นายกฯ ลุกขึ้นแจง อภิปรายยกแรก ยันรัฐบาลซื่อสัตย์
จำเป็นต้องซื้ออาวุธเพื่อความทันสมัย ปลอดภัยทหาร ยันสวดมนต์ทุกคืนไม่คิดทำผิด
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีชี้แจงภายหลังการอภิปราย ของ พลตำรวจเอกเสรีพิสุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ยืนยันว่า การจัดสรรงบประมาณ ปี 2565 กรณีที่กรรมาธิการปรับลดงบประมาณของส่วนราชการมาจัดสรรไว้ในงบกลางนั้น รัฐบาลจะนำไปใช้เพื่อแก้ปัญหาโควิด 19 ทั้งหมด ย้ำว่าการใช้จ่ายงบประมาณมีระบบตรวจสอบเพื่อความโปร่งใส เพราะไม่ต้องการให้เกิดปัญหาการทุจริต ส่วนงบประมาณกระทรวงกลาโหม มีการจัดสรรตามสัดส่วนงบประมาณแต่ละปี ซึ่งที่ผ่านมาจัดสรรลดลงมากอย่างต่อเนื่องไม่ได้จัดสรรสูงขึ้นอย่างที่มีการอภิปราย ส่วนที่มีการถามว่ามีทหารไว้ทำไม มีไว้ก็ไม่ได้รบ ตอนนี้ก็เห็นแล้วว่าทหาร หมุนเวียนมาช่วยเหลือสังคม ปัญหาต่างๆ โดยเฉพาะช่วยเหลือภัยพิภัย ปัญหาชายแดน ปัญหาแรงงาน สถานการณ์ภาคใต้ และปัญหาโควิด19 ไม่ได้มีทหารไว้แค่รบอย่างเดียว
ส่วนการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ย้ำว่าต้องจัดซื้อตามความจำเป็น และต้องทันสมัยเพื่อความปลอดภัยของทหารซึ่งเป็นลูกหลานของทุกคน และเป็นการจัดหาเพื่อทดแทนของเก่าที่หมดอายุ แม้จะมองว่าการรบวันนี้อาจยังไม่เกิดขึ้นแต่จะแน่ใจได้อย่างไร หากคิดว่าทหารไม่จำเป็นต้องมีวันหน้าก็ขอให้รับผิดชอบด้วย
ขณะที่ปัญหาหนี้สิ้น ยืนยันว่าเป็นหนี้ที่ส่งต่อมาหลายรัฐบาล และหลายส่วนใหญ่เป็นหนี้ที่เพิ่มมูลค่า เป็นหนี้สำหรับพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ส่วนหนี้ภาคประชาชน ยืนยันว่ารัฐบาลกำลังเดินหน้าแก้ไขให้ประชาชนหลาย 10 ล้านบัญชี เพื่อทำให้ประชาชนชำระหนี้ได้ ลดปัญหาหนี้เสีย แต่โครงการต่างๆที่ออกมาไม่ได้ไปหลอกล่อให้ประชาชนมารักให้ตนเองเพื่อหวังจะเป็นนายกรัฐมนตรีต่อนั้นเพราะจะอยู่ต่อหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับกระบวนการทางประชาธิปไตย แต่ประชานเปิดหูเปิดตากันมากแล้ว
ในตอนหนึ่ง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนเองสวดมนต์ทุกวัน จึงไม่คิดทำให้สิ่งที่ผิด และการชี้แจงครั้งนี้ เพราะเห็นว่า พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เป็นรุ่นพี่ ที่พูดทั้งหมดก็พูดจากหัวใจ ยืนยันว่ารัฐบาลทำหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์ ด้วยความเป็นห่วงเป็นใยประชาชน