ของรัสเซียจึงต้องเกิดขึ้น แม้อย่างที่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน เปิดเผยว่า การตัดสินใจครั้งนี้ยากสำหรับเขา แต่ต้องมีปฏิบัติการพิเศษขึ้นมา วัตถุประสงค์หลักก็เพื่อปกป้องพลเรือนของเรา และเพื่อป้องกันหายนะที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

“รัสเซียไม่ใช่คนเริ่มปฏิบัติการพิเศษทางทหารอย่างที่ปรากฏตามโฆษณาชวนเชื่อ (Propaganda) ของตะวันตก แต่รัสเซียต่างหากที่ต้องการหยุดความขัดแย้งที่เกิดกับยูเครนมาตลอด 8 ปี” เอกอัครราชทูตรัสเซีย ประจำประเทศไทย กล่าว

นายเยฟกินี กล่าวถึง อิทธิพลของชาติตะวันตกว่า รัสเซียไม่ได้ถูกโดดเดี่ยว เราจะเห็นรายงานว่าประธานาธิบดีปูติน และรัฐมนตรีลาฟรอฟ ยังคงพูดคุยทางโทรศัพท์กับนานาประเทศ เรายังดำเนินนโยบายทางทูตอยู่ มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะโดดเดี่ยวรัสเซีย อย่างที่ปรากฏในโฆษณาชวนเชื่อของตะวันตก

“สิ่งที่รัสเซียต้องการคือพยายามอย่างยิ่งยวดเพื่อยุติสงครามโดยเร็วที่สุด แต่ในสถานการณ์อย่างนี้ ผมมั่นใจว่าไม่มีเหตุผลที่รัฐบาลตะวันตกควรกดดันสถานการณ์ให้ขาดเสถียรภาพไปมากกว่านี้” เอกอัครราชทูตรัสเซีย ประจำประเทศไทย กล่าว

นายเยฟกินี กล่าวว่า การรุกรานครั้งนี้ไม่มีกำหนดการตายตัว เป้าหมายหลักคือการทำลายอาคารทางทหาร ซึ่งแม้ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญทางทหาร แต่เราก็ไม่อยากเห็นพลเรือนบาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก

นายเยฟกินี ย้ำว่า รัสเซียพยายามเลี่ยงพลเรือนแล้ว แต่กองกำลังอีกฝ่ายต่างระดมยิงในพื้นที่ย่านชุมชนอยู่ รัสเซียเปิดฉนวนมนุษยธรรมทุกวัน เราพยายามรับประกันเส้นทางอพยพของพลเรือน ซึ่งขณะนี้เองรัสเซียก็เป็นที่พักพิงของผู้ลี้ภัยชาวยูเครนอีกหลายล้านคน

ส่วนประเด็นจุดยืนของรัฐบาลไทยในที่ประชุมใหญ่สมัชชาสหประชาชาติ ซึ่งลงคะแนนเสียงเห็นชอบเรียกร้องให้รัสเซียยุติการรุกรานในยูเครน พร้อมทั้งส่งความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมไปในพื้นที่นั้น นายเยฟกินี กล่าวว่า เราเคารพจุดยืนทั้งหมดของเพื่อนของเราซึ่งต้องรักษาสมดุลในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ การดำเนินทางทูตของรัสเซียคือการไม่แทรกแซงกิจการของประเทศอื่น เราพูดคุยกับกระทรวงการต่างประเทศ เราซึ้งใจที่เพื่อนไทยของเราพร้อมที่จะฟังในสิ่งที่เราพูด ส่วนการลงมติในที่ประชุมสมัชชาใหญ่นั้นเราก็เข้าใจว่านานาประเทศสมาชิกเองก็ถูกแรงกดดันจากชาติตะวันตกด้วย

“เรามีมิตรภาพที่ยาวนาน เรามีประว้ติศาสตร์ร่วมกัน และเราเคารพพันธกรณีระหว่างกัน” เอกอัครราชทูตรัสเซีย ประจำประเทศไทย กล่าว

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้าไทยมีท่าทีเรียกร้องให้หยุดยิง (Ceasefire) จะกระทบความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับรัสเซีย จนถูกขึ้นบัญชีประเทศที่ไม่เป็นมิตร (Non-friendly Countries) หรือไม่ ? นายเยฟกินี ตอบว่า ไทยไม่อยู่ในลิสต์นั้น ผมคิดว่าไม่น่าเป็นไปได้ และยังเรายังไม่ควรพูดถึงประเด็นนี้ในขณะนี้ ขณะเดียวกันก็คิดว่ารัฐบาลไทยคงไม่ดำเนินมาตรการทางการเงิน อย่างการอายัดทรัพย์สินของชาวรัสเซียในไทยเช่นกัน

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงแผนดูแลคนรัสเซียในไทย นายเยฟกินี ตอบว่า เราทำงานอย่างใกล้ชิดกับทางการไทย เรามีระบบเก็บข้อมูลออนไลน์ของทางการรัสเซียตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ให้นักท่องเที่ยวชาวรัสเซียลงทะเบียนข้อมูลผ่านทางเว็บไซต์ ซึ่งพบว่ามักมีปัญหาหลักคือการขยายระยะเวลาพำนักในประเทศไทย เราก็ออกหนังสือเรียนไปยังสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองแล้ว

ส่วนกระแสความสนใจของสังคมไทยต่อสถานการณ์ในยูเครน และบ้างก็สนับสนุนการต่อต้านการรุกรานของรัสเซียจนมาชุมนุมด้านหน้าสถานทูตสหพันธรัฐรัสเซีย นายเยฟกินี ตอบว่า เราพบเจอกับการกระทำแบบนี้ทุกวัน เราก็ประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อควบคุมความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ตรงนี้ เพื่อรับประกันความปลอดภัยของสถานทูตและการทำงานของเราให้เป็นไปได้โดยปกติ

“สิ่งที่ผมจะพูดต่อคนเหล่านั้นซึ่งบางคนก็มาจากยูเครนคือ ลองใช้เวลาเปิดคอมพิวเตอร์ ศึกษาประวัติศาสตร์เบื้องหลังของรัสเซียและยูเครนสักหน่อย ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศนี้ เรามีพื้นหลังประวัติศาสตร์ ศาสนา และชาติพันธุ์ร่วมกัน เราต้องการรักษาความสามัคคีในครอบครัว เราไม่ต้องการให้คนภายนอกทำลายความสมานฉันท์ระหว่างเรา” เอกอัครราชทูตรัสเซีย ประจำประเทศไทย กล่าว

นายเยฟกินี กล่าวทิ้งท้ายในนามรัฐบาลรัสเซียว่า เราหวังว่าคนไทยจะเข้าใจสถานการณ์มากขึ้น และเราต้องการชี้ให้เห็นว่ามีการแสดงออกซึ่งความเกลียดชังอย่างไม่น่าเชื่ออยู่มาก ทุกอย่างที่เชื่อมต่อกับรัสเซียก็กลายเป็นความเกลียดชังทั้งหมด ท้ายที่สุดผมหวังว่าสถานการณ์จะบรรเทาลงโดยรวดเร็วและโดยสันติ

Related Posts

Send this to a friend