‘มาริษ’ มอง ”4 ปี รัฐประหารเมียนมา“ หลายเรื่องยังเจรจาไม่คืบหน้า
เผย หลายประเทศชมไทย พยายามเปลี่ยนทัศนคติเป็นบวก รับ คุยอาเซียน หาทางช่วยเหลือ รพ.ผู้ลี้ภัย หลัง ‘ทรัมป์‘ ตัดงบ
วันนี้ (31 ม.ค. 68) นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงการดำเนินการของไทย ในวาระครบรอบ 4 ปีเหตุการณ์รัฐประหารในเมียนมา ว่า มีหลายขั้นตอน ไม่ใช่เฉพาะในทวิภาคี แต่อาเซียนเองก็ให้ความสำคัญ สิ่งที่กระทรวงการต่างประเทศทำมาโดยตลอด คือการพยายามเปลี่ยนทัศนคติความขัดแย้ง ให้กลายเป็นความร่วมมือ ตอนที่ตนเองไปลังกาวี ก็มีการพูดคุยกันว่า 4 ปีที่ผ่านมามีการขับเคลื่อนอะไรไปแล้วบ้าง แต่ก็ยังไม่ได้มีอะไรคืบหน้ามากนัก แต่หลายประเทศก็ชื่นชนประเทศไทย ในการพยายามเปลี่ยนทัศนคติความเห็นต่างให้เป็นความร่วมมือ ท้ายที่สุด เชื่อว่าผลประโยชน์ก็จะเกิดขึ้นกับประเทศไทยในเรื่องอาชกรรมข้ามชาติ ซึ่งเรื่องนี้ก็จะส่งผลถึงต่างประเทศ และจะได้รับความร่วมมือด้วยเช่นกัน
นายมาริษ กล่าวต่อว่า ขอให้ไทยได้มีการพูดคุยในกรอบอาเซียน อนุสัญญาลุ่มน้ำโขง ซึ่งเรื่องนี้นายกรัฐมนตรี ก็ให้ความสำคัญ โดยเฉพาะเรื่องการจัดการน้ำ แก้ปัญหาฝุ่นอีกด้วย
ส่วนการตัดงบของสหัฐฯ ที่ส่งผลต่อโรงพยาบาลผู้ลี้ภัยไทยจะมีการเจรจากับประเทศอาเซียนอื่นเพื่อหาเงินมาทดแทนอย่างไรนั้น นายมาริษ ระบุว่า ก่อนอื่นต้องช่วยเรื่องสาธารณสุข และการศึกษาให้สำเร็จก่อน จากนั้น จึงจะมองหาแหล่งความช่วยเหลือจากองค์กรระหว่างประเทศในเรื่องงบประมาณ ซึ่งจะทำให้หลายประเทศได้เห็นการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมของเรา ตามกรอบของ UN
