‘ชาติพัฒนากล้า’ ไม่หวั่นศาลปกครองตัดสินปม กกต.แบ่งเขตเลือกตั้ง 7 เม.ย.นี้
‘ชาติพัฒนากล้า’ ไม่หวั่นศาลปกครองตัดสินปม กกต.แบ่งเขตเลือกตั้ง 7 เม.ย.นี้ หวังปักธงพื้นที่ กทม.
วันนี้ (31 มี.ค.66) นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวถึงความหวังปักธงในพื้นที่กรุงเทพมหานครว่า เราหวังให้เหมือนสมัย นางปวีณา หงสกุล อดีต ส.ส.กทม. พรรคชาติพัฒนา ส่วนจะหวังกี่ที่นั่ง เรามั่นใจในตัวผู้สมัคร เพราะเราเตรียมตัวกันมานาน
สำหรับการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครครั้งต่อไป จะเป็นอย่างไรบ้าง นายกรณ์ เปิดเผยว่าเราลงพื้นที่กันอย่างต่อเนื่องนานเป็นปี และมีการตื่นตัว และพร้อมที่จะลงสมัครอย่างเป็นทางการ ทุกคนมีภารกิจหน้าที่พบปะประชาชน เป้าหมายไม่ใช่เพียงแค่กรุงเทพมหานคร เราต้องการนำการเมืองไปแก้ปัญหาเศรษฐกิจ สร้างโอกาส และแก้ปัญหาปากท้องให้กับประชาชน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าพรรคชาติพัฒนากล้าได้เตรียมแผนสำรอง กรณีการแบ่งเขตเลือกตั้ง ซึ่งศาลปกครองจะมีการพิจารณาในวันที่ 7 เม.ย. 66 อย่างไร นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า ระบุว่า เป็นเรื่องของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) หากศาลมีคำวินิจฉัย ไม่ใช่เรื่องของพรรคชาติพัฒนากล้า
สำหรับกลยุทธ์การหาเสียง กรณีมีการเปลี่ยนเขตผู้สมัคร พรรคชาติพัฒนากล้าเปิดตัวผู้สมัครครบแล้วทั้ง 33 เขต ผ่านการทำไพรมารีโหวตเรียบร้อย ไม่มีผลกระทบอะไร ถ้ามีคำวินิจฉัยที่มีความจำเป็นจะต้องปรับรูปแบบ ในส่วนของพรรคไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
อีกทั้ง กกต.ทราบอยู่แล้ว การเลือกตั้งครั้งนี้ใช้บัตร 2 ใบ พรรคได้ปรับรูปแบบการประชาสัมพันธ์ในสื่อต่าง ๆ ให้สอดคล้องกับกติกาและเข้าใจง่าย ไม่ให้เกิดความสับสน กกต.มีหน้าที่ประชาสัมพันธ์ภาพใหญ่ รอวันที่ 3 เม.ย.66 ว่าผู้สมัคร ส.ส.จะได้เบอร์ใด วันที่ 4 เม.ย.66 พรรคจะได้เบอร์ใด ทุกอย่างไม่น่ามีประเด็น ส่วนการเปิดตัว ส.ส.บัญชีรายชื่อ และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี สองวันนี้ก็คงจะเรียบร้อย
“ผมยังบอกไม่ได้ว่าใครจะเป็นแคนดิเดตนายกฯ ต้องดูการหารือจากกรรมการบริหารพรรค เราก็ทำตามกติกา เสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯ ไม่เกินสามคน”
นายสุวัจน์ ย้ำว่าเรามั่นใจหัวหน้าพรรคและรองหัวหน้าพรรค คัดเลือกผู้สมัครที่มีคุณภาพเหมาะสม และนโยบายของพรรคเกี่ยวข้องกับคนกรุงเทพมหานคร ตอบโจทย์โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจ การลงทุน การท่องเที่ยว และสิ่งแวดล้อม
นายกรณ์ กล่าวถึง 33 ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. ที่เปิดตัววันนี้ว่า เป็นการรวมตัวของคนรุ่นใหม่ที่มีประสบการณ์ และประสบความสำเร็จในอาชีพที่หลากหลาย ความตั้งใจของพวกเราทุกคนอยากให้การเมืองดีขึ้น สร้างการเมืองที่เปลี่ยนแปลงโดยอาศัยเลือดใหม่ ที่นำเสนอความคิดและวิธีการใหม่ ๆ พรรคตั้งเป้าไว้แต่แรกว่า เราจะเป็นพื้นที่รวมของนักการเมืองที่มีประสบการณ์ และนักการเมืองทุกรุ่นที่มีประสบการณ์ในด้านอื่นมาช่วยเหลือสังคม
