นายกฯ ยืนยันไทยมีงบจัดซื้อวัคซีน ยัน 7 มิ.ย มีวัคซีนพร้อมฉีด จ่อฟันเจ้าหน้าที่เอื้อนำเข้าแรงงานผิดกฎหมายไม่ใช่แค่สั่งย้าย
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และคณะ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมสถานที่บริการฉีดวัคซึนนอก รพ. “หน่วยความร่วมมือบริการฉีดวัคซึนโควิด-19 กรุงเทพมหานคร-หอการค้าไทย” ณ เซ็นทรัลเวิลด์ ไลฟ์ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เขตปทุมวัน โดยตั้งเป้าหมายในการให้บริการฉีดวัคซีน จำนวน 2,500-3,000 คนวัน ตั้งแต่เวลา 09.00-17.00 น.
โดยนายกรัฐมนตรี ได้พูดคุยกับบุคลากรและประชาชนที่ได้เข้ามาฉีดวัคซีน บอกทุกคนอย่าตื่นเต้น เพราะจะส่งผลต่อระบบความดัน ทั้งนี้ยืนยันว่าตนเองก็ฉีดแล้วไม่มีผลอะไร และขณะนี้วัคซีนก็ได้ฉีดให้กับประชาชนในหลายประเทศ พบว่ามีความปลอดภัย ทั้งนี้ ได้สอบถามกับคนที่ฉีดวัคซีน ยืนยันว่า มีเพียงอาการชาชั่วคราวเท่านั้น
นายกรัฐมนตรี ยังยืนยันด้วยว่า รัฐบาลพยายามเปิดช่องทางให้ประชาชนได้ลงทะเบียนจองฉีดวัคซีน ได้ทั่วถึงมากที่สุด เพราะนอกจากกลุ่มผู้อายุเกิน 60 ปี และกลุ่ม 7 โรคเสี่ยง ผ่านแอปพลิเคชั่นหมอพร้อมแล้ว รัฐบาลจะต้องเปิดให้กับกลุ่มที่ต้องได้รับวัคซีนเร่งด่วนด้วย เช่น ผู้ที่ต้องให้บริการประชาชน พร้อมทั้งขอให้มั่นใจว่า รัฐบาลเร่งจัดหาวัคซีนโควิด-19 เต็มที่ โดยจะมีวัคซีนเข้ามาในระบบอย่างต่อเนื่อง และมีเพียงพอกับประชาชนทุกคน นายกรัฐมนตรีได้ย้ำว่าไม่ว่าสถานการณ์เป็นอย่างไรสิ่งสำคัญคือทุกคนยังคงต้องปฏิบัติตามมาตรการของสาธารณสุข
และขอให้ทุกคนมั่นใจ ว่ารัฐบาลเตรียมงบประมาณไว้อย่างเพียงพอแน่นอน ด้านสาธารณสุขขออย่าดูเรื่องของตัวเลขงบกระทรวงเพราะมีทั้งเงินกู้ในส่วนของกระทรวงยืนยันงบประมาณด้านสาธารณสุขเพียงพอแน่นอนแต่ปัญหาติดอยู่ที่ว่าประเทศต้นทางจะขายวัคซีนได้หรือไม่ หากขายให้ประเทศจำนวนมากก็จะจัดหาได้มากตามไปด้วย พลเอกประยุทธ์ ยังยืนยันว่าวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า จะมาถึงประเทศไทยในเดือนมิถุนายน 64 อย่างแน่นอน ซึ่งมีอีกหนึ่งช่องทางคือการจัดซื้อผ่านของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์พร้อมย้ำว่ารัฐบาลได้กระจายวัคซีนทุกจังหวัดทั่วประเทศ ตามเปอร์เซ็นต์จำนวนประชากร
ทั้งนี้ จะมีการเชื่อมโยงกับระบบหมอพร้อมทั้งหมดเพื่อติดตามการฉีดวัคซีนเข็ม 1 และเข็ม 2 เชื่อว่าจะสามารถดำเนินการได้ตามแผนหากมีปัญหาก็ต้องแก้ไขกันต่อไป ขณะเดียวกันนายกรัฐมนตรีระบุว่าแม้จะมีเงินก็ไม่สามารถจัดซื้อวัคซีนเป็นจำนวนมากได้ แต่เป็นความโชคดีที่ประเทศได้จัดหาวัคซีน วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า ไว้
พลเอกประยุทธ์ ระบุต่อว่าปัจจุบันทั่วโลกมีความต้องการวัคซีนจำนวนมาก แม้ว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อในประเทศจะอยู่ที่หลัก 3,000 – 4,000 คน ทุกวันแต่จะต้องนำมาอยู่ในระบบให้ได้เร่งดำเนินการคัดกรองทั้งนี้ต้องยอมรับว่าเมื่อมีการคัดกรองเชิงรุกจะมีตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นซึ่งวันนี้ประเทศไทยยังมีขีดคสามสามารถในการรองรับเช่ยเดียวกับยังสามารถควบคุมสถานการณ์ในราชทัณฑ์แม้จะมีตัวเลขเพิ่มขึ้นด้วยแต่สิ่งที่เป็นกังวลขณะนี้คือการติดเชื้อในแรงงานทั่วทั้งกรุงเทพมหานครซึ่งอาศัยในแคมป์คนงานที่มีความแออัด
ส่วนการเดินทางเข้าออกพื้นที่ชายแดนหากทุกคนทำตามกฎหมายก็จะไม่มีปัญหาเว้นแต่มีการลักลอบเข้าเมืองโดนผิดกฎหมายโดยได้กำชับไปแล้วว่าหากเจ้าหน้าที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องจะไม่ใช่แค่การสั่งย้ายเท่านั้น
นายกรัฐมนตรี ยังระบุถึงกรณีที่ บริษัทสยามไบโอไซเอนซ์ ส่งตรวจคุณภาพซึ่งแต่เดิมต้องใช้เวลา 7 วันแต่ขณะนี้ได้เร่งรัดไปแล้วยืนยันมีวัคซีนเพียงพอแน่นอนขออย่ากลัว และในเดือนมิถุนายนนี้จะมีวัคซีนหลายยี่ห้อ พร้อมกับพูดหยอกหมอว่า ‘หลายยี่ห้อหมอปวดหัวแต่นายกไม่ปวดหัว’ ขอให้ฟังตนและยืนยันว่าจะฉีดวัคซีนให้กับประชาชนเว้นแต่จะมีอะไรเกิดขึ้นและต้องดูสถานการณ์ทั่วประเทศด้วยยืนยันนายกไม่ได้ทำธุรกิจ เป็นหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีและรัฐบาล