แม่น้ำตาคลอ รอพบลูกชายในรอบ 12 ปี ดีใจ ‘ปานปรีย์’ ใส่ใจบินไปรับตัวประกันกลับบ้าน
แม่น้ำตาคลอ รอพบลูกชายในรอบ 12 ปี ลั่นเป็นข่าวดีในรอบปี ดีใจ ‘ปานปรีย์’ ใส่ใจบินไปรับตัวประกันกลับบ้าน เว้าอีสาน “ขอให้ลูกชายกลับมา แม่ก็ดีใจแล้ว”
วันนี้ (30 พ.ย. 66) นางราตรี สามพันธ์ อายุ 57 ปี มารดาของนายบุดดี แสงบุญ อายุ 40 ปี แรงงานไทยที่ถูกจับกุมเป็นตัวประกันจากสถานการณ์ในอิสราเอล-กาซา ซึ่งได้รับการปล่อยตัวเป็นชุดแรกนั้น เดินทางมารอรับลูกชายกลับบ้านเกิดในอำเภอศรีสงคราม จังหวัดนครพนม ณ อาคารผู้โดยสาร ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พร้อมบิดา น้องสาว และลูกสาวของนายบุดดี
นางราตรี ให้สัมภาษณ์กับ The Reporters ถึงการรอคอยของครอบครัวว่า เป็นเวลากว่า 1 เดือน 18 วัน นับแต่วันที่ 7 ตุลาคม 2566 ที่ติดต่อนายบุดดีไม่ได้ ไม่อาจทราบได้เลยว่า ลูกชายเป็นตายร้ายดีอย่างไรบ้าง
จนกระทั่งเจ้าหน้าที่จากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ โทรศัพท์แจ้งข่าวดีเกี่ยวกับการปล่อยตัวลูกชาย นางราตรี ระบุว่า “ดีใจมาก ดีใจสุด ๆ เลย คุณแม่ถือโทรศัพท์วิ่งไปหาพี่สาว กอดกันร้องไห้เลย เป็นข่าวดีในรอบปีเลย ไม่คิดว่าลูกชายจะรอดมาไง ถึงขนาดว่า ไกลขนาดไหน แม่ก็ลงมารับด้วยตัวเอง“
นางราตรี เปิดเผยนาทีแรกที่ได้ติดต่อลูกชายว่า ได้โทรศัพท์กันเป็นระยะเวลาสั้น ๆ เพราะแพทย์เรียกแล้ว จึงบอกกันว่า ถึงบ้านค่อยคุยกัน แต่ก็ได้ทราบว่าลูกชายสบายดี มีแพทย์ดูแลตลอด 24 ชั่วโมง จึงรอจนถึงวันนี้ เดินทางออกจากบ้านในจังหวัดนครพนม มาถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
”รู้สึกดีใจที่ท่าน (นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ) ใส่ใจและบินไปรับแรงงานไทยที่อิสราเอล ดีใจสุด ๆ ท่านดีมาก ๆ ที่ช่วยเหลือคนไทยให้รอดกลับมาปลอดภัย คนเป็นแม่ดีใจมากที่ไม่เจอลูกชายมา 12 ปี ไม่เจอกันเลย“
“ไม่รู้จะพูดอะไร ก็กอดกันอย่างเดียว ร้องไห้อย่างเดียว หากเขากลับบ้านวันนี้ก็กลับวันนี้ ไม่รู้เจ้าหน้าที่ให้กลับหรือเปล่า เห็นลูกชายบอกแม่ ถ้ากลับถึงกรุงเทพฯ ต้องไปกรมแรงงานก่อน แล้วค่อยได้กลับ … ส่วนความช่วยเหลือก็ไม่รู้จะว่าอะไร แต่ลูกชายต้องมาก่อน ต้องถามลูกชาย แต่ขอว่าลูกชายกลับมาปลอดภัยแม่ก็ดีใจแล้ว” นางราตรี กล่าวเป็นภาษาอีสาน ถึงความรู้สึกก่อนจะได้พบลูกชายเป็นครั้งแรกในรอบ 12 ปี
