‘โรม’ เตรียมชง กมธ.กฎหมายเชิญประธานศาลฎีกาชี้แจง บอก โซเชียลวิจารณ์มีใบสั่งไม่ให้ประกันตัวแกนนำราษฎร

นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.พรรคก้าวไกล ในฐานะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน แถลงว่าตนเองเตรียมเสนอประเด็นความเป็นอิสระของศาลเข้าสู่การพิจารณาของ คณะกรรมาธิการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชนในวันพรุ่งนี้ (1 เม.ย. 64) หลังในโลกออนไลน์ มีการพูดถึงกรณีที่ระบุว่าประธานศาลฎีกาถูกตั้งคำถามในที่ประชุมใหญ่ของผู้พิพากษาศาลฎีกาว่าเหตุใดถึงไม่อนุญาตให้มีการประกันตัวกับแกนนำของกลุ่มราษฎรที่ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำทั้งที่ไม่มีพฤติการณ์หลบหนีหรือเข้าไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน และยังมีการพูดถึงอีกว่ามีบุคคลภายนอกสั่งการมาอีกที

แม้จะมีการแถลงข่าวโดยโฆษกของศาลว่าไม่เป็นความจริง แต่การชี้แจงยังไม่มีความชัดเจน ดังนั้นเพื่อให้เกิดความกระจ่าง และเป็นโอกาสอันดีหากศาลสามารถชี้แจงให้สิ้นข้อสงสัย จึงเสนอเรื่องนี้เข้าสู่กรรมาธิการ ซึ่งจากการหารือในคณะกรรมาธิการก็ไม่มีใครเห็นแย้งเพราะมองว่ากรรมาธิการมีอำนาจหน้าที่สามารถตรวจสอบได้ ซึ่งหากวันพรุ่งนี้ (1 เม.ย.) กรรมาธิการรับเรื่องนี้ไว้พิจารณาก็จะทำหนังสืออย่างเป็นทางการเชิญประธานศาลฎีกา หรือตัวแทนของศาลมาให้ความเห็นและชี้แจงต่อไป

นายรังสิมันต์กล่าวว่า สาเหตุที่เสนอเรื่องนี้เข้าสู่กรรมาธิการ ทั้งที่เรื่องนี้เป็นการพูดคุยกันในโลกออนไลน์ แต่เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่เป็นการตั้งคำถามถึงต่อความเป็นอิสระของศาล หากประชาชนไม่เชื่อถือความเป็นอิสระของศาลความไม่ยุติธรรมก็ไม่อาจเกิดขึ้นได้ จึงต้องหาข้อเท็จจริงว่าเกิดอะไรขึ้น และหวังว่าเรื่องดังกล่าวจะเป็นเพียงข่าวลือในโลกออนไลน์

เมื่อถามย้ำว่า ศาลจะมาชี้แจงหรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ส่วนตัวไม่ทราบ แต่เห็นว่าเป็นช่องทางหนึ่งที่หากศาลชี้แจงได้ดีก็จะเป็นเกราะป้องกัน แต่หากอธิบายไม่ดีประชาชนก็จะยิ่งเข้าใจผิด โดยการทำหน้าที่ของเราไม่ได้หมายความว่าเราใหญ่กว่าศาล หรือศาลใหญ่กว่าเรา ไม่ใช่ว่าศาลศักดิ์สิทธิ์ จนไม่สามารถลงมาพูดคุยกับกรรมาธิการได้ ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย อำนาจของเราตามรัฐธรรมนูญมี สามารถเรียกเขามาได้ แต่แน่นอนว่าเราไม่สามารถสั่งให้เขามาได้

นอกจากนี้ นายรังสิมันต์ ยังกล่าวถึงกรณีที่เดินทางไปเรือนจำเพื่อตรวจสอบความเป็นอยู่ของแกนนำกลุ่มราษฎร ว่า ได้ไปเจอ ไผ่ ดาวดิน เพียงคนเดียว เบื้องต้นสอบถามความเป็นอยู่ โดยภาพรวมซึ่งพบว่าการดูแลของราชทัณฑ์เป็นไปตามมาตรฐาน ตามที่ปฏิบัติกับทุกคนในลักษณะเดียวกันต่างกันตรงที่จะพาไปตรวจโควิด-19 ในช่วงค่ำ ซึ่งเรื่องนี้ทางกรมราชทัณฑ์บอกว่าจะไม่มีแล้ว เพราะศาลมีคำวินิจฉัยว่าอาจเป็นการละเมิดสิทธิซึ่งเรือนจำจะปรับปรุงต่อไป ส่วนนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข ได้เห็นห่างๆ คุยทางคอนเฟอเร้นท์ 1 นาที ก่อนไฟดับ

โดยนายรังสิมันต์ ยอมรับว่า กรมราชทัณฑ์กังวลเรื่องสุขภาพร่างกายของนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวินที่อ่อนแอ แต่ก็พยายามดูแลอย่างดี ทั้งนี้ส่วนตัวอยากฝากบอกทุกคนว่าไม่มีความจำเป็นที่จะต้องไปกักขังกลุ่มคนเหล่านี้ ศาลสามารถให้ประกันตัวได้เพราะการปล่อยตัวไม่ได้หลายความว่าคนเหล่านี้จะพ้นผิดจากคดี ข้อกล่าวหากระบวนการพิจารณายังสามารถเดินหน้าต่อไปได้ และที่ผ่านมาคนที่ถูกคดีทางการเมืองน้อยคนที่จะหลบหนี หรือลี้ภัย

ทั้งนี้ เกรงว่าหากมีการกักขังแกนนำเหล่านี้ต่อไปอีก สุดท้ายเขาจะรับสารภาพ เราถามว่าความยุติธรรมที่ได้จากการสารภาพที่ไม่ได้สารภาพจากสิ่งที่เขารู้สึกว่าการกระทำของเขาผิดแต่มันเป็นเพราะกระบวนการบังคับให้เขารับสารภาพและยอมจำนน มันเรียกว่าความยุติธรรมหรือครับ

ดังนั้นยืนยันว่าควรที่จะให้เขาออกมามีสิทธิต่อสู้คดี พร้อมเน้นย้ำกับรองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ว่า เวลาที่พาตัวไปเจอทนายความที่ศาล เวลาปรึกษาทนายความเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ไม่จำเป็นต้องมาอยู่ใกล้ๆ เพียงแค่อยู่ในระยะสายตาไม่จำเป็นต้องฟังในสิ่งที่สนทนา ซึ่งทางราชทัณฑ์รับปาก