POLITICS

‘สุชาติ’ ไม่ตอบโต้ ขอทำงาน 4 เดือนให้ดีที่สุด ปมถูก ‘รักชนก’ อภิปราย

‘สุชาติ’ ไม่ตอบโต้ ขอทำงาน 4 เดือนให้ดีที่สุด ปมถูก ‘รักชนก’ สส.ปชน.อภิปราย ลั่น คุณสมบัติครบ ครั้งนี้ตรวจสอบเข้ม เผยไม่อยากถกเถียง ฟ้องไปก็ไร้ประโยชน์

วันนี้ (30 ก.ย. 68) นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงการอภิปรายการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาที่บางช่วงเป็นไปด้วยความดุเดือด เนื่องจาก นางสาวรัชนก ศรีนอก สส.พรรคประชาชน อภิปรายพาดพิงว่า การอภิปรายนิดเดียว แค่เฉี่ยว ๆ และนางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานก็ได้ชี้แจงไปหมดแล้ว พร้อมระบุว่าเป็นเวทีที่แสดงผลงานไม่เป็นไร สิ่งที่ สส.ได้พูดไว้อยู่ในกระบวนการทั้งหมด และตนเองก็ยืนยันมาโดยตลอดว่าพร้อมอยู่แล้ว ซึ่งเรื่องนี้ผ่านมาแล้วเป็นปี 2 ปี ซึ่งกระบวนการทุกอย่างสิ้นสุดไปหมดแล้ว และเรื่องที่เอ่ยมาทั้งหมดก็มีคำตอบอยู่ในตัวเองอยู่แล้ว ถึงไม่รู้ว่าจะพูดไปเพื่ออะไร เนื่องจากพูดไปก็เป็นหนังเก่านำมาฉายใหม่ การเป็นนักการเมือง เป็นผู้บริหารประเทศ เป็นรัฐมนตรี ต้องพร้อมเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบอยู่แล้ว และพร้อมให้ข้อมูลเพราะต้องการแสดงความบริสุทธิ์ แต่เชื่อว่าเรื่องที่กล่าวหาในช่วงแรก ๆ หากเรื่องอยู่ที่ไหนก็สามารถทำหนังสือส่งไปสอบถามได้เลย

“เราเชื่อมั่นว่าเราไม่มีข้อกล่าวหาใด ๆ ทั้งสิ้น ถ้ามีข้อกล่าวหาเราจะผ่านการตรวจสอบมาทั้ง 10 กว่าหน่วยงานได้อย่างไร ถ้าคุณมีแผล หรือคุณเป็นคนที่มีข้อกล่าวหา ไม่มีทางได้เป็นรัฐมนตรีหรอก เพราะว่าครั้งนี้การตรวจสอบเข้มข้นมากด้วย ผมยืนยันว่าถ้าสงสัยให้ทำหนังสือไปถามหน่วยงานนั้นเลย แล้วเขาจะเป็นผู้ตอบเอง ผมตอบแทนมันดูไม่ดี แต่ผมเชื่อมั่นว่าผมบริสุทธิ์ทุกเรื่อง ผมเชื่อมั่นว่าสิ่งที่กล่าวหาต่าง ๆ เป็นเรื่องของการเมือง แต่สุดท้ายผลลัพธ์คืออะไร กล่าวหาแล้วหากผลลัพธ์ไม่ใช่อย่างนั้น ใครรับผิดชอบในสิ่งที่กล่าวหา ต้องมานั่งถกเถียงกันไปมา ผมไม่อยากทะเลาะอะไรกับใคร ตั้งหน้าตั้งตาทำงานดีกว่า 4 เดือน ผมไม่อยากไปถกเถียงกับใครเพราะถ้าผมขึ้นไปพูด ไม่จบ” นายสุชาติ กล่าว

นายสุชาติยังกล่าวเพิ่มเติมว่าเรื่องที่สงสัยขอให้เป็นหน้าที่ของนางสาวตรีนุช ที่ต้องดำเนินการ รวมถึงหากสงสัยก็ทำหนังสือไปสอบถามหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เชื่อมั่นว่าจะได้รับคำตอบที่แท้จริง ทั้งนี้มั่นใจว่าตนเองไม่ได้ทำอะไรผิด ส่วนเรื่องการฟ้องร้องนั้นส่วนตัวคิดว่าเมื่อเป็นผู้บริหารบ้านเมืองขนาดนี้ก็ไม่อยากไปฟ้องร้องกับใคร ที่ผ่านมาที่ไปฟ้องเพราะต้องการให้รู้ถึงสิทธิ์ของบุคคลแม้จะเป็นคนสาธารณะแต่ก็ต้องปกป้องสิทธิ์ตัวเอง เพราะมีครอบครัว และสิ่งที่สะสมมาตลอด 10 ปีจะมาสูญเสียเพราะคำพูดของคนไม่ได้ ดังนั้นต้องปกป้องสิทธิ์ตัวเอง และผลลัพธ์จากการฟ้องร้องไม่ใช่เอามาปิดปากใครแต่เป็นเรื่องของการรักษาสิทธิ์ พร้อมย้ำว่าการฟ้องร้องสาวนตัวมองว่าเป็นเรื่องที่ไม่มีประโยชน์ เนื่องจากเห็นว่าเป็นเรื่องที่ประชาชนรับได้เอง

Related Posts

Send this to a friend