‘อนุดิษฐ์-ศิธา‘ ชมการสาธิตการใช้กำลังทางอากาศ เชื่อ คนไทยอุ่นใจในกองทัพอากาศได้
วันนี้ (30 พ.ย. 66) ที่สนามฝึกซ้อมยุทธวิธีทางอากาศ ชัยบาดาล จ.ลพบุรี น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ และ น.ต.ศิธา ทิวารี อดีตนักบินเครื่องบินรบ F-16 เข้าร่วมชมการสาธิตการใช้กำลังทางอากาศ ประจำปี 2567 ของกองทัพอากาศ ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี เพื่อฝึกซ้อมนักบินในการปฏิบัติการรบด้วยยุทธวิธีต่างๆ และภารกิจอื่นของกองทัพอากาศ เช่น การดับไฟป่า การตั้งโรงพยาบาลสนาม การค้นหาและช่วยเหลือ เป็นต้น โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางมาเป็นประธานในพิธีเปิดการแข่งขันการปฏิบัติการทางอากาศยุทธวิธี
น.ต.ศิธา กล่าวว่า วันนี้เป็นการโชว์ที่ครบวงจร เหมือนกับการปฏิบัติการทางอากาศจริง ทั้งการเข้ามากวาดเครื่องบินศัตรูให้ออกนอกบริเวณ การโจมตีการต่อต้านภาคพื้น จนถึงการใช้เครื่องบินติดระเบิดมาโจมตีศูนย์บัญชาการรบของข้าศึก การช่วยเหลือการบุกของกำลังภาคพื้น รวมถึงภารกิจอื่นของกองทัพการดับไฟป่า การช่วยเหลือประชาชน
“ค่านิยมของการขับเครื่องบินคือ ต้องการเครื่องบิใหม่ๆ นักบินเก่าๆ นักบินที่มีประสบการณ์ และเครื่องบินที่ใหม่ แต่ด้วยบ้านเรามีงบประมาณที่จำกัด การตรวจสอบมีการถ่วงดุล และเป็นประเทศที่ต้องพัฒนาด้านอื่นด้วย เราใช้งบประมาณในเรื่องอาวุธยุทโธปกรณ์กองทัพอย่างประหยัดที่สุด เพราะฉะนั้นเราอาจนำเครื่องบินซึ่งอาจจะดูเก่า แต่ยืนยันว่าคุณสมบัติทุกอย่างผ่านตามเกณฑ์มาตรฐานระดับโลกหมด สามารถใช้ได้ ส่วนนักบินก็มีหลักสูตรที่เป็นมาตรฐาน เรียนรู้จากต่างประเทศที่มาฝึกร่วมกับเรา ไม่แพ้คนชาติใด และสามารถทำงานให้กับประชาชนได้อยู่แล้ว” น.ต.ศิธา กล่าว
ด้าน น.อ.อนุดิษฐ์ มั่นใจว่า นักบินของกองทัพอากาศมีความรู้ความสามารถททำให้คนไทยอุ่นใจได้เลยว่า วันนี้ยังมีกองทัพอากาศ คุ้มครองน่านฟ้าฝีมือเยี่ยม เป็นแนวหน้าในกลุ่มประเทศอาเซียน และในวันนี้ก็เห็นว่ากองทัพ ไม่ได้จะใช้รถได้เพียงอย่างเดียวแต่สามารถนำอุปกรณ์ต่างๆมาปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือประชาชนได้ซึ่งถือว่ากระทรวงกลาโหม และทุกเหล่าทัพมีความสามารถด้านนี้ไม่น้อยกว่าองค์กรพลเรือนต่างๆ
ส่วนประเด็นเครื่องบินหลายลำใกล้ถึงเวลาหมดประจำการ จำเป็นต้องจัดสรรงบประมาณอย่างไร ในขณะที่สังคมมักจับตามองการใช้งบประมาณของกองทัพ น.ต.ศิธา กล่าวว่า “ประเทศคือบ้าน ทหารคือรั้ว“ บ้านที่มีรั้วสูงอยู่มา 20 ถึง 30 ปี ไม่มีภัยคุกคาม เราจะบอกว่ารั้วไม่มีประโยชน์แล้วทุบรั้วทิ้งไปหรือไม่ อาจจะแค่ 3-7 วัน มีโจรเข้ามาก็เป็นได้
เพราะฉะนั้นจำเป็นต้องทำ แต่จะทำแค่ไหนตนเชื่อว่าระบบการตรวจสอบของดุลของรัฐมีประสิทธิภาพ รัฐบาลต้องจัดสรรงบประมาณในแต่ละเหล่าทัพอย่างเหมาะสม เรามีคณะกรรมาธิการของรัฐสภาไว้ตรวจสอบ มีทั้ง สส. ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน เชื่อว่าทุกคนจะพูดคุยกันด้วยเหตุผล และต้องยอมรับว่าทุกประเทศจำเป็นต้องมีกำลังทหารในการปกป้อง เหมือนบ้านที่ต้องมีรั้ว เพราะฉะนั้น รั้วของเราไม่ใช่ว่าต้องไปสร้างรั้วสูง 10 เมตร เป็นเหล็ก ก็ไม่ใช่ เราต้องเอาแค่พอดีที่คนอื่นไม่กล้ามารุกรานเรา
