POLITICS

’ธนาธร’ ยืนยันบริสุทธิ์ใจ หลังอัยการสั่งฟ้องผิด ม.116 พร้อมสู้คดี

’ธนาธร’ ยืนยัน บริสุทธิ์ใจ หลังอัยการสั่งฟ้องผิดตาม ม.116 พร้อมสู้คดีในชั้นศาล เชื่อ ผู้มีอำนาจต้องการยับยั้งการทำงาน ขอ ประชาชน เชื่อมั่น

วันนี้ (30 พ.ย. 65) นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน หลังเข้าอภิปรายเสนอหลักการและเหตุผลของร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม หมวด 14 หรือร่างฯ ปลดล็อกท้องถิ่น

นายธนาธร ระบุว่า ขณะนี้ได้อภิปรายร่างฯ ปลดล็อกท้องถิ่นให้ท่านประธาน สมาชิกรัฐสภาเป็นที่เรียบร้อย และหวังว่าพ่อแม่พี่น้องประชาชนจะเห็นถึงความหวังดีที่มีต่อประเทศในการเสนอร่างฯ นี้

ในกรณีที่สำนักงานอัยการสูงสุดมีคำสั่งฟ้องนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ในคดีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 และมีคำสั่งชี้ขาดไม่สั่งฟ้องนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และคณะ ในคดีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร พ.ศ.2561 มาตรา 151 ประกอบมาตรา 42(3) นายธนาธร ระบุว่า เมื่อสักครู่อัยการไม่สั่งฟ้องเรื่องถือหุ้นสื่อ ซึ่งตนเองก็บริสุทธิ์ใจ ขอบคุณที่ให้ความเป็นธรรมกับผม ส่วนที่มีคำสั่งฟ้องในคดีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาม. 116 นั้น ผมยืนยันว่าผู้มีอำนาจต้องการทำทุกวิถีทางเพื่อยับยั้งเรา โดยเราเข้ามาทำงานการเมืองวันนี้ก็ 4 ปีแล้ว ไม่เคยมีครั้งไหนที่เราทำเพื่อประโยชน์ส่วนตัวเลย อีกทั้งคนรอบตัวเราก็โดนคดีด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้ทำเพื่อการหยุดยั้งเรา

“ขอยืนยันกับพี่น้องประชาชนว่าไม่สามารถหยุดยั้งความตั้งใจจริงของเราได้ จะทำงานอย่างเต็มที่ไปเรื่อย ๆ ย้ำว่าพร้อมสู้คดีในขั้นศาลต่อไปเรื่อย ๆ”

เมื่อผู้สื่อข่าวถามเพิ่มเติมถึงกรณีมีกระแสข่าวว่าพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา และพลเอกประวิตร วงศ์สุวรรณจะแยกพรรคกันนั้น จะส่งผลต่อระบอบการเมืองอย่างไร นายธนาธร ระบุว่า ระบอบประยุทธ์ไม่ว่าคุณประยุทธ์จะอยู่หรือไม่ ระบอบมันใหญ่กว่านั้น มันอยู่ในองค์กรอิสระ อยู่ในรูปแบบร่างรัฐธรรมนูญ ร่างวิธีคิดแบบต่าง ๆ ซึ่งเราต้องเอาประเทศไทยกลับมาเป็นประชาธิปไตยให้ได้ และไม่ว่าใครจะเป็นนายกรัฐมนตรี ก็ต้องแก้รัฐธรรมนูญปีพ.ศ.2560 ก่อน รวมไปถึงผลักดันเรื่องการกระจายอำนาจ ซึ่งการแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับตอนนี้เป็นเรื่องยาก แต่ในสภามีการแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญ ในหมวด 14 เกี่ยวกับการปลดล็อกท้องถิ่น ก็ขึ้นอยู่กับประชาชนว่าเห็นด้วยหรือไม่กับการทำประชามติที่อำนาจจะอยู่ที่ประชาชน และเชื่อว่าเป็นไปได้

“ผมเชื่อมั่นว่าพรรคก้าวไกล ก็พร้อมที่จะลงเลือกตั้งอย่างเต็มที่ ไม่ว่ากติกาการเลือกตั้งจะออกมาเป็นแบบไหน เชื่อว่าผลงานการทำงานท้องถิ่นของคณะก้าวหน้า ผลงานของพรรคอนาคตใหม่ ผลงานของพรรคก้าวไกลในสภา ประชาชนจะเห็น และเข้าใจในสิ่งที่เราทำ ส่วนปัจจัยอื่น ๆ ที่ควบคุมไม่ได้เราไม่ต้องสนใจมัน สนใจแค่สิ่งที่อยู่ในขอบเขตที่เราสามารถทำให้ดีขึ้นได้ อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด”

Related Posts

Send this to a friend