เปิดใจ ‘พระมหาไพรวัลย์’ ยัน สึกแน่นอน หากพระราชปัญญาสุธีไม่ได้เป็นเจ้าอาวาส

เปิดใจ “พระมหาไพรวัลย์” ยันขอประท้วงความไม่เป็นธรรมในวงการสงฆ์ ขอลาสิกขาแน่นอน หาก “พระราชปัญญาสุธี” ไม่ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาส เชื่อมาจากปัญหาของ 2 พส.จึงขออารยะขัดขืน 

“มันเป็นอารยะขัดขืน เป็นเรื่องของความกล้าหาญที่เราต้องมี ไม่ทนแล้วครับ ทนกับความไม่เป็นธรรมแบบนี้ ถ้ามีความเป็นธรรมให้เราเห็นบ้างเราอยากอยู่ในทางพระศาสตร์ ก็อยากอยู่ แต่นี่ไม่มีเลย”

พระมหาไพรวัลย์ วรรณโณ ย้ำถึงเหตุผลที่จะขอสละสมณเพศ หาก พระราชปัญญาสุธี รักษาการณ์เจ้าอาวาส ไม่ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดสร้อยทอง ถือเป็นการตัดสินใจของตัวเอง ไม่ได้ถูกบีบ ถูกบังคับ จากใครทั้งสิ้น ถ้าถูกบีบคือจะสู้ แต่นี่เป็นการเลือกแล้ว ว่าเมื่อถึงจุดหนึ่งเราไม่สามารถทำอะไรได้เลยต่อความไม่เป็นธรรมที่เห็นอยู่ เรารู้สึกว่าถ้าเราไม่สามารถเอาอะไรมาเป็นความอริยะขัดขืนอย่างที่ทำได้ เหลืออยู่เพียงความเป็นพระลูกวัดและความเป็นพระนี่แหละ แสดงให้เห็นว่า ในเมื่อสังคม สังฆะ หาความเป็นธรรมไม่ได้เลย แม้แต่การแต่งตั้งเจ้าอาวาส ก็ขอออกจากวงจรความไม่เป็นธรรมนี่ดีกว่า ในเมื่อไม่ได้อยู่ด้วยธรรมแต่ใช้อำนาจเป็นธรรม แทนที่ใช้ธรรมเป็นใหญ่ก็ออกไปดีกว่า

“พระผู้ใหญ่ คนในแวดวงพระพุทธศาสนา น่าจะทราบข่าววงใน พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า รักษาการเจ้าอาวาส จะไม่ได้ขึ้นเป็น เจ้าอาวาสคนต่อไป แต่จะให้พระรูปอีกรูปหนึ่งมารั้งตำแหน่งแทน เหตุผล เพราะท่านเจ้าคุณอาจารย์ ไม่สามารถจัดการ อาตมาและพระมหาสมปอง ในการไลฟ์สดได้ เขาบีบเราไม่ได้ เขาไปบีบรักษาการเจ้าอาวาสแทน ประเด็นมีแค่นี้เอง จัดการเราไม่ได้ ก็ไปจัดการผู้ปกครองเรา”

พระมหาไพรวัลย์​ยอมรับว่า เป็นความรู้สึกเลึกๆ ว่าตนเองเป็นต้นเหตุนำเพศภัย ไปให้เจ้าคุณอาจารย์ ที่รักเสมือนพ่อ จึงอยากแสดงความรับผิดชอบ เพราะจะอยู่อย่างหน้าชื่นตาบานไม่ได้ จึงขอถวายผ้าไตรจีวร เป็นอาริยบูชา

พระมหาไพรวัลย์ เปิดเผย หากว่าการอยู่ในสังคมสังฆะ ที่มีมโนธรรมต่ำกว่า ฆราวาส ที่ยังมีสิทธิพูดเรียกร้อง ทำได้ แต่พระเราพูดอะไรไม่ได้เลย มันน่าเศร้า 

“ถ้าท่านรักษาการเจ้าอาวาสได้ขึ้นเป็นเจ้าอาวาส อาตมา อาจจะทบทวนนะ เพราะประเด็น อาตมาสึกประท้วงความไม่เป็นธรรม ประเด็นการตั้งเจ้าอาวาส โดยตรง มีต้นสายปลายเหตุมาจากเรื่องนี้ ปฏิเสธไม่ได้เป็นเรื่องทางการเมือง”

พระมหาไพรวัลย์ ยืนยันว่า ที่ผ่านมาพยายามปรับในสิ่งที่ถูกวิจารณ์ ทั้งที่คิดว่าไม่ได้ทำอะไรผิด แต่ก็ปรับปรุง ไม่พูดการเมือง ไม่พูดแล้ว แต่จะให้โอนอ่อนตามก็ไม่ได้ เพราะมนุษย์ไม่ใช่ทาส ไม่ใช่สัตว์เลี้ยง มีสมอง คิดเองได้ เมื่อความเป็นพระ การอยู่ภายใต้คณะสงฆ์ ให้เราไม่ได้ ก็ไปอยู่ข้างนอก

ส่วนเวลาที่จะลาสิกขา จะเกิดขึ้นเร็วช้า ขึ้นอยู่กับมติที่จะออกมาว่า เจ้าอาวาสวัดสร้อยทองจะเป็นใคร ถ้ามติออกช้าก็คิดเยอะ แต่ถ้าออกมา 1-2 วันนี้ ก็ได้ทำเลย ถ้ามีพระรูปอื่นมาเป็นเจ้าอาวาส ใช้เวลาไม่นานในการจัดการตัวเอง 

“เราไม่ได้ยึดติดว่าเป็นพระดัง มีชื่อเสียง แล้ว คนอยู่ในพระเป็นพระเถอะ ให้นศรัพทธก็ยาก แต่ทุกสิ่งเป็นถ้าเรามองว่าเป็นพระให้คนอื่นศรัทธา แต่ถ้าเราเป็นตัวของเรา จะดีเฉพาะตอนเป็นพระเหรอ สึกไปเป็นฆราวาสที่ดีไม่ได้เหรอ”

“อาตมาไม่ได้ยึดติดที่เป็นพระที่โด่งดังแล้ว กรณีที่ดีใจ คือได้กลับไปดูแลโยมแม่ด้วย ช่วงที่ท่านมีชีวิตอยู่ ตอนน้ำตาไหล ไม่ใช่อ่อนแอ น้ำตาเป็นสัญลักษณ์ของความรัก ความสุข เหมือนพระอานนท์ ร้องไห้ให้พระพุทธเจ้า ไม่ได้อ่อนแอ แต่พระอานนท์ มีความรักที่บริสุทธ์ ต่อพระพุทธเจ้า อาตมา มีความรักต่อแม่ อาตมาจากแม่มา 10 กว่า ปี แม่เรียกให้ไปกอดครั้งสุดท้าย ถ้าได้กลับไปกอดแม่อีกครั้งเป็นเรื่องที่น่ายินดี ไม่ใช่ความเศร้า”

พระมหาไพรวัลย์ เปิดเผยถึงแนวทางชีวิต ไม่ได้กังวลใดๆต่อการสละสมณเพศ ไปเป็น ฆราวาส เพราะเป็นคนที่เรียนรู้ พร้อมเปลี่ยนแปลง ง่ายๆ ไม่น่าเป็นปัญหา เพราะไม่ได้ยึดติดความเป็นพระ ที่ต้องยึกมือไหว้ศร้ทธา 

“การตัดสินใจครั้งนี้ต้องการความเป็นธรรม ขอให้ Save รักษาการเจ้าอาวาส อย่านิ่งเงียบ อาตมาขอไม่เงียบ”

พระมหาไพรวัลย์ ยืนยันว่า พระราชปัญญาสุธี มีความเหมาะสมควรเป็นเจ้าอาวสาวัดสร้อยทอง ท่านอยู่วัดนี้มานาน ท่านมีความเชี่ยวชาญ แตกฉันท์ภาษาบาลี สนองงานคณะสงฆ์ตลอด ความรู้ท่านเป็นที่ยอมรับ เป็นอดีตอาารย์ใหญ่โรงเรียนสอนบาลี ที่มีลูกศิษย์จำนวนมาก

“คำสอนล่าสุด คือความอ่อนน้อมถ่อมตนของท่าน ที่เป็นแบบอย่างของพระผู้ใหญ่ ท่านบอกว่า ใครจะเป็นเจ้าอาวาสก็ได้ เราไม่เป็นก็ได้ ขอให้ช่วยกันรักษาวัด ผมไม่ได้เป็นไม่เป็นไร ยังทำหน้าที่สวดมนต์ได้ สอนหนังสือได้ ผมทำหน้าที่ความเป็นพระต่อไป” พระมหาไพรวัลย์ กล่าวยกย่องพระราชปัญญาสุธี 

พระมหาไพรวัลย์ ทิ้งท้ายว่า “ถ้าอาตมาสึกขอให้เอ็นดูอาตมาด้วย ไม่ได้เป็นโยมกับพระ ก็นับถือกันในความเป็นเพื่อนมนุษย์ก็พอ”

พระมหาไพรวัลย์ ระบุว่า หากเป็นแค่มหาไพรวัลย์ ก็จะได้พูดปัญหาคณะสงฆ์ ได้มากขึ้น จะพูดให้ชัดขึ้น ยืนยันว่า จะรอประกาศมาเลย ไม่ตระบัดสัตย์ ถ้ารักษาการ ไม่ได้เป็นเจ้าอาวาส จะลาสิกขา แต่ถ้าได้เป็น จะทบทวนว่าสังคมสงฆ์ ยังมีความเป็นธรรม ก็อาจรักษาผ้าเหลืองไว้