ปลัดมหาดไทยขอโทษใช้ถ้อยคำรุนแรง หวังให้คนมหาดไทยทุ่มเททำงานอย่างจริงจัง
ปลัดมหาดไทยขอโทษใช้ถ้อยคำรุนแรง ไม่เหมาะสม ไม่มีเจตนาที่ดูหมิ่นสถาบันการศึกษา หวังเพียงต้องการให้คนในมหาดไทยทุ่มเททำงานอย่างจริงจัง เพื่อพี่น้องประชาชน
จากกรณีที่มีคลิป นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถ้อยคำไม่เหมาะสมต่อข้าราชการกลางห้องประชุม เผยแพร่ผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย นั้น วันนี้ (30 ธ.ค. 65) นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้โพสต์ชี้แจงถึงเหตุการณ์ดังกล่าว ผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจ Suttipong Juljarern โดยมีรายละเอียดดังนี้
เรียนพี่ๆน้องๆทุกท่านครับ
ผลจากการประชุมติดตามงานจังหวัดกรมและรัฐวิสาหกิจของผมประจำเดือนธันวาคม 2565 ผ่านระบบ VIDEO CONFERENCE ที่ผมและผู้บริหารส่วนกลาง ส่วนพี่ๆน้องๆอีก 76 จังหวัดอยู่ที่ห้องประชุมจังหวัด มีแต่เรื่องงานที่ผมในฐานะผู้นำหน่วยฝ่ายประจำให้ผู้บริหารส่วนกลาง คือ อธิบดีทุกกรม ผู้บริหารรัฐวิสาหกิจทุกหน่วยชี้แจงผลการดำเนินงาน และติดตามงาน มีประเด็นที่ถูกนำไปแชร์ กันมาก คือ เรื่องผมด่าผู้แทนขององค์การตลาด ด้วยคำหยาบคาย
ผมเองต้องยอมรับว่าพูดจริง และเป็นคำพูดที่ไม่เหมาะสม ต้องขอโทษทุกท่านด้วยครับ เพราะไม่พอใจที่นำเรื่องเก่าที่เคยนำเสนอมาหลายครั้งแล้ว และไม่มีการนำเสนอผลงานใหม่หรือ เรื่องที่ผมคาดหวังว่าจะก่อให้เกิดประโยชน์แก่พี่น้องประชาชน จึงทำให้ไม่ทันยั้งคิด และเกิดถ้อยคำรุนแรง ไม่เหมาะสม สำหรับเรื่องถ้อยคำขอน้อมรับด้วยความเสียใจและขอกราบเรียนยืนยันว่าไม่ได้มีเจตนาที่ดูหมิ่นสถาบันการศึกษาใดๆเลย ในฐานะที่ผมเองเป็นนักเรียนโรงเรียนวัด โรงเรียนต่างจังหวัดอยากให้ทุกคนช่วยกันพัฒนางาน ไม่ใช่เสนออะไรไม่รู้เรื่อง แต่ขอย้ำว่าตลอดระยะเวลาที่รับราชการมา มีเจตนาเพื่อประชาชน เพื่อความสุข ของพี่น้องประชาชนเป็นที่ตั้ง และเหตุการณ์ครั้งนี้จะใช้เป็นเครื่องเตือนใจ ให้ใจเย็น และคิดทบทวบให้รอบคอบยิ่งขึ้น
แต่ขอเรียนยืนยันว่าผมเคยแจ้งพี่ๆ น้องๆ ชาวมหาดไทย ทุกคนให้ทราบมาก่อนหน้านี้แล้วว่าผมเป็นคนพูดจาสไลต์ ลูกทุ่ง อาจมีการดุด่าลูกน้อง เพื่อเร่งรัดงานเพื่อพี่น้องประชาชน แต่ในชีวิตรับราชการมา 34 ปีเศษแล้วผมไม่เคยด่าพี่น้องประชาชน มีแต่ยิ้มแย้มแจ่มใสทำตัวเหมือนลูกหลานญาติมิตร เพราะผมตระหนักถึงฐานะข้าราชการผู้มีหน้าที่รับใช้ประชาชน ผมทำความเข้าใจกับทุกคนมาหลายครั้งแล้วว่านิสัยผมเป็นเช่นนี้ แต่น้ำใสใจจริงไม่ใช่ด่าลูกน้องเพราะเจ็บแค้นโกรธเคืองขอยืนยันครับกรณีของดังกล่าวมีการรายงานที่ประชุมถึงสิ่งที่จะทำ
แต่เป็นการนำเรื่องที่เคยนำมาแจ้งที่ประชุมแล้วหลายต่อหลายครั้ง (ประชุมเดือนละครั้ง) ผมก็ต่อว่าไปว่านำเรื่องที่เคยนำมานำเสนอ หลายครั้งแล้ว แถมยังไม่มีเรื่องความคืบหน้าของงานที่เป็นรูปธรรมใดๆ มาแจ้งเลย ก็คุยกันในที่ประชุมถามมาตอบไปตามสไตล์ของผมคนที่อยากให้ข้าราชการขับเคลื่อนงานให้เกิดประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน คนตอบๆ ไม่รู้เรื่อง
แน่นอนผมเป็นผู้นำที่อาจไม่ดีในสายตาของใครหลายคนได้ แต่รับรองไม่ได้มีเจตนาดูถูกเหยียดหยามใครๆ ผมมีจุดมุ่งหมายต้องการให้ทุกคนในมหาดไทยทุ่มเททำงานอย่างจริงจัง เพื่อพี่น้องประชาชน เพื่อประเทศชาติโดยรวม ไม่ใช่เรื่องส่วนตัว และยืนยันว่าเป็นการประชุมภายในของผมและเพื่อนร่วมงาน ผมในฐานะคนชนบท โดยกำเนิด อาจจะชิน กับการพูดเสียงดัง และบางครั้งอาจพูดจาดุ ผมต้องกราบขออภัยทุกท่านที่ใช้คำพูดไม่เหมาะสม เป็นบทเรียนที่ล้ำค่าที่ต้องนึกถึงคำเตือนของภรรยาผม นึกถึงผู้ใหญ่ที่เคยตักเตือนแนะนำในเรื่องนี้กับผมหลายต่อหลายครั้งว่าถึงเวลาแล้วที่ผมจะต้องเลิกการด่าลูกน้องด้วยคำพูดที่สังคมกำลังตำหนิผม แม้ว่าผมจะแก่แล้ว ใกล้เกษียณอายุราชการแล้ว
กราบขอบพระคุณ,ขอบคุณ ทุกท่านที่ตำหนิติเตียนผมด้วยความหวังดี ซึ่งรวมทั้งลูกสาวและภรรยาที่รักของผมด้วย ไม่ใช่เฉพาะคนภายนอกและขอเรียนยืนยันว่าผมมีความมุ่งมั่นเกินร้อยที่จะทำหน้าที่ของข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ดีเพื่อบำบัดทุกข์ บำรุงสุขให้กับพี่น้องประชาชน ให้หนักกว่าเดิมในปีใหม่2566 ที่จะถึงนี้เพราะเวลาของการเป็นข้าราชการที่จะได้ทำงานช่วยเหลือประเทศชาติประชาชนของผมเหลือน้อยมาก ใกล้ถึงเวลาเกษียณอายุราชการแล้ว
ขออภัยทุกท่านกับคำพูดที่แย่ๆของผมในการประชุมอีกครั้งหนึ่ง และขอถือโอกาสนี้อัญเชิญคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่ทุกท่านเคารพนับถือ ได้โปรดดลบันดาลประทานพรให้ทุกท่าน และครอบครัว ประสบสิ่งที่ดีงาม สุขภาพร่างกายแข็งแรง จิตใจร่าเริงแจ่มใส ทำการสิ่งใดในทางที่ชอบประกอบด้วยผลก็ขอให้สำเร็จและไม่จนไม่เจ็บ กันทุกคนทุกท่านด้วยเทอญ
ที่มา: เฟซบุ๊กแฟนเพจ Suttipong Juljarern