WORLD

นายกฯ ร่วมประชุม IMT – GT ระดับผู้นำ ครั้งที่ 14

นายกรัฐมนตรีร่วมประชุม IMT – GT ระดับผู้นำ ครั้งที่ 14 เดินหน้าสู่การเป็น “อนุภูมิภาคที่มีการบูรณาการ มีนวัตกรรม ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง และยั่งยืน” ไทยในฐานะประธานเน้นย้ำ 3 สาขา เชื่อมโยงไร้รอยต่อ เศรษฐกิจพื้นฐาน BCG และการท่องเที่ยวมูลค่าสูง

วันนี้ (10 พ.ย. 65) เวลา 17.30 น. ณ ห้อง Ballroom III ชั้น Lobby (L) โรงแรมสกคา พนมเปญ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นากยรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เข้าร่วมการประชุมระดับผู้นำครั้งที่ 14 แผนงานการพัฒนาเขตเศรษฐกิจสามฝ่าย อินโดนีเซีย-มาเลเซีย-ไทย (Indonesia – Malaysia Thailand Growth Triangle: IMT – GT) ในฐานะประธานที่ประชุม โดยมีนายโจโก วิโดโด ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐอินโดนีเซีย นายตัน ซรี ดาตุก อัซฮาร์ อาซิซาน ฮารุนประธานสภาผู้แทนราษฎร ผู้แทนพิเศษของนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ดาโต๊ะ ปาดูกา ลิม จ๊อก เลขาธิการอาเซียน และนายมาซัตสึกะ อะซากาวา ประธานธนาคารพัฒนาเอเชีย เข้าร่วมด้วย นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยสาระสำคัญ ดังนี้

นายกรัฐมนตรีรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ทำหน้าที่ประธานการประชุมระดับผู้นำในครั้งนี้ ตลอดช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ผ่านมา รัฐบาลประเทศสมาชิกได้ดำเนินการอย่างรอบด้าน เพื่อควบคุมการแพร่ระบาด รวมถึงดำเนินมาตรการเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมมาอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันโลกก็ยังเผชิญกับความท้าทายในมิติอื่นๆ ซึ่งล้วนมีความซับซ้อน 

IMT-GT จึงได้มุ่งดำเนินงานอย่างเป็นรูปธรรมผ่านวิสัยทัศน์ปี 2579 ในการเป็น “อนุภูมิภาคที่มีการบูรณาการ มีนวัตกรรม ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง และยั่งยืน” สู่แผนการดำเนินงานในระยะต่าง ๆ โดยในปัจจุบัน ได้มีแผนการดำเนินงานในระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2565 – 2569) 

ไทย เห็นว่า 3 สาขาดังต่อไปนี้มีความสำคัญสูงต่อการพัฒนาอนุภูมิภาคฯ ภายใต้แผนการดำเนินงานดังกล่าว 1. ความเชื่อมโยงไร้รอยต่อ ที่เน้นการเชื่อมโยงของโครงสร้างพื้นฐานและกฎระเบียบต่าง ๆ ในอนุภูมิภาค 2. เศรษฐกิจบนฐาน BCG Model ที่มุ่งสร้างความเข็มแข็งของห่วงโซ่อุปทานในอนุภูมิภาค รวมถึงสร้างการเติบโตที่คำนึงถึงผลกระทบต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม และ 3.  การท่องเที่ยวมูลค่าสูง ที่มุ่งยกระดับศักยภาพด้านดิจิทัลของบุคลากรในภาคการท่องเที่ยว รวมถึงการบูรณาการความร่วมมือเพื่อให้IMT-GT เป็นจุดหมายปลายทางเดียวกันของนักท่องเที่ยวทั่วโลก

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีหวังเป็นอย่างยิ่งว่า การหารือในวันนี้จะบรรลุผลเป็นรูปธธรม ให้แผนงานสามารถพลิกฟื้นความท้าทาย และพลิกโฉมให้ IMT-GT เป็นอนุภูมิภาคแห่งโอกาสของการพัฒนาเพื่อประชาชนอย่างแท้จริงต่อไป

ซึ่งนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานที่ประชุม ได้กล่าวสรุปข้อหารือ และกล่าวปิดการประชุม จากรายงานความก้าวหน้าการพัฒนาในอนุภูมิภาค IMT-GT ทำให้ได้รับทราบถึงปริมาณการค้าภายในและการค้ากับภูมิภาคอื่นกำลังเริ่มฟื้นตัว แม้ว่าภาคการท่องเที่ยวยังเติบโตได้ไม่มากนัก ทุกภาคส่วนของ IMT-GT จึงต้องร่วมกันดำเนินงานเพื่อใช้ประโยชน์จากโอกาสนี้ โดยในรอบปีที่ผ่านมา IMT-GT สามารถขับเคลื่อนตามข้อสั่งการสำคัญของผู้นำจากการประชุมในครั้งที่ผ่านมาได้อย่างน่าชื่นชม พร้อมได้กล่าวชื่นชมผู้ว่าราชการจังหวัดและมุขมนตรีของ IMT-GT ที่เป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการนำนโยบายสู่การปฏิบัติให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม รวมถึงสภาธุรกิจ IMT-GT ผู้เป็นฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนโครงการตามแผนงาน IMT-GT และสนับสนุนการขยายบทบาทไปยังผู้ประกอบการ MSMEs รวมทั้งผู้ประกอบการรุ่นใหม่ 

โดยในระยะต่อไปควรต้องมุ่งเน้นฟื้นฟูเศรษฐกิจของอนุภูมิภาคภายหลังจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ตามวิสัยทัศน์ IMT-GT พ.ศ. 2579 ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้เสนอใน 6 ประเด็น ได้แก่

1.เร่งพัฒนาความเชื่อมโยงโครงการโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมแบบไร้รอยต่อ 

2.เร่งดำเนินโครงการสำคัญเพื่อสร้างความเข้มแข็งของห่วงโซ่คุณค่าของสินค้าเกษตร 

3.เร่งพัฒนาโครงการภายใต้ความร่วมมือด้านสิ่งแวดล้อม โครงการเมืองสีเขียว และกรอบการพัฒนาเมืองที่ยั่งยืนเพื่อสอดรับกับ BCG Model 

4.เสริมสร้างความเข้มแข็งของสภาธุรกิจ IMT-GT เพื่อผลักดันและขับเคลื่อนโครงการต่าง ๆ 

5.สนับสนุนการเชื่อมโยงแผนงาน IMT-GT กับแผนงานพัฒนาเศรษฐกิจ ในระดับอนุภูมิภาคอื่น ๆ เพื่อให้สามารถเกื้อหนุนซึ่งกันและกัน และ

6.เร่งรัดการดำเนินโครงการสำคัญด้านการท่องเที่ยวเพื่อเป็นตัวจักรสำคัญในการพลิกฟื้นเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคฯ 

ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีกล่าวแสดงความยินดีต่อการครบรอบ 30 ปี ของแผนงาน IMT-GT ในปี2566 หวังว่ากิจกรรมต่าง ๆ ภายใต้ IMT-GT Visit Year 2566-2568 จะเป็นตัวจักรสำคัญในการพลิกฟื้นเศรษฐกิจในอนุภูมิภาค IMT-GT ของเรา

Related Posts

Send this to a friend