POLITICS

‘ชูศักดิ์’ เตรียมถกหัวหน้าพรรคการเมือง ดัน แนวทางแก้ รธน. ให้ชัด

หลัง สว. กลับไปใช้มติ 2 ชั้น เผย อาจลดขั้นตอนทำประชามติแก้ รธน. 2 ครั้ง หลังทำไม่ทันเลือก “อบจ.” ต้นปีหน้า

วันนี้ (30 ก.ย. 67) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่วุฒิสภามีแนวโน้มที่จะแก้ไขร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการออกเสียงประชามติ โดยให้ฟื้นใช้เกณฑ์เสียงข้างมากสองชั้น (Double Majority) ในการลงมติแก้ไขรัฐธรรมนูญ แตกต่างจากสภาผู้แทนราษฎรที่มีมติใช้เสียงข้างมากชั้นเดียวหรือเสียงข้างมากธรรมดา ว่า เราต้องดูว่าท้ายที่สุดมติวุฒิสภาจะเห็นตามกรรมาธิการ (กมธ.) ของวุฒิสภาอย่างไรหรือไม่ ถ้าเห็นว่ากลับมาสองชั้น ก็แตกต่างจากมติของสภาฯ หากเป็นเช่นนั้นก็ต้องเอาข้อบังคับมาพิจารณาร่วมกัน ซึ่งอาจมี กมธ. ร่วมกัน ซึ่งการพิจารณาร่าง พ.ร.บ. ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ ก็จะช้ากว่าไทม์ไลน์ที่เป็นอยู่ที่ให้ทำพร้อมกับการเลือกสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ในเดือนก.พ.ปี 68 ซึ่งไม่สามารถทำได้ อาจต้องมีการแยกการพิจารณาทำคนละครั้ง

“ทางออกที่ดีที่สุดคือการหารือร่วมกับตัวแทนพรรคการเมืองทั้งหลาย ประกอบด้วยหัวหน้าพรรคการเมืองที่ต้องคุยกันให้ชัด ว่าการเดินต่อไปควรจะเดินแบบไหน เช่น ขณะนี้มีข้อเสนอให้แก้รัฐธรรมนูญมาตรา 256 เลยหรือไม่ โดยเสนอญัตติให้จัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้ และถ้าผ่านรัฐสภาก็ไปทำประชามติเลย ซึ่งแนวทางนี้จะทำประชามติเพียงสองครั้ง ไม่จำเป็นต้องสามครั้งเหมือนเดิม ซึ่งนักวิชาการ และใครต่อใครได้ให้แนวทางมา ผมจึงอยากให้คุยกับหัวหน้าพรรคให้ชัด เพราะเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญเป็นนโยบายของรัฐบาลว่าควรจะเดินไปอย่างไร“ นายชูศักดิ์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า การกลับไปทำประชามติสองชั้นทำให้การผลักดันรัฐธรรมนูญไม่สำเร็จหรือยากขึ้ยหรือไม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า เมื่อสถานการณ์เป็นเช่นนี้ และรัฐบาลจำเป็นต้องเดินหน้าต่อเรื่องทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ จึงต้องหารือว่าเราควรจะเดินอย่างไรต่อไป มีทางเลือกอะไรบ้าง

นายชูศักดิ์ กล่าวถึงการคุยกับหัวหน้าพรรคการเมือง ส่งผลไปถึง สว. ในการปรับการแก้ไขจากสองชั้นให้เหลือเพียงชั้นเดียวตามที่สภาฯ เคยเห็นชอบหรือไม่ ว่า ตรงนั้นเกินไทม์ไลน์ไปแล้ว ปล่อยเป็นดุลพินิจของ สว. แต่สมมติว่าสถานการณ์เป็นอยู่แบบนี้ โดยวุฒิสภากลับมาเป็นเกณฑ์ลงมติสองชั้น ในฐานะรัฐบาลก็มีนโยบายจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เราก็มาเริ่มต้นพูดคุยกันดีหรือไม่ ว่าท้ายสุดควรจะเดินไปอย่างไรจะทำให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ราบรื่น และนโยบายรัฐบาลก็ยังมีอยู่โดยได้แถลงต่อรัฐสภาไปแล้ว แต่ขั้นตอนคือควรพูดคุยแก้ไขปัญหากันอย่างไรเมื่อสถานการณ์เป็นเช่นนี้

เมื่อถามย้ำว่า การพูดคุยกับหัวหน้าพรรคการเมือง ต้องการให้พรรคการเมืองหนึ่งเห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญใช่หรือไม่ ซึ่งจะมีผลต่อสว.ด้วยใช่หรือไม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า อย่าไปพูดแบบนั้นมันไม่ดี เอาเป็นว่าตนเองขอเสนอให้มานั่งจับเข่าคุยกันในฐานะที่เป็นพรรครัฐบาลด้วยกัน ซึ่งประกอบด้วยหลายพรรค ว่าถ้า สว. เดินไปแบบนี้แล้วรัฐบาลจะมีแนวทางอย่างไร

Related Posts

Send this to a friend