สายการบิน เอมิเรตส์ประกาศเปิดเที่ยวบินระหว่างกรุงเทพฯ และ ดูไบ ให้บริการด้วยเครื่องบินโบอิ้ง 777-300ER ซึ่งมีบริการที่นั่งทั้งในชั้นหนึ่ง ชั้นธุรกิจ และชั้นประหยัด ในวันที่ 1 กันยายน นี้ โดยเที่ยวบิน EK384 ไปยังกรุงเทพฯ จะออกเดินทางจากดูไบทุกวัน เวลา 01:50 น. และถึงกรุงเทพฯ เวลา 11:30 น. ส่วนเที่ยวบินขากลับ EK385 จะออกเดินทางจากกรุงเทพฯ เวลา 03:25 น. และถึงดูไบเวลา 06:35 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) ตั้งแต่ 2 กันยายนเป็นต้นไป
โดยได้ระบุว่าผู้โดยสาร สามารถจองเที่ยวบินผ่านทางเว็บไซต์ หรือผ่านตัวแทนการท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในกรุงเทพฯ จะต้องปฏิบัติตามมาตรการที่รัฐบาลไทยกำหนด ส่วนผู้โดยสารแวะพักที่เมืองดูไบ และผู้โดยสารเดินทางเข้าดูไบ ต้องมีผลการตรวจ COVID-19 ด้วยวิธี PCR Test เท่านั้น ทั้งนี้ สายการบินเอมิเตส์ยังได้เพิ่มความยืดหยุ่นในการจองโดยลูกค้าที่ซื้อบัตรโดยสารของสายการบินเอมิเรตส์ภายในวันที่ 30 กันยายน 2563 และเดินทางก่อนหรือภายในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2563 สามารถเปลี่ยนแปลงวันเดินทางได้ ถ้าแผนการเดินทางเปลี่ยนไปจากเดิม เนื่องจากสถานการณ์ของโควิด-19 และมีมาตรการช่วยเหลือค่าใช้จ่ายให้แก่ผู้โดยสาร หากตรวจพบเชื้อโควิด-19 ในระหว่างการเดินทาง โดยมีผลใช้ทันทีสำหรับผู้โดยสารที่เดินทางตั้งแต่วันนี้ถึง 31 ตุลาคม 2563 (เที่ยวบินที่เดินทางจะต้องสิ้นสุดหรือเริ่มบินเที่ยวแรกก่อนวันที่ 31 ตุลาคม 2563) และครอบคลุมทั้งสิ้น 31 วันนับตั้งแต่วันที่ออกเดินทางออกนอกประเทศ
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบกับกรมการบินพลเรือนพบว่า เงื่อนไขในการอนุญาตให้อากาศยานทำการบินเข้าออกประเทศไทย (ฉบับที่ 3) ได้มีประกาศเพิ่มเติมจากฉบับที่ 2 โดยให้รายละเอียดเกี่ยวกับการเดินทางเข้าออกประเทศไทยไว้ว่าการเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรของบุคคลประเภทใดประเภทหนึ่งดังต่อไปนี้ สามารถกระทำได้ โดยต้องเป็นไปตามเงื่อนไข เงื่อนเวลาและหลักเกณฑ์ของผู้มีอำนาจตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมือง กฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ กฎหมายว่าด้วยการเดินอากาศ และกฎหมายว่าด้วยการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อการป้องกันการระบาดของโรคและจัดระเบียบจำนวนบุคคลที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรให้สอดคล้องกับความสามารถของเจ้าหน้าที่ในการคัดกรองและการจัดสถานที่ไว้แยกกัก กักกัน หรือคุมไว้สังเกต
(1) ผู้มีสัญชาติไทย
(2) ผู้มีเหตุยกเว้นหรือเป็นกรณีที่นายกรัฐมนตรีหรือหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินกำหนด อนุญาต หรือเชิญให้เข้ามาในราชอาณาจักรได้ตามความจำเป็น โดยอาจกำหนดเงื่อนไขและเงื่อนเวลาก็ได้
(3) บุคคลในคณะทูต คณะกงสุล องค์การระหว่างประเทศ หรือผู้แทนรัฐบาลหรือหน่วยงานของรัฐต่างประเทศซึ่งมาปฏิบัติงานในประเทศไทย หรือบุคคลในหน่วยงานระหว่างประเทศอื่นตามที่กระทรวงการต่างประเทศอนุญาตตามความจำเป็น ตลอดจนคู่สมรส บิดามารดา หรือบุตรของบุคคลดังกล่าว
(4) ผู้ขนส่งสินค้าตามความจำเป็น แต่เมื่อเสร็จภารกิจแล้วให้กลับออกไปโดยเร็ว
(5) ผู้ควบคุมยานพาหนะหรือเจ้าหน้าที่ประจำยานพาหนะซึ่งจำเป็นต้องเดินทางเข้ามาตามภารกิจและมีกำหนดเวลาเดินทางออกนอกราชอาณาจักรชัดเจน
(6) ผู้ไม่มีสัญชาติไทยซึ่งเป็นคู่สมรส บิดามารดา หรือบุตรของผู้มีสัญชาติไทย
(7) คนต่างด้าวซึ่งมีใบสำคัญถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักร ตลอดจนคู่สมรสและบุตรของบุคคลดังกล่าว
(8) ผู้ไม่มีสัญชาติไทยซึ่งมีใบอนุญาตทำงานหรือได้รับอนุญาตให้เข้ามาทำงานในราชอาณาจักรตามกฎหมาย ตลอดจนคู่สมรสและบุตรของบุคคลดังกล่าว หรือแรงงานต่างด้าวที่นายจ้างหรือผู้รับอนุญาตให้นำคนต่างด้าวเข้ามาทำงานในราชอาณาจักรได้รับอนุญาตจากทางราชการเพื่อผ่อนปรนให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวและให้ทำงาน
(9) ผู้ไม่มีสัญชาติไทยซึ่งเป็นนักเรียนหรือนักศึกษาของสถานศึกษาในประเทศไทยที่ทางการไทยรับรอง ตลอดจนบิดามารดาหรือผู้ปกครองของบุคคลดังกล่าว ยกเว้นนักเรียนหรือนักศึกษาของโรงเรียนนอกระบบตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชนหรือสถานศึกษาอื่นของเอกชนซึ่งมีสถานะคล้ายกัน
(10) ผู้ไม่มีสัญชาติไทยซึ่งมีความจำเป็นต้องเข้ามารับการตรวจรักษาพยาบาลในประเทศไทย และผู้ติดตามของบุคคลดังกล่าว แต่ต้องไม่เป็นกรณีเข้ามาเพื่อการรักษาพยาบาลโรคโควิด – 19
(11) ผู้ไม่มีสัญชาติไทยซึ่งได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรตามข้อตกลงพิเศษ (special arrangement) ระหว่างหน่วยงานของรัฐของประเทศไทยกับต่างประเทศ หรือบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่ได้รับอนุญาตจากนายกรัฐมนตรีตามข้อเสนอแนะและการตรวจสอบกลั่นกรองของคณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด – 19) โดยต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคตามที่คณะกรรมการเฉพาะกิจดังกล่าวกำหนด
ทั้งนี้ บุคคลผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรตามข้อ 3 จะต้องอยู่ภายใต้การควบคุมของพนักงานเจ้าหน้าที่หรือเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อและจะต้องปฏิบัติตามเงื่อนไข เงื่อนเวลา หลักเกณฑ์และมาตรการป้องกันโรคสำหรับผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร ตามที่กำหนดไว้ในข้อ 2 แห่งข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 12) ประกาศ ณ วันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2563 และมาตรการป้องกันโรคสำหรับผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 แนบท้ายคำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด – 19) ที่ 8/2563 เรื่อง แนวปฏิบัติตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 7) สั่ง ณ วันที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2563
Send this to a friend
การแจ้งเตือน