POLITICS

ป.ป.ช. โยน กกต.สอบ หาเสียง ‘ดิจิทัลวอลเล็ต’ ตรงปกหรือไม่

ป.ป.ช.โยน กกต.สอบ หาเสียง ‘ดิจิทัลวอลเล็ต’ ตรงปกหรือไม่ ยัน ไม่มีอำนาจยับยั้งโครงการ ทำได้เพียงเสนอแนะ

วันนี้ (7 ก.พ.67) นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช.แถลงข่าวถึงข้อเสนอแนะต่อ นโยบายการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ตของรัฐบาล โดยชี้แจงกรณีโครงการนี้เข้าข่ายสัญญาว่าจะให้หรือไม่ว่า ต้องดูว่ากรณีนี้ดำเนินนโยบายตามที่ได้หาเสียงไว้หรือไม่ เพราะเหมือนเป็นการให้คำมั่นกับภาคประชาชน จะดำเนินโครงการด้วยวิธีใด จำนวนเงินเท่าไร ให้กับใครบ้าง ไม่เช่นนั้นจะเป็นการให้คำมั่นไว้อีกอย่าง และปฏิบัติอีกอย่าง อยากให้ก่อนการหาเสียงทุกพรรคการเมืองวิเคราะห์พิจารณาศึกษาให้รอบคอบ ก่อนวางนโยบายหาเสียง เมื่อเข้าสู่การบริหารประเทศแล้วขับเคลื่อน อาจจะไม่ประสบความสำเร็จตามที่ได้หาเสียงไว้ ก็เป็นเหมือนการโฆษณาไว้ แต่เมื่อซื้อจริง ทำจริง กลับไม่ตรงตามที่โฆษณา

ทั้งนี้ ป.ป.ช.จะส่งข้อเสนอแนะนี้ให้ กกต.พิจารณาด้วย เพราะเป็นอำนาจหน้าที่ขององค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ ที่ต้องประสานความร่วมมือกัน สิ่งใดที่เห็นว่าเป็นหน้าที่ของอีกองค์กร ก็ต้องส่งไปให้อีกองค์กรพิจารณา เพียงแต่ไม่ได้มีสภาพบังคับ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของ กกต.ว่าจะพิจารณาตามหน้าที่และอำนาจอย่างไรต่อไป

โดยก่อนหน้านี้ กกต.เคยพิจารณาโครงการดิจิทัลวอลเล็ตไปในช่วงเลือกตั้ง มีความเห็นว่าไม่เข้าข่ายการสัญญาว่าจะให้ ถือเป็นดุลยพินิจของ กกต. เราไม่ก้าวล่วง วันนี้ ป.ป.ช.พิจารณาจากนโยบายของรัฐบาล ซึ่งยังไม่ได้มีการขับเคลื่อน จึงมีข้อเสนอแนะที่เป็นรูปธรรมเพียงเท่านี้ โดยยังไม่ได้ไปมองต่อว่าเมื่อขับเคลื่อนแล้วจะส่อทุจริตหรือไม่

ส่วนความจำเป็นที่รัฐบาลจะต้องรับฟังความเห็นจาก ป.ป.ช.โดยละเอียด นายนิวัติไชย กล่าวว่าเดาแนวพิจารณาของคณะรัฐมนตรีไม่ออก เพราะเป็นอำนาจหน้าที่ของเขา ป.ป.ช.มีหน้าที่เสนอแนะ การดำเนินโครงการต่อไปเมื่อมีปัญหา ป.ป.ช.มีหน้าที่เฝ้าระวังกรณีอาจมีการทุจริต เราทำงานในเชิงป้อง ทำงานในเชิงรุกไม่ใช่ตั้งรับอย่างเดียว ทั้งนี้หากรัฐบาลไม่ดำเนินการตาม 8 ข้อเสนอแนะ หากรัฐบาลมีเหตุผล และการดำเนินโครงการไม่มีการทุจริต ไม่ได้เอื้อกับเอกชนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง สามารถชี้แจงต่อสื่อมวลชน และสาธารณชนได้

ส่วนความจำเป็นของโครงการดิจิทัลวอลเล็ตในมุมมองของ ป.ป.ช.นั้น รัฐบาลกับ ป.ป.ช.มองต่างมุม ป.ป.ช.มองว่ายังไม่เข้าขั้น แต่รัฐบาลมีมุมมองและเหตุผลสนับสนุนว่าวันนี้เศรษฐกิจไทยวิกฤต ซึ่งสามารถดำเนินการขับเคลื่อนได้ เพียงแต่ต้องทำประชาพิจารณ์เพื่อรับฟังความเห็นรอบด้าน อย่างไรก็ตามยังไม่ได้สามารถตอบได้ว่าหากรัฐบาลเดินหน้าโครงการจะเข้าข่ายการทุจริตเชิงนโยบาย หรือเอื้อนายทุนหรือไม่ เพราะต้องดูว่ารัฐบาลจะเดินหน้าโครงการอย่างไร

นอกจากนี้ตามข้อเสนอแนะของ ป.ป.ช.ข้อที่ 8 ที่ระบุว่าควรแจกเงินให้กลุ่มยากจน เปราะบางเท่านั้น โดยใช้งบประมาณปกติ และจ่ายเป็นงวดผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตัง จะคล้ายกับนโยบายของรัฐบาลชุดก่อนหรือไม่ นายนิวัติไชย ชี้แจงว่ากลุ่มคนที่รัฐบาลให้ความช่วยเหลือนั้นมีมุมมองต่างกัน รัฐบาลชุดนี้อาจคิดว่าต้องเพิ่มกลุ่มอื่น ๆ นอกจากกลุ่มเปราะบาง เพื่อให้เกิดเงินหมุนเวียนในระบบ เรื่องนี้รัฐบาลมีหน้าที่ต้องตอบคำถามว่าทำไม ถ้าชี้แจงได้มีเหตุผล รัฐบาลก็จะสามารถขับเคลื่อนโครงการต่อไปได้

หากให้ดิจิทัลวอลเล็ตแค่กลุ่มเปราะบาง จะถือว่าขัดกับนโยบายหาเสียงและ กกต.จะมาเช็กบิลหรือไม่ นายนิวัติไชย กล่าวว่าทุกอย่างต้องมีเหตุผล ข้อเท็จจริง และตอบสังคมได้ ตอนนี้ข้อกังวลส่วนตัวคือเกรงว่าจะต้องเป็นลูกหนี้ร่วม พร้อมย้ำว่า ปปช.ไม่มีอำนาจระงับ หรือยับยั้งโครงการ เว้นแต่กรณีมีความผิดเกิดขึ้น ปปช.อาจร้องต่อศาลให้ยกเลิกการอนุมัติ และอนุญาตต่อไป

Related Posts

Send this to a friend