POLITICS

‘ชลน่าน’ ย้ำชัด ‘ก้าวไกล – เพื่อไทย’ ต้องจับมือตั้งรัฐบาลให้ได้

‘ชลน่าน’ เตรียมประชุมหารายชื่อ คณะทำงานตามวาระ 7 วาระ เผย เป็นการทำงานในมิติทางการเมือง ไม่ก้าวล่วงรัฐบาลรักษาการ ส่วนประธานสภา เร่งส่งคณะเจรจาร่วมกันทั้งสองพรรค มองให้เป็นพรรคเดียวกัน หาคนที่เหมาะสม ตอบ ปม ‘วิษณุ’ หาก ‘พิธา’ โดนตัดสิทธิ์ กระทบ ส.ส. ให้ดูในรายละเอียด ย้ำชัด ‘ก้าวไกล – เพื่อไทย’ ต้องจับมือตั้งรัฐบาลให้ได้

วันนี้ (31 พ.ค. 66) ที่พรรคเพื่อไทย นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ระบุว่า วานนี้ (30 พ.ค. 66) ที่ได้มีการนัดประชุมพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลทั้ง 8 พรรคในการร่วมมือกันจัดตั้งรัฐบาลเพื่อฝ่ายเสรีประชาธิปไตยโดยมีพรรคก้าวไกลเป็นแกนนำ โดยบรรยากาศน่าจะดีขึ้น เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับพี่น้องประชาชนว่าเรามุ่งมั่นที่จะทำงานร่วมกันตามที่ได้รับมอบหมายจากพี่น้องประชาชน

นายแพทย์ชลน่าน ระบุว่า จากที่ได้กำหนดแนวทางการทำงาน สิ่งที่ชัดเจนที่สุดคือการใช้วาระงานเป็นตัวกำหนด หลังจากที่มีการทำ MOU ร่วมกัน 23 ข้อ และใน 23 ข้อจะเปลี่ยนมาเป็นวาระงานที่ชัดเจนซึ่งจะต้องมีผู้รับผิดชอบ จึงมีมติในการตั้งกรรมการประสานงานในระยะเปลี่ยนผ่านรัฐบาลขึ้นมา 1 คณะ นำโดยนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์หัวหน้าพรรคก้าวไกล และตัวแทนจาก 8 พรรคร่วมเป็นคณะกรรมการในการประสานงาน มีหน้าที่หลักคือการรวบรวมภารกิจหลักที่เกิดจากคณะทำงานตามภารกิจ และได้แต่งตั้งไปแล้ว 7 คณะ

“ส่วนคณะทำงานที่ตั้งขึ้นเบื้องต้นตั้งมาจากคณะตามภารกิจที่จำเป็นเร่งด่วน และสำคัญ มีเป้าหมายเพื่อจัดทำนโยบายร่วมกัน คณะทำงานจะนำมารวบรวม พร้อมเสนอนำสู่ที่ประชุมของพรรค และการประชุมร่วมกันทั้ง 8 พรรค เรื่องเมื่อวานนี้เป็นแค่เบื้องต้น ภารกิจหลักที่เป็นชุดข้อเสนอเชิงวิสัยทัศน์ของรัฐบาลใหม่ ถ้ามีวาระทางสังคมที่จะเสนอก็พร้อมเสนอเทียบกันไป แต่หากเป็นปัญหาเร่งด่วนก็มุ่งหวังว่าวิสัยทัศน์ที่เสนอเปรียบเทียบจะเป็นเสมือนเครื่องมือที่ส่งต่อไปให้รัฐบาลรักษาการขณะนี้ ได้เข้าไปดูแล จึงเป็นสิ่งที่เรากำหนดแนวทางการทำงานร่วมกันทั้งหมด” นายแพทย์ชลน่านกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่าหลังจากนี้ทางพรรคจะมีการเข้าไปพูดคุยกับหน่วยงานราชการเพื่อเตรียมพร้อมเลยหรือไม่ นายแพทย์ชลน่าน ระบุว่า ทางพรรคตระหนักตลอดเวลาว่าเราไม่มีหน้าที่ และอำนาจในการเป็นรัฐบาลขนาดนี้ เพราะยังอยู่ในขั้นตอนการเตรียมจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งจะต้องตั้งประธานสภาผู้แทนราษฎรเลือกนายกและคณะรัฐมนตรี ก่อนที่สุดท้ายต้องแถลงนโยบายต่อรัฐสภาจึงจะสามารถทำหน้าที่รัฐบาลได้ เราจะไม่ไปก้าวล่วงอะไรที่ไม่ชอบด้วยกฏหมายในช่วงระยะเปลี่ยนผ่าน และคณะกรรมการชุดเปลี่ยนผ่านจะทำหน้าที่ในกรอบความคิดเห็นของมิติทางการเมืองที่ไม่ใช่การก้าวล่วง

ผู้สื่อข่าวถามถึงตำแหน่งประธานสภาจะมีการเจรจาเพื่อให้ได้ข้อสรุปในช่วงใด นายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่า ทางคณะเจรจาได้มีการเริ่มงานตั้งแต่เมื่อวานนี้ (30 พ.ค. 66) แล้วมีการพูดคุยกันไปในส่วนหนึ่ง จากนั้นนำข้อสรุปมาเสนอพี่น้องสื่อมวลชน โดยเกิดจากการทำงานร่วมกันระหว่าง 2 พรรค คือ พรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยบนพื้นฐานว่าจะพิจารณาในตำแหน่งประธานสภาฯ ที่ไม่เกี่ยวกับตำแหน่งบริหาร เพราะเป็นฝ่ายนิติบัญญัติ ไม่เกี่ยวกับวาระงานโดยตรงแต่ลักษณะงานที่เราขับเคลื่อนอยู่จะเป็นเรื่องของเกี่ยวข้องงานในสภาค่อนข้างเยอะ ในการปรับโครงสร้างหรือแก้ไขปัญหาต้องดูที่บทกฎหมายด้วย จึงถือว่าเป็นส่วนหนึ่งตามวาระงาน และตำแหน่งประธานสภาเป็นตำแหน่งที่สังคมคาดหวังต้องไม่เป็นตำแหน่งที่ทำให้เกิดข้อขัดแย้งระหว่างทั้ง 2 พรรค จึงเจรจาในมิติเดียวกันว่าจะไม่ใช่โควตาของพรรคใดพรรคหนึ่ง แต่มานั่งพูดคุยกันเสมือนเป็นพรรคเดียวกัน และย้ำว่าการเจรจาตำแหน่งประธานสภาแยกกับคณะประสานงานคณะเปลี่ยนผ่าน

ผู้สื่อข่าวถามว่าตำแหน่งประธานสภามีการให้ความเห็นว่านายแพทย์ชลน่าน ก็เหมาะสม ทางพรรคมีการพูดคุยกันแล้วหรือไม่ นายแพทย์ชลน่าน ระบุว่า พรรคเพื่อไทยยังไม่มีการพูดคุยในเรื่องตำแหน่ง และเรื่องตัวบุคคลอาจเป็นการเสนอความเห็น ซึ่งไม่ใช่ข้อเสนอของพรรคเพราะยังไม่ได้พูดคุยกัน และประธานสภาต้องเป็นกลางอยู่แล้ว ในรัฐธรรมนูญระบุเอาไว้ชัดเจนว่าหากเป็นประธานสภาผู้แทนราษฎรต้องไม่มีตำแหน่งทางการเมืองในพรรคการเมือง

ส่วนวันนี้ทางพรรคเพื่อไทยจะกำหนดตัวบุคคลในการทำงานตามวาระที่ได้ประชุมกันไปเมื่อวานนี้หรือไม่ นายแพทย์ชลน่าน เผยว่า วันนี้จะพูดคุยเพื่อกำหนดตัวบุคคลในการตามงาน ตามวาระต่าง ๆ และมองว่าอาจไม่จำเป็นต้องประชุมร่วมกันกับพรรคร่วม เพียงแค่เสนอชื่อ และผ่านความเห็นของคณะทำงาน และพูดคุยผ่านออนไลน์

“กรรมการประสานงาน และคณะเปลี่ยนผ่านในการพูดคุยวันที่ 6 มิ.ย. 66 ส่วนรายชื่อชุดภารกิจแต่ละคณะยังไม่มีข้อสรุปว่ามีใครบ้างอย่างไร และกำลังพยายามรวบรวมรายชื่ออยู่ ส่วนการประชุมของคณะทำงานชุดเฉพาะกิจจะนัดหมายประชุมอย่างไรก็เป็นหน้าที่ในการนัดหมายของแต่ละกลุ่ม ทางกรรมการประสานงานและคณะทำงานระดับหัวหน้าพรรคจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยว และในวันที่ 7 มิ.ย. 66 จะเป็นการประชุมหัวหน้าพรรค”

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่ามีการแสดงความเห็นของนายวิษณุ เครืองามว่าหากนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ถูกศาลวินิจฉัยว่าขาดคุณสมบัติการเป็นส.ส. จะกระทบต่อการเลือกตั้งที่ผ่านมา และในเขตพื้นที่ได้ ส.ส. ของพรรคก้าวไกลอาจต้องมีการเลืองตั้งซ่อมนั้น นายแพทย์ชลน่าน ระบุว่า ประเด็นนี้มีการพูดคุยกันอยู่ว่ามีผลส่งผลถึงขนาดนั้นหรือไม่ กำลังมองถึงคุณสมบัติของหัวหน้าพรรคว่าไปลงนามรับรองผู้สมัครของพรรคมีคุณสมบัติครบหรือไม่อย่างไรซึ่งต้องดูในประเด็นนั้น และขึ้นอยู่กับศาลในการวินิจฉัย

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่าหากเกิดอะไรขึ้นกับนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ในส่วนของพรรคเพื่อไทยจะดำเนินงานกับพรรคก้าวไกลเหมือนเดิมหรือไม่ นายแพทย์ชลน่าน ยืนยันว่า เราจะมัด และรวมกันไปไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น จะต้องจับมือทำงานร่วมกันไป ส่วนรายละเอียดจะไปดูเป็นเรื่อง ๆ ไป

Related Posts

Send this to a friend