‘สีหศักดิ์’ เผยไทยจริงใจปฏิบัติตามข้อตกลง หวังหยุดยิงถาวร ขอ ‘กัมพูชา’ สร้างความไว้ใจก่อนฟื้นความสัมพันธ์ ยัน ‘จีน’ ไม่เข้าแทรกแซง
วันนี้ (30 ธ.ค. 68) นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ภายหลังการบรรยายสรุปคณะทูต เกี่ยวกับพัฒนาการล่าสุดสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ที่ห้องนราธิป กระทรวงการต่างประเทศว่า วันนี้ได้เชิญคณะทูตมาบรรยายสรุปเกี่ยวกับพัฒนาการล่าสุดสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ตั้งแต่การประชุมสมัยพิเศษของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอาเซียน เมื่อวันที่ 22 ธ.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งผลการประชุมเราพูดถึงการหยุดยิง ซึ่งท่าทีของไทยคงไม่ประกาศอย่างเดียว แต่จะต้องมีการหารือกันระหว่างฝ่ายทหารของทั้งสองประเทศ ซึ่งในที่ประชุมตกลงให้ทั้งสองฝ่ายได้เจอกัน หลังจากนั้นมีการประชุมคณะกรรมาธิการชายแดนทั่วไป (GBC) ในวันที่ 24-26 ธ.ค. 68 นำมาสู่ข้อตกลงหยุดยิง ภายในวันที่ 27 ธ.ค. 68 เวลา 12.00 น. ทั้งยังมีมาตรการลดความตึงเครียดบริเวณชายแดน และการเสริมสร้างกลไกสังเกตการณ์หยุดยิงผ่าน คณะผู้สังเกตการณ์อาเซียน (AOT)
ส่วนการประชุมสามฝ่ายระหว่างไทย กัมพูชา และจีน ณ สาธารณรัฐประชาชนจีน ฝ่ายจีนทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยความสะดวก การประชุมเป็นไปด้วยดี ตนเองได้เจอกับนายหวัง อี้ สมาชิกกรมการเมือง ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการกลางว่าด้วยกิจการต่างประเทศของพรรคคอมมิวนิสต์จีน และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของจีน ทั้งยังได้มีการพูดคุยกับนายปรัก สุคน รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของกัมพูชา เกี่ยวกับประเด็นสำคัญที่จะมีการเดินหน้าต่อหลังจากการหยุดยิง
ตลอดเวลาที่ผ่านมาจีนย้ำว่า จะไม่เข้ามาแทรกแซงระหว่างไทยกับกัมพูชา ซึ่งตรงกับท่าทีของไทย แต่ส่วนไหนที่จีนช่วยสนับสนุนได้ เขาก็ยินดี เป็นไปตามจังหวะเวลา ตามแต่ที่ไทยและกัมพูชาจะหารือกัน สำหรับไทยสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การหยุดยิงที่ยั่งยืน เนื่องจากสถานการณ์ยังเปราะบาง เรารบกันมาหลายวัน ดังนั้นจะต้องมีการหยุดยิงจริง ๆ ต้องมีการสร้างมาตรการและความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกันด้วย
เราต้องการเน้นให้การหยุดยิงยั่งยืนถาวรและมีมาตรการต่าง ๆ ส่วนจะเดินหน้าความสัมพันธ์ต่อไปอย่างไร เราทำไปทีละขั้นตอน คงจะต้องมีการเจอกันระหว่างตนเองกับรัฐมนตรีต่างประเทศกัมพูชาว่าเราจะเดินหน้าต่อไปอย่างไรบ้าง เช่น การมีเอกอัครราชทูตในแต่ละประเทศหรือการฟื้นฟูการติดต่อแลกเปลี่ยน แต่ขอให้ช่วงนี้ทำให้การหยุดยิงมีความเข้มแข็งสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกันทุกอย่างก็จะตามมาเอง
อย่างไรก็ตามสถานการณ์ขณะนี้ยังมีความเปราะบาง สถานการณ์ในพื้นที่อาจจะเกิดจากความไม่ตั้งใจ แต่ถ้าหากตั้งใจก็จะต้องมีการโต้ตอบ ดังนั้นจะต้องมีการพูดคุยติดต่อกันเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาระหว่างกัน ช่วงนี้เป็นช่วงที่สำคัญ ไทยมีความจริงใจและจริงจังที่จะปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิง












